16 มกราคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จากกรณีที่'ติ๊กต็อก' (TikTok) แพลตฟอร์มคลิปวิดีโอสั้นที่เป็นที่นิยมของคนทั่วโลก ถูกรัฐบาลสหรัฐฯ บีบให้ขายกิจการภายในวันที่ 19 มกราคม ที่จะถึงนี้ เนื่องจากถูกมองว่าเป็นภัยความมั่นคงของรัฐ ซึ่งหาก'ติ๊กต็อก'ไม่ดำเนินการตามเส้นตายที่กำหนดไว้ อาจต้องเผชิญกับการปิดตัวลงอย่างถาวรในสหรัฐฯ
ซึ่งจากรายละเอียดทราบว่า 'ติ๊กต็อก' เตรียมปิดแพลตฟอร์มในวันที่ 19 มกราคมนี้ ซึ่งเป็นการกระทำที่เกินกว่ากฎหมายแบน'ติ๊กต็อก'ที่ออกโดยรัฐบาล โจ ไบเดน เมื่อเดือนเมษายนปี 2024 กำหนดไว้ คือ ห้ามดาวน์โหลดมาใช้งานจาก App Store และ Play Storeโดยที่ผู้ใช้งานเดิมยังสามารถใช้งานได้ต่อไปในระยะหนึ่ง แผนของ 'ติ๊กต็อก'คือ เมื่อผู้ใช้เปิดแอปฯ จะมีป๊อปอัปเป็นข้อความแจ้งเตือนพร้อมลิงก์ที่นำไปยังเว็บไซต์ซึ่งอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการแบนครั้งนี้ รวมถึงจะเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับบัญชีของตนเองออกมาเก็บไว้ได้
สาเหตุของการตัดสินใจปิดตัวในครั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีน อยากให้แพลตฟอร์มติ๊กต็อกนั้นยังอยู่ภายใต้บริษัทแม่อย่าง ByteDance
ต่อมาทางโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ ผู้เตรียมดำรงตำแหน่งหลังจากเริ่มใช้คำสั่งแบนติ๊กต็อก 1 วัน กำลังพิจารณาออกคำสั่งไปยังฝ่ายบริหารเพื่อระงับการแบนดังกล่าวภายใน 60 - 90 วัน แต่ไม่ได้ระบุว่าจะดำเนินการอย่างไร ด้านที่ปรึกษาของว่าที่ประธานาธิบดี ยังกล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าติ๊กต็อกเป็นแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมเราจะหาวิธีรักษามันไว้ แต่ก็ต้องปกป้องข้อมูลของผู้คนด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี