โซล (รอยเตอร์/ยอนฮัพ) - ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้เริ่มพิจารณาถอดถอนประธานาธิบดี ยุน ซอก-ยอล เป็นครั้งแรก ขณะที่สภานิติบัญญัติเกาหลีใต้ลงมติญัตติถอดถอนนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานาธิบดี ด้านอัยการเกาหลีใต้สั่งฟ้องนอดีตรัฐมนตรีกลาโหมข้อหาเป็นกบฏ เป็นบุคคลแรกที่ถูกฟ้องในกรณีที่ประธานาธิบดีประกาศใช้กฎอัยการศึกเมื่อกลางดึกวันที่ 3 ธันวาคม
ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้เริ่มพิจารณาถอดถอนประธานาธิบดี ยุน ซอก-ยอล นัดแรกเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. โดยศาลได้รับหนังสือมอบอำนาจทนายความ ที่ออกโดย
ตัวแทนทางกฎหมายของประธานาธิบดียุนแล้ว หลังจากที่ทางฝ่ายยุนได้ท้าทายศาลรัฐธรรมนูญมานานหลายสัปดาห์ ด้วยการละเลยการทวงถามจากศาลรัฐธรรมนูญตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ให้ยื่นเอกสารมอบอำนาจทนายความต่อศาล และไม่ไปให้ปากคำเจ้าหน้าที่สอบสวนในคดีอาญาอีกคดีหนึ่งจากการประกาศใช้กฎอัยการศึก อย่างไรก็ดี ยุนไม่ยื่นเอกสารรับทราบการไต่สวนตามที่ศาลรัฐธรรมนูญร้องขอ และกฎหมายไม่ได้บังคับให้เขาต้องไปรับฟังการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจตัดสินขั้นสุดท้ายว่า จะถอดถอนยุนออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีหรือไม่ ถ้าหากศาลมีคำตัดสินไม่ถอดถอนยุน เขาจะได้รับคืนอำนาจการเป็นประธานาธิบดี
ขณะนี้ ยุนยังคงเป็นประธานาธิบดีอยู่แม้ถูกสภานิติบัญญัติลงมติถอดถอนสำเร็จเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา แต่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสิน ศาลมีเวลา180 วัน และต้องใช้เสียงผู้พิพากษา 6 ใน 9 เสียงจึงจะถอดถอนยุนได้
ในวันเดียวกัน สภานิติบัญญัติเกาหลีใต้ เข้าร่วมประชุมเพื่อลงมติผ่านญัตติถอดถอน ฮัน ด็อกซู นายกรัฐมนตรีและรักษาการประธานาธิบดี จากกรณีที่ฮันปฏิเสธแต่งตั้ง
ผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญใหม่ 3 คนที่ฝ่ายค้านได้เสนอชื่อไป ก่อนลงมติถอดถอนด้วยคะแนนโหวต 192 เสียง ทั้งนี้ ฮัน ด็อกซูถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งหลังเข้ามารับหน้าที่ไม่ถึง 2 สัปดาห์ นับเป็นครั้งแรกที่รักษาการประธานาธิบดีถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง โดยหลังจากนี้ ชอย ซัง ม็อก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะขึ้นดำรงตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดีตามกฎหมาย
ในอีกด้านหนึ่ง อัยการเกาหลีใต้สั่งฟ้อง คิม ยงฮยอน อดีตรัฐมนตรีกลาโหมข้อหาเป็นกบฏแล้วเช่นกันเมื่อวันที่27 ธ.ค. นับเป็นบุคคลแรกที่ถูกฟ้องในกรณีที่ประธานาธิบดีประกาศใช้กฎอัยการศึกเมื่อกลางดึกวันที่ 3 ธันวาคม คณะอัยการพิเศษที่ดูแลคดีนี้แถลงแจกแจงรายละเอียดข้อกล่าวหานายคิมขณะประกาศเรื่องสั่งฟ้องว่า เขาได้หารือเรื่องใช้กฎอัยการศึกกับนายยุนหลายครั้ง อย่างน้อยตั้งแต่เดือนมีนาคม และเริ่มเตรียมการลงมือจริงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เขาเป็นผู้สั่งระดมกำลังพลจากหลายหน่วยงานไปยังสมัชชาแห่งชาติเพื่อขัดขวางสมาชิกสภาที่จะลงมติคัดค้านคำสั่งใช้กฎอัยการศึก โดยได้สั่งให้ผู้บัญชาการกองบัญชาการปกป้องเมืองหลวงพังประตูเข้าไปลากตัวสมาชิกสภาออกมา และได้สั่งให้หัวหน้ากองบัญชาการต่อต้านข่าวกรองกลาโหมควบคุมตัวคนจำนวนหนึ่ง โดยมีประธานสภา ประธานพรรครัฐบาลและประธานพรรคฝ่ายค้านรวมอยู่ด้วย การกระทำของนายคิมเท่ากับมีเจตนาล้มล้างรัฐธรรมนูญและสร้างความโกลาหล จึงเข้าข่ายการถูกตั้งข้อหาเป็นกบฏ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี