24 ม.ค. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว US judge temporarily blocks Trump's order restricting birthright citizenship ระบุว่า คำสั่งของ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กรณีเลิกให้สัญชาติกับเด็กที่เกิดในสหรัฐฯ โดยพ่อแม่ไม่ใช่พลเมืองสหรัฐฯ หรือบุคคลต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในสหรัฐฯ เป็นการถาวรอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งออกเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2568 ทันทีหลังจากที่ทรัมป์รับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ถูกศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ สั่งระงับ โดยให้เหตุผลว่า เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน
จอห์น คอฟเฮเนอร์ (John Coughenour) ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐประจำเมืองซีแอตเทิล ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดย โรนัลด์ เรแกน (Ronald Reagan) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้น จากพรรครีพับลิกัน ต้นสังกัดเดียวกับทรัมป์ ออกคำสั่งระงับคำสั่งของทรัมป์ ตามคำฟ้องของ 4 รัฐที่พรรคเดโมแครตครองเสียงทางการเมือง ประกอบด้วย วอชิงตัน แอริโซนา อิลลินอยส์ และโอเรกอน อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ได้ออกมาบอกว่าพร้อมจะยื่นอุทธรณ์
มลรัฐต่างๆ โต้แย้งว่าคำสั่งของทรัมป์ละเมิดสิทธิที่ระบุไว้บทบัญญัติว่าด้วยการเป็นพลเมืองของรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ โดยในมาตรา 14 ระบุว่าบุคคลใดก็ตามที่เกิดในสหรัฐฯ ถือเป็นพลเมือง คำสั่งของคอฟเฮเนอร์ซึ่งประกาศหลังจากการพิจารณาคดีสั้นๆ ในห้องพิจารณาคดีที่เต็มไปด้วยผู้พิพากษาคนอื่นๆ ป้องกันไม่ให้มีการบังคับใช้นโยบายของทรัมป์ทั่วประเทศเป็นเวลา 14 วัน ในขณะที่ผู้พิพากษากำลังพิจารณาว่าจะออกคำสั่งเบื้องต้นที่มีระยะเวลายาวนานหรือไม่ โดยจะรับฟังข้อโต้แย้งก่อนมีคำวินิจฉัยว่าจะออกคำสั่งหรือไม่ในวันที่ 6 ก.พ. 2568
“ผมเป็นผู้พิพากษามานานกว่า 4 ทศวรรษแล้ว ผมจำไม่ได้ว่ามีกรณีอื่นใดอีกที่คำถามที่นำเสนอมีความชัดเจนเท่ากับกรณีนี้ นี่เป็นคำสั่งที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน” คอฟเฮเนอร์ กล่าว
ภายใต้คำสั่งของทรัมป์ เด็กที่เกิดในสหรัฐฯ หลังจากวันที่ 19 ก.พ. 2568 ที่แม่และพ่อไม่ใช่พลเมืองอเมริกันหรือผู้อยู่อาศัยถาวรที่ถูกต้องตามกฎหมายจะต้องถูกเนรเทศ และจะไม่สามารถขอรับหมายเลขประกันสังคม สวัสดิการต่างๆ ของรัฐบาล และไม่สามารถทำงานอย่างถูกกฎหมายได้เมื่ออายุมากขึ้น โดย เลน โพโลโซลา (Lane Polozola) ผู้ช่วยอัยการสูงสุดแห่งรัฐวอชิงตัน กล่าวกับผู้พิพากษาในระหว่างการพิจารณาคดีโดยอ้างถึงนโยบายของทรัมป์ ว่า ภายใต้คำสั่งนี้ ทารกที่เกิดในปัจจุบันจะไม่นับเป็นพลเมืองสหรัฐฯ
เบรตต์ ชูเมต (Brett Shumate) ทนายความกระทรวงยุติธรรม โต้แย้งว่าการกระทำของทรัมป์นั้นถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ และกล่าวว่าคำสั่งศาลใดๆ ที่ขัดขวางการกระทำดังกล่าวนั้นไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง แต่ก่อนที่ชูเมตจะตอบคำถามของโพโลโซลาเสร็จ คอฟเฮเนอร์ก็บอกว่าเขาได้ลงนามในคำสั่งห้ามชั่วคราวแล้ว อย่างไรก็ตาม ชูเมต เปิดเผยว่า จะมีการยื่นเอกสารเพิ่มเติมเพื่ออุทธรณ์คำสั่งศาลในสัปดาห์หน้า ขณะที่โฆษกของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ประกาศว่ากระทรวงฯ มีแผนที่จะปกป้องคำสั่งของทรัมป์อย่างแข็งขัน
นิค บราวน์ (Nick Brown) อัยการสูงสุดของรัฐวอชิงตัน ซึ่งเป็นพรรคเดโมแครต กล่าวว่า ตนไม่เห็นเหตุผลที่จะคาดหวังว่ากระทรวงยุติธรรมจะประสบความสำเร็จในการพลิกคำตัดสินของคอฟเฮเนอร์ในการอุทธรณ์ แม้ว่าเรื่องดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาของศาลฎีกาสหรัฐฯ ซึ่งมีเสียงข้างมากของฝ่ายอนุรักษ์นิยม 6 ต่อ 3 รวมถึงผู้พิพากษา 3 คนที่ได้รับการแต่งตั้งโดยทรัมป์
“คุณคือพลเมืองอเมริกันหากคุณเกิดบนแผ่นดินอเมริกา..เรื่องมีเท่านั้น ไม่มีอะไรที่ประธานาธิบดีทำได้ที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นได้" บราวน์ กล่าว
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ตามข้อมูลจากบรรดามลรัฐที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก เด็กแรกเกิดมากกว่า 150,000 คนจะถูกปฏิเสธสิทธิการเป็นพลเมืองทุกปี หากคำสั่งของทรัมป์มีผลบังคับใช้ และตั้งแต่ทรัมป์ลงนามในคำสั่งดังกล่าว มีการฟ้องร้องอย่างน้อย 6 คดีเพื่อท้าทายคำสั่งดังกล่าว โดยส่วนใหญ่เป็นคดีจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนและอัยการสูงสุดของพรรคเดโมแครตจาก 22 รัฐ
อัยการสูงสุดจากพรรคเดโมแครต กล่าวว่า ความเข้าใจเกี่ยวกับเงื่อนไขการเป็นพลเมืองในรัฐธรรมนูญนั้นได้รับการยืนยันเมื่อ 127 ปีก่อน เมื่อศาลฎีกาสหรัฐฯ ตัดสินว่าเด็กที่เกิดในสหรัฐฯ จากพ่อแม่ที่ไม่ใช่พลเมืองมีสิทธิที่จะได้รับสัญชาติอเมริกัน โดยการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งที่ 14 ซึ่งผ่านเมื่อปี 2411 หลังสงครามกลางเมืองสหรัฐฯ ได้พลิกคำตัดสินของศาลฎีกาที่โด่งดังในคดี Dred Scott เมื่อปี 2400 ซึ่งระบุว่าการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญนั้นไม่สามารถใช้กับทาสผิวดำได้
ในคำชี้แจงที่ยื่นเมื่อช่วงดึกของวันที่ 22 ม.ค. 2568 กระทรวงยุติธรรมเรียกคำสั่งดังกล่าวว่าเป็นส่วนสำคัญในความพยายามของทรัมป์ ในการแก้ไขระบบตรวจคนเข้าเมืองที่ล้มเหลวของประเทศนี้และวิกฤติที่ยังคงดำเนินอยู่ที่ชายแดนทางใต้ ขณะที่พันธมิตรพรรครีพับลิกัน 36 คนของทรัมป์ในสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ได้เสนอร่างกฎหมายแยกต่างหากกับคำสั่งของทรัมป์ ในวันที่ 21 ม.ค. 2568 แต่มีสาระสำคัญเดียวกัน คือเพื่อจำกัดสิทธิการเป็นพลเมืองโดยอัตโนมัติ โดยให้เฉพาะเด็กที่เกิดจากพลเมืองอเมริกันหรือผู้อยู่อาศัยถาวรที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น
ขอบคุณเรื่องจาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี