24 ม.ค. 2568 นสพ. New York Post สหรัฐอเมริกา รายงานข่าว CNN boss Mark Thompson confirms 200 layoffs across cable TV network in digital push อ้างการเปิดเผยของ มาร์ค ธอมป์สัน (Mark Thompson) ผู้บริหารสำนักข่าว CNN สหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2568 ว่า มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเครือข่ายที่กำลังเผชิญปัญหา ซึ่งรวมถึงการปรับลดพนักงาน 200 คน และการเปลี่ยนมาใช้กลยุทธ์ที่เน้นด้านดิจิทัลมากขึ้น

การเลิกจ้างในเครือข่าย Discovery ของ Warner Bros. จะคิดเป็นร้อยละ 6 ของพนักงานของ CNN ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโปรดิวเซอร์ บรรณาธิการ และบุคลากรอื่นๆ ที่ไม่ใช่พิธีกรหรือผู้ประกาศข่าว ซึ่งมีความสำคัญต่อการดำเนินงานของโทรทัศน์ โดย ธอมป์สัน กล่าวว่า เป้าหมายของเราเรียบง่ายมาก นั่นคือการเปลี่ยนแรงโน้มถ่วงของ CNN ไปที่แพลตฟอร์มและผลิตภัณฑ์ที่ผู้ชมเองก็กำลังเปลี่ยนไป

ในฐานะส่วนหนึ่งของการปรับปรุงใหม่ ทอมป์สันได้ยืนยันรายงานในช่วงต้นสัปดาห์ ว่า ผู้ประกาศข่าวผู้มากประสบการณ์อย่าง วูล์ฟ บลิตเซอร์ (Wolf Blitzer) จะถูกย้ายจากช่วงบ่ายไปเป็นพิธีกรรายการตอนเช้าร่วมกับ พาเมลา บราวน์ (Pamela Brown) ในเวลา 10.00 น. ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ทำให้ จิม อคอสตา (Jim Acosta) พิธีกรฝีปากกล้าที่มักวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนล่าสุดอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) อยู่บ่อยครั้ง ต้องเสียโอกาสในงานตอนเช้าของเขาไป โดยมีการคาดเดาว่า อคอสตา อาจถูกโยกไปจัดรายการในช่วงดึก นั่นทำให้เขาไม่พอใจและขู่จะลาออก

CNN พยายามที่จะปรับปรุงรายการเคเบิลทีวีและปรับปรุงข้อเสนอการสมัครสมาชิกดิจิทัลเพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มผู้ชมที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่ง ธอมป์สัน กล่าวว่า CNN ได้เริ่มพัฒนาบริการสตรีมมิ่งใหม่สำหรับรายการข่าวที่คล้ายกับผลิตภัณฑ์ทางทีวี นอกจากนั้นยังวางแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เน้นไลฟ์สไตล์ในปีนี้ด้วย โดยระบุเพิ่มเติมว่า CNN กำลังมองหาช่องทางเปิดและรับสมัครพนักงานใหม่อย่างน้อย 100 ตำแหน่งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนไปใช้ดิจิทัล

“การประกาศบางอย่างในวันนี้หมายถึงโอกาสในการทำงานใหม่ที่สำคัญที่ CNN แต่บางอย่างจะนำไปสู่การสูญเสียเพื่อนร่วมงานที่มีค่าบางคน นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แต่ก็ไม่เป็นที่ต้อนรับ” ข้อความที่ปรากฏตามบันทึกของธอมป์สัน

ในเบื้องต้น CNN ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น ขณะที่หากย้อนกลับไปในเดือน ต.ค. 2567 CNN ได้เปิดตัวระบบจ่ายเงินแบบดิจิทัลซึ่งกำหนดให้ผู้ใช้บางคนต้องจ่ายเงิน 3.99 เหรียญสหรัฐ (ราว 140 บาท) ต่อเดือนเพื่อเข้าถึงเนื้อหาต่างๆ การดำเนินการดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างกระแสรายได้จากดิจิทัลใหม่ เนื่องจากเครือข่ายต้องการชดเชยกับการลดลงของโทรทัศน์ ซึ่ง ทอมป์สัน กล่าวเสริมว่า ความพยายามด้านดิจิทัลนี้ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากการลงทุน 70 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2,450 ล้านบาท) จาก วอร์เนอร์ บราเธอส์ ดิสคัฟเวอรี (WBD)

ในการให้สัมภาษณ์กับ นสพ.The New York Times ธอมป์สัน กล่าวว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่เรื่องราวดิจิทัลดูเหมือนเป็นคำถามเชิงปรัชญา หากเราไม่ติดตามผู้ชมไปยังแพลตฟอร์มใหม่ด้วยความเชื่อมั่นและขนาดที่แท้จริง โอกาสในอนาคตของเราก็จะไม่ดี ทั้งนี้ WBD กำลังดำเนินการปรับโครงสร้างใหม่ครั้งใหญ่ และเมื่อเดือน ธ.ค. 2567 ระบุว่ามีแผนจะแยกเครือข่ายเคเบิลทีวีออกจากการดำเนินงานด้านสตรีมมิ่งและสตูดิโอ โดยจัดตั้งเป็นหน่วยงานแยกกันสองหน่วย โดยภายใต้โครงสร้างใหม่ ธุรกิจเคเบิลทีวี ซึ่งรวมถึง CNN, TNT และ Animal Planet จะถูกรวมเข้าเป็นหน่วยงานที่มีชื่อว่า Global Linear Networks

“ท้ายที่สุดแล้ว CNN ก็กลายเป็นช่องทางสำคัญที่ผู้คนจำนวนมากมายหลายล้านคนใช้ในการรับข่าวสาร” ธอมป์สัน กล่าว

การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในขณะที่ CNN ซึ่งพยายามปรับตัวมาตั้งแต่ WBD เข้าซื้อเครือข่ายดังกล่าวในการควบรวมกิจการในปี 2565 ยังคงตามหลังคู่แข่งทางเคเบิลอย่าง Fox News รวมถึงสื่อฝ่ายซ้ายอย่าง MSNBC อยู่มาก จำนวนผู้ชม CNN แย่ลงเรื่อยๆ นับตั้งแต่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง และปริมาณการเข้าชมเว็บของ CNN ก็ลดลงเช่นกัน โดยลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีในเดือน ธ.ค. 2567 ตามข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์ Comscore

CNN มีผู้เข้าชมที่ไม่ซ้ำกัน 90.5 ล้านคนในเดือน ธ.ค. 2567 ซึ่งลดลงจากจุดสูงสุด 175.5 ล้านคนในเดือน มี.ค. 2563 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของการระบาด บริษัทกล่าว แต่ CNN ก็ชี้แจงกับ The New York Times ว่า เครือข่ายข่าวอื่นๆ ก็พบการลดลงในลักษณะเดียวกัน ขณะเดียวกัน ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สำนักข่าวหลายแห่งเปิดเผยแผนเลิกจ้างพนักงาน อาทิ ในเดือน พ.ย. 2567 สำนักข่าว AP  เปิดเผยว่าจะเลิกจ้างพนักงานประมาณร้อยละ 8 เพื่อปรับการดำเนินงานและผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัย

ขณะที่เมื่อต้นเดือน ม.ค. 2568 นสพ. The Washington Post ซึ่งเป็นของ เจฟฟ์ เบโซส (Jeff Bezos) ผู้ก่อตั้ง Amazon จะเลิกจ้างพนักงานประมาณร้อยละ 4 หรือไม่เกิน 100 คน เพื่อลดต้นทุน เนื่องจากหนังสือพิมพ์ชื่อดังแห่งนี้กำลังเผชิญกับภาวะขาดทุนที่เพิ่มขึ้น และล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2568 สำนักข่าว NBC ซึ่งเป็นเจ้าของโดย Comcast ได้ประกาศเลิกจ้างพนักงานเช่นกัน โดยคาดว่าจะมีพนักงานประมาณหลายสิบคน

ขอบคุณเรื่องจาก

https://nypost.com/2025/01/23/business/cnn-boss-mark-thompson-confirms-200-layoffs-in-digital-push/

043...