3 ก.พ. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว More USAID staff ousted after Trump administration dismantles aid agency อ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าว ที่ระบุว่า ฝ่ายบริหารของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) สั่งปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคง 2 คนของหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐ (USAID) ออกไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
การสั่งปลดดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังหลังจากที่เจ้าหน้าที่นั้นพยายามขัดขวางไม่ให้ตัวแทนจากแผนกประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาล (DOGE) ของมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ (Elon Musk) เข้าไปในพื้นที่หวงห้ามของอาคาร และเป็นการปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูง ภายหลังเจ้าหน้าที่อีกหลายสิบคนถูกปลดไปด้วยเหตุผลเดียวกัน โดยรัฐบาลของทรัมป์พยายามจะยกเลิกความเป็นอิสระของหน่วยงานดังกล่าว และอาจนำไปอยู่ภายใต้กระทรวงการต่างประเทศ
แหล่งข่าวอย่างน้อย 5 ราย ยังกล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่อาวุโสของสำนักงานนิติบัญญัติและกิจการสาธารณะของหน่วยงานเกือบ 30 คนสูญเสียการเข้าถึงอีเมลของพวกเขาในชั่วข้ามคืน ทำให้จำนวนเจ้าหน้าที่อาวุโสของ USAID ที่ถูกพักงานในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเกือบ 100 คน ด้านผู้ช่วยอาวุโสของพรรคเดโมแครตในวุฒิสภากล่าวโดยขอไม่เปิดเผยชื่อ ให้ข้อมูลว่า หน้าที่รักษาความปลอดภัยของ USAID พยายามปฏิเสธเจ้าหน้าที่ DOGE ที่ไม่มีใบอนุญาตด้านความมั่นคง
หลังเหตุการณ์ดังกล่าว จอห์น วูร์ฮีส์ (John Voorhees) ผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัยของ USAID และรองผู้อำนวยการถูกปลดออกจากตำแหน่งและถูกพักงาน ซึ่งในวันที่ 2 ก.พ. 2568 ทรัมป์ได้กล่าวกับสื่อว่า USAID ถูกควบคุมโดยกลุ่มคนหัวรุนแรง และตนกำลังจะกำจัดพวกเขา โดยการกวาดล้างดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเหตุวุ่นวายนานกว่า 1 สัปดาห์ภายใน USAID ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักของสหรัฐฯ ที่จัดสรรเงินช่วยเหลือเพื่อช่วยชีวิตผู้คนทั่วโลกมูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ
ทรัมป์สั่งระงับการให้ความช่วยเหลือต่างประเทศเกือบทั้งหมดของสหรัฐฯ โดยกล่าวว่ารัฐบาลของตนจะทบทวนการใช้จ่ายเพื่อให้แน่ใจว่าเงินจะถูกกระจายไปตามนโยบายต่างประเทศ “อเมริกาต้องมาก่อน” ขณะที่สมาชิกกลุ่มจาก DOGE ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงพื้นที่ปลอดภัยหลายแห่ง รวมถึงสำนักงานความมั่นคงและสำนักงานเลขานุการบริหารของหน่วยงาน
ตามที่แหล่งข่าวให้ข้อมูล ไม่มีบันทึกว่าเจ้าหน้าที่ DOGE สามารถเข้าถึงข้อมูลใดได้บ้างในพื้นที่ดังกล่าว แต่สำนักงานที่พวกเขาเข้าถึงได้มีไฟล์ลับและข้อมูลส่วนบุคคลของชาวอเมริกันที่ทำงานที่ USAID อย่างไรก็ตาม เคธี มิลเลอร์ (Katie Miller)โฆษกของ DOGE โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X ว่าไม่มีการเข้าถึงเอกสารลับใดๆ หากไม่มีใบอนุญาตด้านความมั่นคงที่เหมาะสม นอกจากนั้น แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า แมมท์ ฮ็อปสัน (Matt Hopson) ซึ่งรัฐบาลทรัมป์เพิ่งแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการ USAID คนใหม่ ขอลาออกจากตำแหน่ง หลังเหตุความขัดแย้งกับ DOGE
สมาชิกรัฐสภาพรรคเดโมแครต กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวดูเหมือนจะละเมิดกฎหมายของสหรัฐฯ ที่จัดตั้ง USAID และให้เงินทุนสนับสนุนในฐานะหน่วยงานแยกต่างหาก ผู้ช่วยอาวุโสของวุฒิสภาพรรคเดโมแครต 2 คนกล่าวว่า สมาชิกรัฐสภาและเจ้าหน้าที่ได้ประชุมกันในวันอาทิตย์และจะประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 3 ก.พ. 2568 ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อพิจารณาขั้นตอนเพิ่มเติม รวมถึงการดำเนินคดี
สมาชิกอาวุโสของคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ต่างประเทศของวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต รวมถึงประธานคณะกรรมาธิการ ฌาน ชาฮีน (Jeanne Shaheen) ได้ส่งจดหมายถึง มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2568 พื่อขอคำอธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดย ชาฮีน กล่าวว่า ตนกำลังรวบรวมสมาชิกทั้งจากพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันเพื่อขอคำตอบ
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า การระงับความช่วยเหลือต่างประเทศของสหรัฐฯ กำลังส่งผลกระทบไปทั่วโลก อาทิ โรงพยาบาลสนามในค่ายผู้ลี้ภัยของไทย การกำจัดทุ่นระเบิดในเขตสงคราม และยารักษาโรคหลายล้านคนที่ป่วยด้วยโรคต่างๆ เช่น โรคเอดส์ (HIV) อยู่ในกลุ่มโครงการที่เสี่ยงต่อการถูกยกเลิก อย่างไรก็ตาม ไบรอัน แมสต์ (Brian Mast) ประธานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพรรครีพับลิกัน กล่าวเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2568 ว่า ตนจะสนับสนุนการย้าย USAID ไปอยู่ภายใต้กระทรวงการต่างประเทศ และจำเป็นต้องมีการบังคับบัญชาและการควบคุมที่มากขึ้น
เมื่อถูกถามในรายการ "Face the Nation" ของสำนักข่าว CBS ว่าจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาหรือไม่ หรือว่าทรัมป์สามารถดำเนินการฝ่ายเดียวได้หรือไม่ มาสต์ไม่ได้ตอบคำถามนี้ แต่บอกว่า การกวาดล้างผู้คนทั่วทั้งกระทรวงการต่างประเทศ หน่วยงานอื่นๆ และการระงับความช่วยเหลือ ล้วนเป็นขั้นตอนที่สำคัญและจำเป็นมากเพื่อให้แน่ใจว่าเราจะสามารถรักษาความปลอดภัยให้กับสหรัฐฯ ได้
ในวันที่ 2 ก.พ. 2568 มัสก์ พันธมิตรคนสำคัญของทรัมป์ โพสต์ข้อความผ่าน X ระบุว่า USAID เป็นองค์กรอาชญากรรมที่สมควรตาย แต่ไม่ได้อ้างอิงหลักฐานใดๆ ซึ่งมัสก์ได้รับการแต่งตั้งจากทรัมป์ให้เป็นหัวหน้าคณะกรรมการลดต้นทุนของรัฐบาลกลางที่มีอำนาจในการกำกับดูแลอย่างกว้างขวาง โดยมีแหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่จาก DOGE เดินทางไปที่สำนักงานใหญ่ของ USAID ในวอชิงตันบ่อยครั้ง
แหล่งข่าว 3 ราย ให้ข้อมูลว่า ปีเตอร์ มาร็อคโค (Peter Marocco) ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าสำนักงานความช่วยเหลือต่างประเทศของกระทรวงการต่างประเทศ และเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของหน่วยงาน ซึ่งในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ สมัยแรก เคยดำรงตำแหน่งในรัฐบาลชุดแรกของทรัมป์ในกระทรวงกลาโหม
เว็บไซต์ของ USAID หยุดให้บริการตั้งแต่บ่ายวันที่ 1 ก.พ. 2568 ซึ่งเป็นสัญญาณว่าหน่วยงานดังกล่าวใกล้จะถึงจุดจบแล้ว โดยหน่วยงานนี้ที่ผ่านมาได้แจกจ่ายเงินเพื่อสนับสนุนจากโครงการต่างๆ ตั้งแต่สุขภาพสตรีในพื้นที่ขัดแย้ง ไปจนถึงการเข้าถึงน้ำสะอาด การป้องกันและรักษาโรคเอดส์ ความมั่นคงด้านพลังงาน และงานปราบปรามการทุจริต
ขอบคุณเรื่องจาก
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี