7 ม.ค. 2568 สำนักข่าว Anadolu Agency ของตุรกี รายงานข่าว South Korea, Japan to probe deadly air crash อ้างการเปิดเผยจากหน่วยงานตำรวจของเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2568 ว่า จะมีการประสานความร่วมมือกับทางการญี่ปุ่น ในการสืบสวนหาสาเหตุกรณีเครื่องบินโดยสารของสายการบินเจจูแอร์ ตกเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2567 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 179 ราย ซึ่งสืบเนื่องจากกระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ ระบุว่าได้รับอีเมลที่ผู้ส่งระบุว่าเป็นทนายความชาวญี่ปุ่น อ้างความรับผิดชอบต่อโศกนาฎกรรมดังกล่าว อีกทั้งยังมีข้อความข่มขู่วางระเบิดในหลายจุดของเกาหลีใต้ด้วย
ทางการเกาหลีใต้สงสัยว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังอีเมลดังกล่าวคือบุคคลเดียวกับที่ส่งภัยคุกคามในลักษณะเดียวกันทางอีเมลและแฟกซ์ไปยังองค์กรใหญ่ๆ ของเกาหลีใต้ตั้งแต่เดือน ส.ค. 2546 ขณะที่คณะทำงานสอบสวนเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้ ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ ตัวแทนจากสหรัฐอเมริกา และผู้เชี่ยวชาญของบริษัทโบอิ้ง กำลังดำเนินการตรวจสอบ โดยรายงานระบุว่า ขาลงจอดของเครื่องบินทั้ง 3 ทำงานผิดปกติ และนักบินแจ้งหอควบคุมว่าเครื่องบินถูกนกชน ส่วนเครื่องบันทึกการบิน หรือกล่องดำ ซึ่งได้รับความเสียหายจะถูกส่งไปยังสหรัฐฯ เพื่อถอดรหัส
อีกด้านหนึ่ง สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว South Korean transport minister plans to resign over country's worst air crash ระบุว่า ปาร์ก ซัง-วู (Park Sang-woo) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้ เปิดเผยเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2568 ว่า ตนตั้งใจจะลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุเครื่องบินตกดังกล่าว แต่การลาออกจะเกิดขึ้นในจังหวะที่เหมาะสมภายหลังจากจัดการกับสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว นอกจากนั้น กระทรวงคมนาคมยังกล่าวอีกว่า จะเร่งปรับปรุงความปลอดภัยของระบบลงจอดในสนามบิน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเป็นอีกปัจจัยของโศกนาฎกรรมครั้งนี้
ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางอากาศ อธิบายว่า “คันทาง (Embankment)" ซึ่งออกแบบมาเพื่อค้ำยันเสาอากาศระบุตำแหน่งที่ใช้นำทางลงจอดในสภาพทัศนวิสัยไม่ดีนั้นแข็งเกินไปและอยู่ใกล้กับปลายรันเวย์มากเกินไป ขณะที่ จู จง-วาน (Joo Jong-wan) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้ ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานการบินพลเรือน ยอมรับว่า มาตรการด้านความปลอดภัยไม่เพียงพอในการสร้างคันทาง แต่ยืนยันว่าได้ดำเนินการตามระเบียบข้อบังคับทั้งในเกาหลีใต้และต่างประเทศ และตำรวจกำลังตรวจสอบอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตำรวจได้เข้าตรวจค้นเครื่องบินของสายการบินเจจูแอร์และบริษัทผู้ดำเนินการท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน เพื่อสอบสวนเหตุการณ์เครื่องบินตก โดย ลี ซึง-ยอล (Lee Seung-yeol) หัวหน้าคณะผู้สืบสวน เปิดเผยว่า พบขนนกบนเครื่องยนต์เครื่องหนึ่งที่เก็บกู้ได้จากที่เกิดเหตุ และยังมีภาพวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่ามีนกบินชนเครื่องยนต์เครื่องหนึ่ง
ในวันที่ 6 ม.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจากเกาหลีใต้ 2 คน ได้เดินทางไปยังสหรัฐฯ เพื่อกู้และวิเคราะห์เครื่องบันทึกข้อมูลการบินซึ่งได้รับความเสียหายระหว่างการตกของเครื่องบิน โดยร่วมกับคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐฯ ซึ่งเครื่องบันทึกข้อมูลการบินพร้อมเครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบินเป็นกล่องดำ 2 กล่องที่บรรจุข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเหตุการณ์เครื่องบินตก โดย ลี กล่าวว่า จะใช้เวลา 3 วันในการแยกไฟล์ออกจากเครื่องบันทึกข้อมูลการบิน และอีก 2 วันในการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น เช่น เครื่องยนต์ขัดข้อง 1 หรือ 2 เครื่อง
ยังไม่มีคำตอบว่าเหตุใดเครื่องบินจึงไม่กางล้อลงจอด และอะไรทำให้ดูเหมือนว่านักบินจะรีบลงจอดอีกครั้งหลังจากแจ้งศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศว่าเครื่องบินถูกนกชนและประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า โดยปกติแล้วการถูกนกชนไม่ได้ทำให้ล้อลงจอดทำงานผิดปกติ ขณะที่เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2568 ชุดสืบสวนได้รวบรวมบทสนทนาทั้งหมดจากเครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบินที่กู้คืนมาจากซากเครื่องบินของสายการบินเจจูแอร์ และจะหารือกันว่าจะเปิดเผยเรื่องนี้หรือไม่
ขอบคุณเรื่องจาก
https://www.aa.com.tr/en/asia-pacific/south-korea-japan-to-probe-deadly-air-crash/3442757
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี