โซล (รอยเตอร์ส/ยอนฮัพ) – ประธานาธิบดี ยุน ซอก-ยอล ผู้นำเกาหลีใต้ ซึ่งกำลังเผชิญการถอดถอนออกจากตำแหน่ง ปฏิเสธหมายเรียกตัวสอบปากคำกรณีประกาศกฎอัยการศึกฉุกเฉินของหน่วยสอบสวนร่วมเป็นครั้งที่ 2 ในวันพุธที่ 25 ธ.ค. หลังจากเขาไม่ได้ปฏิบัติตามหมายเรียกครั้งที่ 1 ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

หน่วยสอบสวนร่วมข้างต้นที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานใหญ่การสอบสวนของกระทรวงกลาโหม และสำนักงานสอบสวนการทุจริตของเจ้าหน้าที่ระดับสูง (CIO)
ได้ส่งหมายเรียกตัวครั้งที่ 2 แก่ยุนเมื่อวันศุกร์ที่ 20 ธ.ค. ซึ่งกำหนดการสอบปากคำยุน ตอน 10.00 น. ของวันพุธที่ 25 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่นแต่ตลอดทั้งวัน ยุนไม่ได้เดินทางมาให้ปากคำตามหมายเรียก ปัจจุบัน สำนักงานสอบสวนการทุจริตของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ซึ่งเป็นผู้ส่งหมายเรียกตัวครั้งแรก จะตัดสินใจอีกครั้งภายในวันพฤหัสบดีที่ 26 ธ.ค. ว่าจะส่งหมายเรียกตัวครั้งที่ 3 หรือไม่ ซึ่งหากเขายังไม่มาตามหมายเรียกเป็นครั้งที่ 3 ก็อาจถูกออกหมายจับต่อไป

ทั้งนี้ กลุ่มหน่วยงานสอบสวนของเกาหลีใต้ระบุยุนเป็นผู้ต้องสงสัยในข้อกล่าวหาก่อกบฏ หลังจากเขาประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ซึ่งถูกยกเลิกในอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมาเพราะรัฐสภาเกาหลีใต้ลงคะแนนเสียงไม่เห็นชอบด้วย

ก่อนหน้านั้น พรรคประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักประกาศว่า จะรออีก 2 วัน ก่อนจะยืนญัตติถอดถอน ฮัน ด็อก-ซู รักษาการประธานาธิบดีออกจากตำแหน่ง จากกรณีที่เขาไม่ยอมประกาศใช้ร่างกฎหมาย 2 ฉบับที่ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อสอบสวนประธานาธิบดียุน และ คิม กอน ฮี ภริยาของเขา การตัดสินใจว่าจะเลื่อนกำหนดการออกไปก่อนก็เพื่อดูว่า นายฮัน จะแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ เมื่อญัตติเกี่ยวกับการแต่งตั้งผ่านการพิจารณาของรัฐสภาในวันพฤหัสบดีนี้

การลงมติถอดถอนประธานาธิบดีจะต้องใช้เสียงของสมาชิกรัฐสภา 2 ใน 3 แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงใช้คะแนนเสียงเพียงกึ่งหนึ่ง พรรคพลังประชาชน หรือ PPP ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลแย้งว่า ตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดีควรจะต้องใช้มติที่ประชุมรัฐสภา 2 ใน 3 เช่นเดียวกับประธานาธิบดี ในขณะที่พรรค DP เห็นว่านายฮัน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แค่รักษาการในตำแหน่งประธานาธิบดี จึงควรใช้มติกึ่งหนึ่งของรัฐสภา