24 ม.ค. 2568 สำนักข่าว BBC ของอังกฤษ รายงานข่าว US doesn't need Canadian energy or cars, says Trump ระบุว่า ในการประชุมสภาเศรษฐกิจโลก 2568 (World Economic Forum 2025) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2568 โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ร่วมประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ได้กล่าวในตอนหนึ่งว่า สหรัฐฯ ไม่ต้องการพลังงาน ยานยนต์ หรือไม้แปรรูปจากแคนาดา และยังขู่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดา ซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงได้หากประเทศเพื่อนบ้านเลือกที่จะกลายเป็นมลรัฐหนึ่งของสหรัฐฯ
“คุณสามารถเป็นมลรัฐได้เสมอ และหากคุณเป็นมลรัฐ เราก็จะไม่มีการขาดดุล เราจะไม่ต้องเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากคุณ” ทรัมป์ กล่าว
ผู้นำสหรัฐฯ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาสูงถึงร้อยละ 25 ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นภายในวันที่ 1 ก.พ. 2568 ทำให้แคนาดาซึ่งพึ่งพาการค้าต้องเผชิญความไม่สบายใจอย่างมาก แต่ก็จะพิจารณาใช้มาตรการตอบโต้ที่สำคัญ รวมถึงการตอบโต้แบบ "ดอลลาร์ต่อดอลลาร์" หากรัฐบาลทรัมป์ดำเนินการตามที่ประกาศไว้ การส่งออกของแคนาดาประมาณร้อยละ 75 ลงใต้ไปยังสหรัฐฯ ในทางตรงกันข้าม แคนาดาคิดเป็นร้อยละ 17 ของการส่งออกของสหรัฐฯ น้อยกว่ามาก แม้ว่าแคนาดาจะเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 2 งของสหรัฐฯ รองจากเม็กซิโกก็ตาม
“แคนาดาเป็นประเทศที่ยากต่อการดีลอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราไม่ต้องการพวกเขาเพื่อผลิตยานยนต์ของเรา เราผลิตจำนวนมาก เราไม่ต้องการไม้แปรรูปของพวกเขาเพราะเรามีป่าไม้ของเราเอง... เราไม่ต้องการน้ำมันและก๊าซของพวกเขา เรามีมากกว่าใครๆ” ทรัมป์ กล่าวกับผู้เข้าร่วมฟอรัม จากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ทรัมป์ย้ำข้อกล่าวอ้างอีกครั้งว่าสหรัฐฯ มีการขาดดุลการค้ากับแคนาดาระหว่าง 200,000-250,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ไม่ชัดเจนว่าได้ตัวเลขดังกล่าวมาจากไหน การขาดดุลการค้ากับแคนาดา ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 45,000 ล้านเหรียญในปี 2567 ส่วนใหญ่เกิดจากความต้องการพลังงานของสหรัฐฯ อนึ่ง อุตสาหกรรมยานยนต์ของทวีปอเมริกาเหนือยังมีห่วงโซ่อุปทานที่บูรณาการสูง ชิ้นส่วนสามารถข้ามพรมแดนระหว่างสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และแคนาดา ไป-มาได้หลายครั้งก่อนที่ประกอบเสร็จเป็นรถยนต์พร้อมใช้งาน
ทรัมป์ยังผูกภาษีศุลกากรกับความปลอดภัยที่ชายแดน โดยกล่าวว่าจะบังคับใช้เว้นแต่แคนาดาจะเพิ่มการรักษาความปลอดภัยที่ชายแดนร่วม ขณะที่ จัสติน ทรูโด (Justin Trudeau) นายกรัฐมนตรีของแคนาดา กล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าทุกอย่างอยู่บนโต๊ะเพื่อตอบโต้หากมีการกำหนดภาษีศุลกากร ซึ่งรวมถึงภาษีหรือการคว่ำบาตรการส่งออกพลังงานไปยังสหรัฐฯ แม้ว่าผู้นำบางส่วนของแคนาดาจะไม่เห็นด้วยกับการตอบสนองดังกล่าวก็ตาม
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2568 ทรูโดกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เป้าหมายของแคนาดาคือการหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ โดยสิ้นเชิง แต่จะเพิ่มการตอบสนองอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อหาทางยกเลิกภาษีศุลกากรโดยเร็วหากมีการกำหนด แคนาดายังแสดงตนเป็นหุ้นส่วนการค้าที่น่าเชื่อถือและเป็นแหล่งพลังงานและแร่ธาตุสำคัญที่ปลอดภัยสำหรับสหรัฐฯ เนื่องจากแคนาดาได้ล็อบบี้สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อพยายามหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรดังกล่าว
นักเศรษฐศาสตร์ชี้สหรัฐฯ พึ่งพาผลิตภัณฑ์ของแคนาดาเพื่อความมั่นคงด้านพลังงาน ซึ่งจากการวิเคราะห์ล่าสุดของนักเศรษฐศาสตร์จาก TD Bank พบว่าการส่งออกพลังงานของแคนาดามีมูลค่าเกือบ 170,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (244,000 ล้านเหรียญแคนาดา) ในปี 2567
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2568 ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า ธุรกิจต่างๆ ควรผลิตสินค้าในสหรัฐฯ หากต้องการหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร ทั้งนี้ ภาษีศุลกากรเป็นส่วนสำคัญของวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจของทรัมป์ โดยเห็นว่าเป็นวิธีในการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปกป้องการจ้างงาน และเพิ่มรายได้จากภาษี ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางตรวจสอบความสัมพันธ์ทางการค้าของสหรัฐฯ เพื่อดูว่ามีการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่ภายในวันที่ 1 เม.ย. 2568
ขอบคุณภาพจากรอยเตอร์
ขอบคุณเรื่องจาก
https://www.bbc.com/news/articles/c5y725r90k5o
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี