ลอสแองเจลิส/ดัลลัส (รอยเตอร์ส)- ชาวอเมริกันและบรรดาผู้อพยพจำนวนมากรวมตัวชุมนุมในหลายเมืองใหญ่ ประท้วงนโยบายจับกุมและเนรเทศผู้อพยพของรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เยือนปานามา เตรียมถกเรื่องคลองปานามาที่ทรัมป์ประกาศจะยึดมาเป็นของสหรัฐฯ

ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดการชุมนุมประท้วงต่อต้านนโยบายจับกุมและเนรเทศผู้อพยพของรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในหลายเมืองใหญ่
ทั่วสหรัฐฯ โดยที่นครลอสแองเจลิสผู้ประท้วงหลายพันคนรวมตัวกันหลายจุดประท้วงนโยบายนี้ จุดสำคัญที่สุดเป็นการเดินขบวนไปยังศาลากลางของลอสแองเจลิสซึ่งผู้ประท้วงถือป้ายข้อความต่อต้านมาตรการแข็งกร้าวกับผู้อพยพ ต่อมาการประท้วงลุกลาม มีการบุกเข้าไปไปปิดกั้นทางด่วนหมายเลข 101 ซึ่งเป็นสายสำคัญในนครลอสแองเจลิส บางคนนั่งบนพื้นถนนเป็นเวลาหลายชั่วโมงด้วย ส่งผลกระทบต่อการจราจรในใจกลางเมืองอย่างหนัก เช่นเดียวกับที่เมืองริเวอร์ไซด์ ทางตะวันออกของลอสแองเจลิส ก็มีการประท้วงในกลางเมือง เพื่อต่อต้านนโยบายนี้ โดยมีการนำรถยนต์มาร่วมกิจกรรมด้วยการเบิร์นยางกลางสี่แยกด้วย แต่โดยรวมแล้วการชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบ

ที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส กลุ่มภาคประชาสังคมได้จัดเดินขบวนประท้วงนโยบายผู้อพยพของทรัมป์ ที่มุ่งเน้นจับกุมผู้อพยพและเนรเทศ รวมถึงเพิ่มงบประมาณปิดกั้นพรมแดน มีการประเมินว่า รัฐบาลทรัมป์ได้จับกุมประชาชนราว 900-1,200 คนต่อวันโดยเฉพาะในเมืองที่มีศูนย์พักพิงใหญ่ เช่น นครนิวยอร์ก และนครชิคาโก ส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพจากอเมริกาใต้

ขณะเดียวกัน ทรัมป์ได้ส่ง มาร์โกรูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ ไปยังปานามา ซึ่งเขาเคยขู่ว่าจะใช้กำลังยึดคืนคลองปานามามาเป็นของสหรัฐฯ ด้วยกำลังทหารเนื่องจากเขากล่าวหาว่า ปานามาเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางสูงเกินไปและยังตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของจีนด้วย อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี โฮเซ ราอูล มูลิโน ของปานามา ยืนกรานว่า สิทธิครอบครองคลองปานามาเป็นของประเทศปานามา ไม่อาจเจรจาต่อรองใดๆ ได้ แต่เขาจะนำข้อกังวลของสหรัฐมาพิจารณา โดยเฉพาะการที่มีบริษัทของจีนและฮ่องกง มาดำเนินการในประเทศ และการควบคุมผู้อพยพ

ทั้งนี้ รูบิโอยังมีกำหนดเยือนประเทศอื่นๆ ในอเมริกากลาง ทั้งเอลซัลวาดอร์ คอสตาริกา กัวเตมาลา และสาธารณรัฐโดมินิกัน เพื่อหารือเรื่องผู้อพยพที่ทรัมป์เดินหน้านโยบายผลักดันกลับไปยังประเทศต้นทาง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอเมริกากลาง