จีนจะขึ้นเงินเดือนข้าราชการครั้งแรกในรอบ 10 ปี
ปักกิ่ง - รัฐบาลจีนจะขึ้นเงินเดือนข้าราชการหลายล้านคนทั่วประเทศในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเทียบเท่ากับการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจครั้งเดียว12,000-20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 413,640-689,400ล้านบาท) ข้าราชการทั้ง 48 ล้านคนได้รับการขึ้นเงินเดือนเฉลี่ยเดือนละ 500 หยวน (ราว 2,360 บาท) หากเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยจะได้ขึ้นเดือนละเกือบ 300 หยวน (ราว 1,415 บาท) ข้าราชการหลายรายจะได้รับการขึ้นเงินเดือนย้อนหลังไปถึงเดือนกรกฎาคม 2567 โดยจะได้รับในครั้งเดียว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเป็นแห่งแรกว่า จีนจะขึ้นเงินเดือนให้แก่ครูอาจารย์ ตำรวจ และข้าราชการทั่วประเทศ ขณะที่ข้าราชการจีนเริ่มโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์เรื่องการขึ้นเงินเดือนตั้งแต่ช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ จีนประกาศขึ้นเงินเดือนข้าราชการครั้งหลังสุดในปี 2558 ครั้งนั้นขึ้นมากกว่าร้อยละ 30 หวังปราบปรามการทุจริตและเพิ่มอำนาจการใช้จ่ายของผู้บริโภค จำนวนผู้สมัครเข้ารับราชการในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่านับจากปี 2557 แม้ว่ารัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่งมีปัญหาทางการเงิน และเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา มีหนุ่มสาวชาวจีนสมัครสอบเป็นข้าราชการมากเป็นประวัติการณ์ถึง 3.4 ล้านคน เนื่องจากเป็นงานที่มีความมั่นคงในยามที่งานในภาคเอกชนมีแรงกดดันสูง
ประชากรโลกแตะ 8.09 พันล้านคนในวันปีใหม่ 2025
นิวยอร์ก - รายงานการคาดการณ์จากสำนักสำมะโนประชากรของสหรัฐฯ เมื่อไม่นานนี้ เผยว่าจำนวนประชากรโลกเพิ่มขึ้นมากกว่า 71 ล้านคนในปี 2024 ซึ่งคิดเป็น 8,090 ล้านคนในวันปีใหม่ (1 ม.ค.) ที่ผ่านมา จำนวนประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 ในปี 2024 ชะลอตัวเล็กน้อยจากปี 2023 ซึ่งเป็นช่วงที่ประชากรโลกเพิ่มขึ้น 75 ล้านคน ส่วนในเดือนมกราคม 2025 รายงานคาดว่าจำนวนการเกิดจะอยู่ที่ 4.2 คน และมีผู้เสียชีวิต 2 ศพทุกๆ วินาทีทั่วโลก ในส่วนประชากรในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.6 ล้านคนในปี 2024 รวมอยู่ที่ 341 ล้านคนในวันปีใหม่ และคาดว่าสหรัฐฯ จะมีเด็กเกิดใหม่ 1 คนทุก 9 วินาที และมีผู้เสียชีวิต 1 ศพ ทุก 9.4 วินาทีในเดือนมกราคม 2025 ขณะที่การย้ายถิ่นฐานระหว่างประเทศจะส่งผลให้ประชากรสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1 คนทุก 23.2 วินาที และเมื่อนับรวมการเกิด การเสียชีวิต และการย้ายถิ่นฐานระหว่างประเทศจะทำให้จำนวนประชากรสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น1 คนทุก 21.2 วินาที
อากาศเมืองหลวงเวียดนามแตะระดับอันตราย
ฮานอย - กรุงฮานอยของเวียดนามถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันพิษเมื่อวันที่ 3 ม.ค. ดัชนีคุณภาพอากาศหรือเอคิวไอ ของไอคิวแอร์ (IQAir) บริษัทเทคโนโลยีด้านคุณภาพอากาศของสวิตเซอร์แลนด์ที่ติดตามคุณภาพอากาศตามเมืองต่างๆ ทั่วโลก จัดอันดับให้คุณภาพอากาศในกรุงฮานอยอยู่ในระดับอันตราย โดยบางช่วงมีค่าเอคิวไอสูงถึง 305 ชาวเมืองที่เป็นผู้สูงวัยเผยว่า กลุ่มผู้สูงวัยจะมีความรู้สึกไวเป็นพิเศษต่อคุณภาพอากาศที่แย่ลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เพราะจะหายใจได้ลำบากขึ้น หมอกควันพิษที่หนาทึบเกิดจากการจราจรหนาแน่น การเผาขยะ และการปล่อยควันจากโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้กรุงฮานอยที่อยู่ทางตอนเหนือของเวียดนามมีทัศนวิสัยในช่วงเช้าแย่ลงอย่างมากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อท้องถิ่นเวียดนามรายงานว่า รองนายกรัฐมนตรี เจิ่น ฮองฮา เรียกร้องระหว่างการประชุมกับกระทรวงคมนาคมเมื่อวานนี้ ให้เร่งการเปลี่ยนไปใช้ยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี ให้เร็วขึ้นเพื่อลดมลภาวะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี