13 ม.ค. 2568 นสพ. South China Morning Post ของฮ่องกง รายงานข่าว Can Hong Kong task force in Thailand help prevent more ‘high-paying’ job scams? ระบุว่า การเพิ่มขึ้นของจำนวนเหยื่อค้ามนุษย์ชาวฮ่องกง ซึ่งถูกล่อลวงให้เดินทางไปยังประเทศไทยก่อนถูกบังคับให้ข้ามชายแดนไปทำงานผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ทางการฮ่องกงต้องตั้งคณะทำงานพิเศษ หรือชุดเฉพาะกิจขึ้นเพื่อติดตามเรื่องนี้
ชุดเฉพาะกิจที่นำโดย ไมเคิล ชุค โหว-ยิป (Michael Cheuk Hau-yip) รองเลขาธิการสำนักงานความมั่นคงแห่งฮ่องกง ออกเดินทางไปกรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทย เมื่อช่วงค่ำวันที่ 12 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา โดยมีแผนที่จะเข้าพบเจ้าหน้าที่ทางการไทยและจีน รวมถึงหารือกับตัวแทนกระทรวงยุติธรรมของไทย ซึ่งอยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
แกรี ชาน ฮัก-กัน (Gary Chan Hak-kan) สมาชิกสภานิติบัญญัติฝ่ายความมั่นคงของฮ่องกง กล่าวเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2568 ว่า รัฐบาลฮ่องกงได้ส่งชุดเฉพาะกิจไปหลังจากที่จำนวนผู้สูญหายเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา การร้องขอความช่วยเหลือจากครอบครัวของเหยื่อ รวมถึงการช่วยเหลือ หวัง ซิง (Wang Xing) นักแสดงชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ตกเป็นเหยื่อของเครือข่ายค้ามนุษย์เมื่อไม่นานนี้
ชาน ซึ่งเคยอยู่ในคณะทำงานช่วยเหลือเหยื่อเมื่อปี 2565 ตั้งข้อสังเกตว่า บางทีหลังจากข่าวคราวเกี่ยวกับการหลอกลวงเริ่มเงียบลงเมื่อ 2 ปีก่อน ผู้คนก็เริ่มละทิ้งความระมัดระวังในการหางานที่โฆษณาชวนเชื่อว่าให้เงินเดือนสูง ซึ่งการเดินทางเยือนครั้งสำคัญของรัฐบาลฮ่องกงสามารถช่วยจัดการกับคดีที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้ ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสที่จะเตือนประชาชนว่าควรคิดให้ดีก่อนตกลงรับงานเหล่านี้ และตนคาดหวังว่า ชุดเฉพาะกิจของฝ่ายความมั่นคงจะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง (ETO) และสถานทูตจีนในไทย
ไล่ ตุง-กก (Lai Tung-kok) สมาชิกรัฐสภาและอดีตรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงฮ่องกง กล่าวว่า หน่วยงานได้ดำเนินการทางการทูตอย่างถูกต้อง และเชื่อว่าหน่วยงานสามารถเสริมสร้างความพยายามในการให้ความรู้เกี่ยวกับการต่อต้านการฉ้อโกงต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวฮ่องกงตกเป็นเหยื่อของกลุ่มอาชญากรได้ การเยือนครั้งนี้ไม่ใช่แค่การแสดงท่าทีเท่านั้น ดังที่แสดงให้เห็นโดยคณะทำงานที่ส่งไป ซึ่งประกอบด้วยบุคคลระดับสูงของรัฐบาล นอกจากนั้น หน่วยงานของไทยได้ให้ความสำคัญอย่างมากกับปัญหานี้อยู่แล้ว และเชื่อว่าจะจัดการกับปัญหานี้อย่างดีที่สุด และตนมองในแง่ดีว่าจะได้เห็นผลลัพธ์ในเชิงบวก
รายงานของสื่อฮ่องกง กล่าวต่อไปว่า ช่วงปี 2565 – 2566 รัฐบาลฮ่องกงได้รับคำร้องขอความช่วยเหลือ 46 คำร้องจากชาวฮ่องกงที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในฐานปฏิบัติการขององค์กรอาชญากรรมในเมียนมาและกัมพูชา คนเหล่านี้ถูกล่อลวงด้วยข้อเสนอเรื่องงานรายได้สูงพร้อมที่พัก แต่เมื่อเดินทางไปแล้ว พวกเขาจะถูกยึดหนังสือเดินทางเพื่อนำไปขายให้กับกลุ่มแก๊งต่างๆ และถูกบังคับให้ทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลอกลวงผู้คนทางโทรศัพท์และออนไลน์ พวกเขาไม่สามารถหลบหนีได้ เพราะมีกองกำลังที่มีอาวุธปืนและเครื่องช็อตไฟฟ้าเฝ้าสถานที่อยู่
คณะทำงานเฉพาะกิจช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ชาวฮ่องกง นำโดย ไมเคิล ชุค โหว-ยิป (Michael Cheuk Hau-yip) รองเลขาธิการสำนักงานความมั่นคงแห่งฮ่องกง (ภาพจาก South China Morning Post)
ในทั้งหมด 46 คน มี 43 คน ที่ได้รับการช่วยเหลือจนเดินทางกลับฮ่องกงได้สำเร็จ ในขณะที่อีก 3 คน ปฏิเสธที่จะได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติม หลังจากที่พวกเขาถูกช่วยออกมาได้แล้ว ทั้งนี้ ก่อนเดินทางออกจากฮ่องกงไปกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2568 ชุค หัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจของฮ่องกง กล่าวในการบรรยายสรุปว่า มิจฉาชีพใช้กลอุบายใหม่เพื่อล่อลวงชาวฮ่องกงให้เดินทางเข้าไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) นั่นคือจะขอให้เหยื่อช่วยนำพัสดุไปส่งที่ไต้หวัน ญี่ปุ่นหรืออื่นๆ
แต่ในวินาทีสุดท้าย จะมีการแจ้งกับเหยื่อว่า สถานที่ปลายทางจะถูกเปลี่ยนไปเป็นที่ใดที่หนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากคำบอกเล่าของเหยื่อ ไม่มีใครให้การว่าถูกลักพาตัวไปโดยไม่คาดคิดระหว่างการดินทาง แต่ถูกควบคุมตัวตามสถานการณ์ที่ตกลงกันไว้ ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ต่างจากเมื่อปี 2565 กล่าวคือ ในเวลานั้น คดีที่พบจะกระจุกตัวอยู่บริเวณชายแดนเมียนมา-ลาว แต่ ณ ปัจจุบัน องค์กรอาชญากรรมได้ปฏิบัติการบริเวณชายแดนเมียนมา ซึ่งติดกับภาคเหนือของประเทศไทย
“ผมเชื่อว่ากลุ่มอาชญากรปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ที่มีความวุ่นวาย ดังนั้นจึงอยากเตือนชาวฮ่องกงไม่ให้เดินทางใกล้ชายแดนไทย เมียนมาหรือลาว’ หัวหน้าทีมเฉพาะกิจของฮ่องกง กล่าว
ในช่วงต้นเดือน ธ.ค. 2567 คริส ถัง ปิง-เคิง (Chris Tang Ping-keung) เลขาธิการสำนักงานความมั่นคงฮ่องกง เปิดเผยว่าในปี 2567 มีชาวฮ่องกง 23 ราย ที่รายงานว่าติดอยู่ในค่ายกักกันดังกล่าวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล่าสุดในวันที่ 12 ม.ค. 2568 มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 28 ราย โดยยังคงสูญหายอีก 12 ราย โดยสำหรับ 12 รายที่เหลือ ซึ่งมีอายุระหว่าง 21 - 43 ปี มีรายงานว่าถูกจำกัดเสรีภาพในการเดินทาง แต่เหยื่อกล่าวว่ายังคงปลอดภัยและสามารถติดต่อกับครอบครัวและหน่วยเฉพาะกิจได้
ขอบคุณเรื่องจาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี