20 ม.ค. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Hamas frees hostages, Israel releases Palestinian prisoners on day one of ceasefire ระบุว่า ในวันที่ 19 ม.ค. 2568 ซึ่งเป็นวันแรกของการหยุดยิงตามข้อตกลงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส มีการแลกเปลี่ยนตัวประกันชาวอิสราเอล 3 ราย ที่อยู่ในการควบคุมตัวของฝ่ายฮามาส กับนักโทษชาวปาเลสไตน์ที่ถูกฝ่ายอิสราเอลคุมขังไว้ 90 ราย
การหยุดยิงครั้งนี้ทำให้ชาวปาเลสไตน์สามารถกลับไปยังชุมชนที่ถูกระเบิดเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ขณะที่รถบรรทุกบรรเทาทุกข์ได้นำความช่วยเหลือที่จำเป็นอย่างยิ่งมาส่งให้ และในพื้นที่อื่นๆ ในฉนวนกาซา ฝูงชนโห่ร้องแสดงความยินดีให้กับนักรบฮามาสที่ออกมาจากที่ซ่อน มีการจุดพลุเฉลิมฉลองในขณะที่รถบัสที่บรรทุกนักโทษชาวปาเลสไตน์เดินทางมาถึงรามัลลาห์ในเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งมีผู้คนหลายพันคนรอต้อนรับ ผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำของอิสราเอลมีผู้หญิง 69 คนและเด็กชายวัยรุ่น 21 คนจากเขตเวสต์แบงก์และเยรูซาเล็ม ตามรายงานของกลุ่มฮามาส
โรมี โกเนน โดรอน สไตน์เบรเชอร์ และเอมิลี่ ดามารี ตัวประกัน 3 คนที่ถูกคุมขังในฉนวนกาซาตั้งแต่การโจมตีอันนองเลือดเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 ได้รับการปล่อยตัวในฐานะส่วนหนึ่งของการหยุดยิงและข้อตกลงแลกเปลี่ยนตัวประกันระหว่างฮามาสและอิสราเอลในฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2568
ที่เมืองเทลอาวีฟของอิสราเอล ชาวอิสราเอลหลายร้อยคนโห่ร้องและร้องไห้ในจัตุรัสหน้าสำนักงานใหญ่ของกระทรวงกลาโหม ขณะที่การถ่ายทอดสดจากฉนวนกาซาเผยให้เห็นตัวประกันหญิง 3 คน ประกอบด้วย โรมี โกเนน (Romi Gonen) เอมิลี่ ดามารี (Emily Damari) และ โดรอน สไตน์เบรเชอร์ (Doron Steinbrecher) ขึ้นรถของสภากาชาดที่ถูกล้อมรอบด้วยนักรบของกลุ่มฮามาส
ตามการเปิดเผยของกองทัพอิสราเอล ตัวประกันทั้ง 3 ได้กลับไปพบแม่ของพวกเธอ มีคลิปวีดีโอที่เผยภาพของทั้ง 3 ยังมีสุขภาพดี รวมถึง ดามารี 1 ใน 3 ตัวประกัน โอบกอดแม่ของเธอในขณะที่เธอยกมือที่พันผ้าพันแผลไว้ขึ้น ซึ่งเธอต้องสูญเสียนิ้วมือไป 2 นิ้ว จากการถูกยิงก่อนจะถูกลักพาตัว ขณะที่ เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ต่อสายพูดคุยกับผู้บัญชาการกองทัพอิสราเอล ฝากบอกตัวประกันทั้ง 3 ด้วยว่าชาวอิสราเอลทั้งประเทศต้อนรับการกลับบ้าน
ที่ศูนย์การแพทย์ชีบา สตรีเหล่านี้ได้กลับมาพบกับครอบครัวอีกครั้งในอ้อมกอดอันยาวนานที่เปลี่ยนจากน้ำตาเป็นเสียงหัวเราะ ดามารียิ้มแย้มและห่มผ้าด้วยธงชาติอิสราเอล ซึ่งตามรายงานของอิสราเอล เหตุการณ์บุกโจมตีโดยกลุ่มฮามาส เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,200 ราย และมีผู้ถูกจับไปเป็นตัวประกัน 250 ราย ตามด้วยการโจมตีของอิสราเอลในพื้นที่ฉนวนกาซา ซึ่งตามรายงานของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในฉนวนกาซา มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 47,000 ราย และอีก 2.3 ล้านคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย ขณะที่มีทหารอิสราเอลเสียชีวิตในการสู้รบ 400 นาย
ข้อตกลงหยุดยิงระยะแรกที่มีระยะเวลา 6 สัปดาห์ เรียกร้องให้ยุติการสู้รบ อนุญาตให้ส่งความช่วยเหลือไปที่ฉนวนกาซา และปล่อยตัวตัวประกันชาวอิสราเอลและต่างชาติที่เหลือเกือบ 100 คน โดยจะปล่อยในช่วงระยะแรกนี้ 33 คน เพื่อแลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์เกือบ 2,000 คนที่ถูกคุมขังในเรือนจำของอิสราเอล อย่างไรก็ตาม เชื่อกันว่าตัวประกันหลายคนน่าจะเสียชีวิตแล้ว การหยุดยิงระยะแรกเริ่มมีผลบังคับใช้หลังจากที่เกิดความล่าช้าเป็นเวลา 3 ชั่วโมง ซึ่งในช่วงที่ล่าช้านั้น เครื่องบินรบและปืนใหญ่ของอิสราเอลยังคงโจมตีฉนวนกาซา
20 ม.ค. 2568 บริเวณด้านนอกเรือนจำทหารอิสราเอล โอเฟอร์ ใกล้รามัลลาห์ ในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกอิสราเอลยึดครอง นักโทษชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับการปล่อยตัวนั่งอยู่บนรถบัสหลังจากได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำของอิสราเอล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษและข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาระหว่างฮามาสและอิสราเอล
ในพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา ชาวปาเลสไตน์ต้องฝ่าเส้นทางที่พังทลายลงมาด้วยซากปรักหักพังและโลหะบิดงอผิดรูป ซึ่งถูกระเบิดทำลายจนหายไปในสงครามครั้งรุนแรงที่สุด ดังตัวอย่างของ อายา (Aya) ที่ต้องทิ้งบ้านในเมืองกาซาซิตี้ไปนานกว่า 1 ปี กล่าวว่า ฉันรู้สึกเหมือนในที่สุดก็พบน้ำดื่มเสียที หลังจากที่หลงอยู่ในทะเลทรายนานถึง 15 เดือน
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของปาเลสไตน์เผยว่าการโจมตีในนาทีสุดท้ายของอิสราเอลทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 ราย ซึ่งฝ่ายอิสราเอลกล่าวโทษฮามาสที่ส่งรายชื่อตัวประกันที่จะปล่อยตัวช้า ในขณะที่กลุ่มฮามาสชี้แจงว่าการล่าช้าในการส่งรายชื่อดังกล่าวเป็นเพราะเทคนิค สำหรับกลุ่มฮามาส การสงบศึกครั้งนี้เป็นโอกาสให้พวกเขาได้โผล่ออกมาจากเงามืดหลังจากหลบซ่อนตัวอยู่นาน 15 เดือน
ตำรวจฮามาสสวมเครื่องแบบตำรวจสีน้ำเงินและเคลื่อนพลอย่างรวดเร็วในบางพื้นที่ และนักรบติดอาวุธขับรถผ่านเมืองข่าน ยูนิส ทางตอนใต้ ซึ่งฝูงชนโห่ร้องให้กับกองพลอัลกัสซัม" ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธของกลุ่ม โดยมีนักรบรายหนึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์ว่า กลุ่มต่อต้านทั้งหมดยังคงอยู่แม้จะมีเนทันยาฮู
ในวันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โจ ไบเดน (Joe Biden) กล่าวว่า วันนี้เสียงปืนในฉนวนกาซาเงียบลง โดยแสดงความยินดีกับการสงบศึกที่หลุดลอยไปจากการทูตของสหรัฐฯ มานานกว่า 1 ปี ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ ชี้ว่า การเดินมาถึงจุดนี้ได้เพราะแรงกดดันที่อิสราเอลสร้างขึ้นต่อฮามาส ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ
ขณะที่ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่อย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ที่กำลังจะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ม.ค. 2568 ไมค์ วอลทซ์ (Mike Waltz) ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ กล่าวว่า หากฮามาสผิดสัญญา สหรัฐจะสนับสนุนอิสราเอลในการทำสิ่งที่ต้องทำ และฮามาสจะไม่มีวันปกครองฉนวนกาซาได้ นั่นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ไม่มีแผนรายละเอียดในการบริหารกาซาหลังสงครามและการสร้างกาซาขึ้นใหม่ การที่ฮามาสกลับมาจะทดสอบความอดทนของอิสราเอล ซึ่งเคยกล่าวว่าจะกลับมาสู้รบอีกเว้นแต่กลุ่มก่อการร้ายจะถูกกำจัดให้หมดสิ้น ขณะที่การเมืองภายในของอิสราเอล อิทามาร์ เบน-กวีร์ (Itamar Ben-Gvir) รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งชาติซึ่งมีแนวคิดหัวรุนแรง ประกาศลาออกจากคณะรัฐมนตรีกรณีหยุดยิง แม้ว่าพรรคของเขาจะระบุว่าจะไม่พยายามโค่นล้มรัฐบาลของเนทันยาฮูก็ตาม รัฐมนตรีกระทรวงการคลังแนวหัวรุนแรงอีกคน เบซาเลล สโมทริช (Bezalel Smotrich) ยังคงอยู่ในรัฐบาล แต่กล่าวว่าตนจะลาออกหากสงครามยุติลงโดยที่ฮามาสไม่ถูกทำลายจนหมดสิ้น
ถนนในเมืองกาซาที่พังยับเยินเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมากที่โบกธงปาเลสไตน์และถ่ายภาพเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยโทรศัพท์มือถือ รถเข็นหลายคันบรรทุกข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านแล่นไปตามถนนสายหลักที่เต็มไปด้วยเศษหินและซากปรักหักพัง อาเหม็ด อาบู อัยฮัม (Ahmed Abu Ayham) วัย 40 ปี จากเมืองกาซา กล่าวว่า แม้ว่าการหยุดยิงอาจช่วยชีวิตคนไว้ได้ แต่การสูญเสียและการทำลายล้างทำให้ไม่มีเวลาเฉลิมฉลอง เรารู้สึกเจ็บปวด เจ็บปวดอย่างมาก และถึงเวลาที่ต้องกอดและร้องไห้กัน
ขอบคุณเรื่องจาก
https://www.reuters.com/world/middle-east/gaza-ceasefire-hostage-release-set-begin-2025-01-19/
19 ม.ค. 2568 ที่ศูนย์การแพทย์ชีบา ในเขตรามัตกันของอิสราเอล ผู้คนต่างแสดงปฏิกิริยาในขณะที่มารวมตัวกัน ก่อนที่ตัวประกันทั้ง 3 คน ซึ่งถูกคุมขังในฉนวนกาซาตั้งแต่การโจมตีที่นองเลือดเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 จะถูกปล่อยตัวตามข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอล
20 ม.ค. 2568 ฝูงชนรวมตัวกันรอบรถบัสที่บรรทุกนักโทษชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับอิสรภาพหลังจากได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำของอิสราเอล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษและข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาระหว่างฮามาสและอิสราเอล ด้านนอกของเรือนจำทหารอิสราเอล โอเฟอร์ ใกล้รามัลลาห์ ในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกอิสราเอลยึดครอง
19 ม.ค. 2568 ภาพถ่ายจากโดรนแสดงให้เห็นชาวปาเลสไตน์กำลังเดินผ่านซากปรักหักพังของบ้านเรือนและอาคารต่างๆ หลังจากการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส ในเมืองจาบาเลีย ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา
รถบรรทุกความช่วยเหลือเคลื่อนตัวตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส ในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2568
19 ม.ค. 2568 ชายคนหนึ่งโยนเด็กขึ้นไปในอากาศในขณะที่ชาวปาเลสไตน์ที่พลัดถิ่นกำลังเฉลิมฉลองที่เต็นท์พักแรมหลังการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส ในเมืองเดียร์ อัล บาลาห์ ใจกลางฉนวนกาซา
043..
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี