ทรัมป์ขู่คว่ำบาตรรัสเซียหากไม่หยุดสงคราม

วอชิงตัน – ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เตรียมใช้มาตรการทางเศรษฐกิจและคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย หากรัสเซียไม่ตกลงหยุดสงครามในยูเครน หลังจากที่ทรัมป์เรียกร้องไปยังประธานาธิบดีวลาดีมีร์

ปูติน ให้ทำข้อตกลงยุติสงครามที่ทรัมป์เรียกว่า “ไร้สาระ” ในยูเครน ทรัมป์ระบุว่า เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับประธานาธิบดีรัสเซีย แต่หากไม่บรรลุข้อตกลงดังกล่าวโดยเร็ว เขาจะใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจครั้งใหม่ ทรัมป์ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯเคยคว่ำบาตรรุนแรงต่อรัสเซียมาแล้ว กรณีการส่งกำลังทหารบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ทรัมป์ ยังระบุด้วยว่า รัฐบาลของเขากำลังพิจารณาประเด็นการส่งทหารไปยังยูเครน และเขาเห็นว่า สหภาพยุโรปควรจะดำเนินการมากขึ้นในการสนับสนุนยูเครน ด้าน ดมิทรี โปลีอันสกี รองเอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติของรัสเซีย ออกมาตอบโต้ว่า ทำเนียบเครมลินจะต้องรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ทรัมป์ต้องการในข้อตกลงเพื่อยุติสงคราม ก่อนที่รัสเซียจะดำเนินการต่อไป และว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องพิจารณาถึงสาเหตุที่แท้จริงของวิกฤตในยูเครน

กลุ่มฮูตีเป็นองค์กรก่อการร้าย

วอชิงตัน – ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อประกาศให้กลุ่มฮูตี ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในเยเมน เป็นองค์กรก่อการร้ายต่างประเทศอีกครั้ง พลิกคำสั่งของ โจ ไบเดน เมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งถอดกลุ่มฮูตีออกจากรายชื่อองค์กรก่อการร้ายต่างประเทศ เอกสารจากทำเนียบขาวระบุว่ากลุ่มฮูตีได้ยิงเรือรบของกองทัพเรือสหรัฐฯ หลายสิบครั้ง โจมตีโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนในประเทศพันธมิตร และโจมตีเรือพาณิชย์ที่ผ่านช่องแคบ บับ อัล-มันเดบ มากกว่า 100 ครั้ง ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้เป็นผลจากนโยบายที่อ่อนแอของรัฐบาลไบเดน ทั้งนี้ คำสั่งฝ่ายบริหารข้างต้นได้สั่งให้ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ คนใหม่ ยื่นรายงานเกี่ยวกับการกำหนดสถานะดังกล่าวภายใน 30 วัน หลังจากประกาศสถานะดังกล่าวแล้ว ทรัมป์จะสั่งให้สำนักเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ยุติความสัมพันธ์กับหน่วยงานที่จ่ายเงินให้กับกลุ่มฮูตี หรือหน่วยงานที่คัดค้านความพยายามของนานาชาติในการต่อต้านกลุ่มฮูตี และเพิกเฉยต่อการก่อการร้ายและการละเมิดของกลุ่มฮูตี หลังจากที่ดำเนินการตรวจสอบเสร็จสิ้น

ตั้ง ‘ฌอน เคอร์แรน’ คุมหน่วยอารักขา

วอชิงตัน - ฌอน เคอร์แรน หนึ่งในเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยในเหตุการณ์ลอบสังหาร โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ได้รับการแต่งตั้งจากทรัมป์ให้ดำรงหน้าที่ผู้อำนวยการหน่วยอารักขาประธานาธิบดี และบุคคลสำคัญของสหรัฐฯ (Secret Service) ทรัมป์กล่าวในแถลงการณ์ว่า เคอร์แรนได้พิสูจน์ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว ตอนที่เสี่ยงชีวิตช่วยตัวเขาจากคมกระสุนในเมืองบัตเลอร์รัฐเพนซิลเวเนีย ทำให้เขาเชื่อมั่นและมั่นใจในตัว ฌอน เคอร์แรน ว่าเขาจะทำให้หน่วยอารักขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม โดยหลังจากทรัมป์ถูกยิงบนเวทีหาเสียงที่เมืองบัตเลอร์ทรัมป์ เอามือจับไปที่หูข้างขวาซึ่งมีเลือดอาบก่อนจะหมอบลง โดยมี เคอร์แรน และเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาคนอื่นๆ เข้ามาช่วยป้องกัน เคอร์แรนจะเข้ามาแทนที่ รอน โรว์ ซึ่งดำรงตำแหน่งรักษาการผู้อำนวยการมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม หลังจาก คิมเบอร์ลี ชีทเทิล ถูกกดดันให้ลาออก เนื่องจากหน่วยงานเผชิญหน้ากับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากความล้มเหลวในการหยุดยั้งมือสังหารที่พยายามทำร้ายทรัมป์ระหว่างการหาเสียง