30 ม.ค. 2568 สำนักข่าวออนไลน์ The Times of Israel ของอิสราเอล เสนอรายงานพิเศษ Working through the trauma, Thai farmhands who survived Oct. 7 return to the fields ว่าด้วยแรงงานข้ามชาติชาวไทยในภาคเกษตรของอิสราเอล ที่แม้จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์กลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 ซึ่งนำไปสู่การสู้รบระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายในพื้นที่ฉนวนกาซา แต่พวกเขาก็เลือกที่จะกลับมาทำงานในอิสราเอลอีกครั้ง
เหตุโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1,200 ราย และถูกกลุ่มฮามาสจับไปเป็นตัวประกัน 250 คน หนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบคือ คิบบุตซ์ อาลูมิม มีคนงานชาวไทย 12 ราย และนักศึกษาชาวเนปาลที่มาฝึกงานด้านการเกษตรอีก 10 ราย ถูกสังหาร และมีคนที่นี่อีก 4 คนถูกจับเป็นตัวประกัน ซึ่งล่าสุด มีรายงานว่า ตัวประกันชาวไทย 8 ราย อาจได้รับการปล่อยตัวในเร็วๆ นี้
Jakkrit Noiphoothorn หรือที่หลายคนเรียกเขาว่า Thon ยืนอยู่หน้าเล้าไก่ในคิบบุตซ์ อาลูมิม ชี้ไปทางกาซ่าในระยะใกล้และส่งคำอวยพรอย่างแรงกล้าให้ตัวประกันกลับบ้าน ชายผู้ทำงานที่นี่มาแล้ว 4 ปี กล่าวว่า ตนอยากให้สงครามยุติลง เพราะจะได้ทำงานให้ดีขึ้นและนอนหลับได้อย่างสบายมากขึ้น ซึ่งขณะนี้กลุ่มฮามาสและอิสราเอลมีข้อตกลงหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษ โดยกลุ่มฮามาสจะปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล 33 คน แลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ที่ถูกคุมขังในเรือนจำของอิสราเอล 1,904 คน
ล่าสุดมีรายงานว่า ในวันที่ 30 ม.ค. 2568 กลุ่มฮามาสจะมีการปล่อยตัวประกันชาวไทย 5 คน จากทั้งหมด 8 คนที่ถูกควบคุมตัวไว้ รวมกับตัวประกันชาวอิสราเอล 3 คน คือ อากัม เบอร์เกอร์ (Agam Berger) อาเบล เยฮูด (Arbel Yehoud) และ กาดี โมเช โมเซส (Gadi Moshe Mozes) นอกจากนั้นยังจะมีการปล่อยตัวประกันชาวเนปาล 1 คน และชาวแทนซาเนียอีก 1 คนด้วย อย่างไรก็ตาม ทางการอิสราเอลประกาศว่า มีตัวประกันชาวไทย 2 ราย และเนปาล 1 ราย เสียชีวิตแล้ว
Thon คือหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. 2566 และยังได้กลับไปทำงานในคิบบุตซ์ที่ถูกโจมตี เขายอมรับว่า ภาพเหตุการณ์วันนั้นยังคงติดตา และหวังว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก ซึ่งในวันเกิดเหตุ Thon กำลังคุยโทรศัพท์กับ ไมเคิล ฮัลเลอร์ (Michael Huller) หัวหน้าของคิบบุตซ์แห่งนี้ ซึ่งมีพื้นเพเป็นชาวเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ และเป็นสมาชิกของคิบบุตซ์มาแล้ว 40 ปี โดยฮัลเลอร์กำลังซ่อนตัวอยู่ในห้องนิรภัยที่บ้านของเขาซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับคิบบุตซ์
คนงานฟาร์มชาวต่างชาติอีกคน ซึ่งเป็นนักศึกษาเกษตรชาวเนปาล ถูกฆ่าตายขณะกำลังคุยโทรศัพท์กับฮัลเลอร์ โดยฮัลเลอร์บอกให้ Thon ปีนออกไปทางหน้าต่างที่อยู่ใกล้ๆ และคลานเข้าไปในโรงเลี้ยงวัวบริเวณนั้น ซึ่งเขาซ่อนตัวอยู่ใต้กองมูลวัวนานถึง 20 ชั่วโมง จากนั้นจึงได้อพยพออกจากอาลูมิมพร้อมกับสมาชิกคิบบุตซ์คนอื่นๆ ไปยังโรงแรมในเมืองนาทาเนียเมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2566 ก่อนจะได้กลับประเทศไทยในอีก 1 สัปดาห์ต่อมา แต่แล้วในอีก 3 เดือนหลังจากนั้น Thon ได้เดินทางกลับมายังอิสราเอลอีกครั้ง ซึ่ง ฮัลเลอร์ กล่าวว่า เขากลับมาเพราะต้องหาเงินและยังมีวีซ่าอยู่
ในช่วงวันแรกๆ ที่กลับมาทำงาน Thon ต้องอ้อมไปอ้อมมาทุกวันเพื่อไปทำงานในเล้าไก่ โดยพยายามเลี่ยงบริเวณคอกวัวและสวนที่อยู่ติดกัน ซึ่งเป็นบริเวณที่เกิดการสู้รบระหว่างกลุ่มฮามาสกกับชุดรักษาความปลอดภัยของอัลลูมิมและกองกำลังรักษาความปลอดภัยภายนอกเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 อย่างไรก็ตาม Thon ไม่ใช่สมาชิกคนเดียวในทีมของฮัลเลอร์ที่หวาดกลัวต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
หนึ่งในลูกจ้างของฮัลเลอร์ คือ เอทาน คูนิโอ (Eitan Cunio) ผู้ที่อาศัยอยู่ในคิบบุตซ์ นิร์ ออซ ที่อยู่ใกล้เคียง พี่น้อง 2 คนของเขาถูกจับไป ได้แก่ เดวิด คูนิโอ (David Cunio) พี่ชายฝาแฝดของเอทาน และ แอเรียล คูนิโอ (Ariel Cunio) น้องชายของพวกเขา รวมถึง อาร์เบล เยฮูด แฟนสาวของแอเรียล ซึ่งล่าสุดอาร์เบลเป็นหนึ่งในผู้ที่กลุ่มฮามาสเปิดเผยว่าเตรียมจะปล่อยตัว นอกจากนั้น ภรรยาและลูกสาวฝาแฝดของเดวิดก็ถูกจับเป็นตัวประกัน ก่อนได้รับการปล่อยตัวในเดือน พ.ย. 2566
Thon กล่าวว่า เมื่อตนกลับมา แม้จะรู้สึกกลัวแต่ตนคือเสาหลักของครอบครัว ขณะที่ ฮัลเลอร์ กล่าวว่า Thon ไม่ชอบพูดถึงตัวประกัน นั่นเป็นปัญหาเรื่องภาษาและวัฒนธรรมบางส่วน แต่เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของเอทาน และนั่นทำให้มองเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. 2566 มีแรงงานไทยในชุมชนใกล้ดินแดนฉนวนกาซา ราว 30 รายเสียชีวิต และอีกกว่า 20 คนถูกจับเป็นตัวประกัน จากนั้นในเดือน พ.ย. 2566 กลุ่มฮามาสได้ปล่อยตัวประกันชาวไทย 17 คน ขณะที่แรงงานไทยในอิสราเอลราว 10,000 คน ส่วนใหญ่เดินทางกลับบ้านโดยรัฐบาลไทยออกค่าใช้จ่ายให้
มิคาล ฮาวิเวียน (Michal Havivian) ภรรยาเจ้าของฟาร์มออร์แกนิกใกล้เมืองอัชเคลอนทางตอนใต้ของอิสราเอล กล่าวว่า จริยธรรมในการทำงานและแนวทางการให้บริการ ทำให้แรงงานข้ามชาติเหล่านี้มีความสำคัญต่อภาคเกษตรของอิสราเอล โดยพวกเขาพูดน้อย ทำงานหนัก อีกทั้งยังรู้สึกมีเกียรติในการทำงานนี้และในการปฏิบัติตามคำสั่ง อย่างไรก็ตาม ชาวไทยก็เป็นคนชอบเก็บตัว แม้จะทำงานร่วมกันหลายปีแต่จะสนิทกับพวกเขานั้นเป็นเรื่องยาก พวกเขาไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวาย และก็ยังเป็นกลุ่มคนที่ไม่ถูกมองเห็นด้วย
แม้จะมีทั้งที่เสียชีวิตและถูกจับเป็นตัวประกัน แต่ชาวไทยในอิสราเอลไม่ค่อยถูกรับรู้ในชุมชนที่พวกเขาอาศัยอยู่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอุปสรรคด้านภาษาและโครงสร้างทางวัฒนธรรมของพวกเขา ตัวอย่างหนึ่งคือเมื่อผู้สื่อข่าวของ The Times of Israel สอบถามเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยในอิสราเอล กลับได้รับคำตอบว่าจะไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับการจับตัวประกันและการเสียชีวิตของชาวไทยเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566
อย่างไรก็ตาม ฮัลเลอร์ไม่แปลกใจกับท่าทีของสถานทูตไทย โดยกล่าวว่า พวกเราเป็นมิตรกัน ตนเห็นรูปถ่ายครอบครัวของแรงงานไทยในโทรศัพท์ของพวกเขา ตนเชิญพวกเขาไปร่วมงานครอบครัวของเรา แต่ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ตนแน่ใจว่าพวกเขามีทุกอย่าง แต่ก็รู้ว่ามันจะจบลงหลังจากผ่านไป 5 ปี ขณะที่ ฮาวิเวียน กล่าวว่า ไทยเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ และคนที่นั่นก็มีภาษาท้องถิ่นหลายภาษา
Korawit Kaeokoed คนงานโรงเลี้ยงวัวในเมืองอาลูมิม ที่รู้จักกันในชื่อ Kuay ได้ซ่อนตัวอยู่เป็นเวลาหลายชั่วโมงในฝ้าเพดานเหนือห้องเก็บของที่ใช้เก็บยาของวัว ในเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. 2566 เขาถูกอพยพไปยังเมืองนาทาเนีย และกลับบ้านที่ประเทศไทยเพื่อเยี่ยมภรรยาและลูกสองคน ก่อนจะกลับมาที่อาลูมิมอีกหลายเดือนต่อมา แตกต่างจาก Phonsawan Pinakalo เพื่อนคนงานที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ก่อนถูกปล่อยตัวในเดือน พ.ย. 2566 ที่เมื่อกลับไปประเทศไทยแล้วก็ตัดสินใจเปิดร้านค้าเล็กๆ
Kuay เล่าว่า Pinakalo บอกว่าตนนั้นไม่ฉลาดที่เลือกกลับมาอิสราเอล เพราะแม้จะรอดตายในครั้งก่อนแต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าจะรอดอีกในอนาคต แต่ตนก็ตอบกลับไปว่าไม่เป็นไร แรงงานไทยรายนี้อธิบายว่า อาลูมิมเป็นสถานที่ที่ดี อีกทั้งเจ้านาย ผู้คนและงานก็ดี ในขณะที่อยู่ไทยนั้นไม่มีทั้งงานและเงิน อย่างไรก็ตาม หากวีซ่าที่ตนถืออยู่หมดอายุ ก็ตั้งใจจะกลับประเทศไทย ไปใช้ชีวิตเป็นชาวนาที่นั่น
รายงานทิ้งท้ายด้วยนายจ้างชาวอิสราเอลอย่าง ฮาวิเวียน ที่กล่าวว่า เมื่อชาวไทยมาทำงานในอิสราเอล พวกเขามักจะเสนอชื่อย่อให้เพื่อให้สะดวกขึ้น และบางทีอาจเพื่อให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเมื่ออยู่ที่ต่างแดน เมื่อได้รับพัสดุจากบ้านเกิดของพวกเขา ตนมักจะต้องตรวจสอบหนังสือเดินทางของพวกเขาเพื่อดูว่าพัสดุนั้นส่งถึงใคร และแม้การสื่อสารของเรามีจำกัด แต่ก็เป็นที่รับรู้ว่าแรงงานชาวไทยคือคนที่คอยดูแลคนชราและฟาร์มขออิสราเอล และพวกเขาทำทุกอย่าง
“พวกเขาคือกระดูกสันหลังของงานที่เราไม่อยากทำ” ฮาวิเวียน กล่าวทิ้งท้าย
ขอบคุณเรื่องจาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
https://www.naewna.com/inter/857145 คืนอิสรภาพ! อิสราเอลเผย'กลุ่มฮามาส'เตรียมปล่อย 5 ตัวประกันชาวไทยวันนี้
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี