29 ม.ค. 2568 ศ.นพ ประกิต วาทีสาธกกิจ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการจัดหารายได้เพื่อใช้เป็นงบประมาณ ( Committee on Ways and Means) ของวุฒิสภา โดยวุฒิสมาชิก Sherwin Gatchalian ประเทศฟิลิปปินส์ เผยแพร่ข้อมูลเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมาว่า รายได้ภาษียาสูบของฟิลิปปินส์ที่เท่ากับ 179.49 พันล้านเปโซ (104,100 ล้านบาท) ในปี 2564 ลดลงเหลือ 134.91 พันล้านเป็นโซ (78,200ล้านบาท) ในปี 2566 หรือเท่ากับลดลง 24.8%
ในขณะที่ฟิลิปปินส์มีนักสูบหน้าใหม่ตั้งแต่อายุ 10 ปีขึ้นไปเพิ่มขึ้น 9.5 ล้านคน โดยเป็นวัยรุ่นมากถึง 1 ล้าน และอัตราการสูบบุหรี่เพิ่มขึ้นจาก 14% ในปี 2564 เป็น 18.9% ในปี 2566 ซึ่งวุฒิสมาชิก เชอร์วิน กัตชาเลียน (Sherwin Gatchalian) ได้ระบุว่า รายได้ภาษีที่ลดลงทั้งๆ ที่จำนวนผู้สูบบุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และอัตราการสูบบุหรี่เพิ่มขึ้น มาจากการระบาดของบุหรี่ผิดกฎหมาย ทั้งบุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้า สว.ท่านนี้เสนอให้รัฐบาลขึ้นภาษีบุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิดและอุดช่องโหว่ที่ทำให้มียาสูบผิดกฎหมาย เพื่อรัฐจะมีรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้น และคนสูบบุหรี่ลดลง
“ฟิลิปปินส์ให้บุหรี่ไฟฟ้าขายได้ถูกกฎหมาย และปรับปรุงกฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในปี 2565 ด้วยการลดอายุคนซื้อบุหรี่ไฟฟ้าจากเดิม 21 ปี ลดเป็น 18 ปี ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าขายได้ถูกหมาย ทั้งชนิดที่ใช้ความร้อน (Heated Tobacco Products) และชนิดที่ใช้น้ำยา จากการวิ่งเต้นอย่างหนักของธุรกิจบุหรี่ ด้วยข้ออ้างที่ว่าเพื่อรัฐบาลจะมีรายได้จากภาษีบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดา” ศ.นพ.ประกิต กล่าว
ศ.นพ.ประกิต กล่าวต่อว่า สำหรับไทย สภาผู้แทนราษฎรจะมีการประชุมเพื่อพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษากฎหมายบุหรี่ไฟฟ้าฯ ที่จะเสนอทางเลือกนโยบายกฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในไทย 3 แนวทาง คือ 1.ให้คงกฎหมายห้ามอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด 2.เปิดให้ขายบุหรี่ไฟฟ้าชนิดที่ใช้ความร้อนอย่างถูกกฎหมาย 3.เปิดให้บุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิดขายได้ถูกกฎหมาย ด้วยข้ออ้างว่า เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชน ขณะที่รัฐบาลจะมีรายได้จากภาษีบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
“ผมอยากให้ สส. รวมทั้งท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในรัฐบาล ได้รับทราบสิ่งที่เกิดขึ้นในฟิลิปปินส์เกี่ยวกับนโยบายบุหรี่ไฟฟ้า เพราะหากสภาผู้แทนราษฎร ใครจะรับประกันว่า หากยกเลิกกฎหมายห้ามบุหรี่ไฟฟ้าตามข้อ 2 และข้อ 3 สิ่งที่จะเกิดขึ้นในไทย จะไม่เหมือนที่เกิดขึ้นแล้วในฟิลิปปินส์ และใครจะต้องเป็นคนที่รับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น จากรายได้ภาษีที่ลดลง และจำนวนนักสูบหน้าใหม่ที่เป็นเด็กและเยาวชนจะเพิ่มขึ้น อย่างที่เกิดขึ้นในฟิลิปปินส์ในขณะนี้” ศ.นพ.ประกิต กล่าว
043..
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี