โทษไบเดนเปิดพรมแดนทำเกิดก่อการร้าย
วอชิงตัน - โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพสต์ข้อความผ่าน Truth Social สื่อออนไลน์ของตัวเอง กล่าวโทษนโยบายเปิดพรมแดนของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ทำให้เกิดการก่อการร้ายจากกลุ่มมุสลิมสุดโต่ง ที่อดีตนายทหารประจำกองทัพสหรัฐฯ ขับรถปิคอัพพุ่งชนฝูงชน ที่เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา เมื่อเช้ามืดวันขึ้นปีใหม่ มีผู้เสียชีวิตถึง 15 คน ข้อมูลจากสำนักงานสืบสวนกลาง หรือเอฟบีไอ ล่าสุด พบว่า เขาเคยโพสต์คลิปสนับสนุนกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ต้องสงสัยปฏิบัติการเพียงลำพัง ไม่พบความเชื่อมโยงกับคนกลุ่มใด ส่วนอีกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันเดียวกัน เกิดระเบิดกับรถปิคอัพไฟฟ้า ไซเบอร์ทรัค ของเทสลา ด้านหน้าโรงแรมทรัมป์ในเมืองลาส เวกัส รัฐเนวาดา คนในรถเสียชีวิต 1 คน มีผู้บาดเจ็บอีก 7 คน ผู้เสียชีวิตในรถ คือ แมททิว ลิเวลส์เบอร์เกอร์ วัย 37 ปี เป็นทหารที่ยังประจำการอยู่ในรัฐโคโลราโด ตำรวจเปิดเผยข้อมูลล่าสุดพบว่า ทหารนายนี้ได้ยิงตัวเองก่อนที่รถคันนี้จะระเบิดขึ้น ยืนยันยังไม่พบความเชื่อมโยงใน 2 เหตุการณ์นี้แต่อย่างใด
ผู้อพยพแห่ขึ้นเกาะคะแนรี
มาดริด - กระทรวงมหาดไทยสเปน เปิดเผยว่า ในปี 2024 มีผู้อพยพมาขึ้นฝั่งที่หมู่เกาะคะแนรี ของสเปน มากเป็นประวัติการณ์ ที่ 46,843 คน ขณะสเปนรับรองผู้อพยพเข้าประเทศผ่านชอบทางที่ผิดกฎหมายมากถึง 63,970 คน เมื่อปีที่แล้ว สูงขึ้นกว่าปี 2023 ถึงราว 7,000 คน ด้าน Frontex หน่วยงานด้านพรมแดนของสหภาพยุโรป หรือ อียู เปิดเผยว่า การเดินทางข้ามพรมแดนด้วยวิธีการที่ผิดกฎหมายเข้าสู่อียู ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง พฤศจิกายน 2024 โดยภาพรวมลดลง 40% แต่กลับเพิ่มสูงขึ้นราว 19% ในเส้นทางแอตแลนติก เป็นผู้อพยพจากมาลี เซเนกัล และโมรอกโก ที่พยายามอพยพข้ามประเทศไปยังอียู ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางที่อันตรายที่สุดในโลก โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่งมีเหตุเรือล่มจนมีผู้เสียชีวิต 69 ราย รวมถึงชาวมาลี 25 ราย จากเรือที่มุ่งหน้าจากแอฟริกาตะวันตกไปยังหมู่เกาะคะแนรี ก่อนจะจมลงแถบประเทศโมรอกโก รายงานจาก Caminando Fronteras เมื่อเดือนที่แล้ว พบว่า มีผู้อพยพราว 10,457 คน ที่เสียชีวิต หรือสูญหาย ระหว่างโดยสารเรือเพื่อไปให้ถึงสเปน ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 5 ธันวาคม 2024 สูงกว่าปี 2023 ถึง 50% และเป็นตัวเลขที่สูงที่สุด นับตั้งแต่ปี 2007 ที่เริ่มเก็บข้อมูลมา เนื่องจากเรือที่ไม่ได้มาตรฐาน เส้นทางน้ำที่อันตราย และขาดซึ่งอุปกรณ์ในการกู้ชีพ
มิลานสั่งห้ามสูบบุหรี่กลางแจ้ง
โรม - เมืองมิลานของอิตาลีเริ่มบังคับใช้ข้อห้ามสูบบุหรี่ที่เข้มงวดที่สุดในอิตาลี ด้วยการจำกัดการสูบบุหรี่ในพื้นที่กลางแจ้งสาธารณะทั้งหมด อาทิ จัตุรัสในเมือง ถนน และที่จอดรถ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา ยกเว้นพื้นที่ห่างชุมชนที่สามารถรักษาระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 10 เมตร โดยมีจุดประสงค์ปรับปรุงผลลัพธ์ด้านสุขภาพและคุณภาพอากาศในเขตเทศบาลเมือง ประกาศใหม่นี้เป็นการยกระดับเพิ่มเติมจากข้อห้ามเมื่อปี 2021 ซึ่งสั่งห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่สาธารณะในร่ม รวมถึงบริเวณใกล้ป้ายรถประจำทางกลางแจ้ง สวนสาธารณะ สุสาน และสถานที่เล่นกีฬา เอเลนา กรานดี สมาชิกสภาเมืองมิลานด้านสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ ระบุว่าข้อจำกัดใหม่ข้างต้นเป็นมาตรการที่รับรองการดำเนินการอันเป็นรูปธรรม ซึ่งจะทำให้ชาวเมืองทุกคนได้รับประโยชน์ทั้งในแง่ของสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และแม้การบังคับใช้มาตรการนี้อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันจะเป็นเครื่องมือที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมอย่างแท้จริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี