4 ก.พ. 2568 สำนักข่าว VnExpress International ของเวียดนาม รายงานข่าว Thai women rescued from human egg trafficking ring run by Chinese gang in Georgia ระบุว่า ที่ประเทศจอร์เจีย กลุ่มอาชญากรชาวจีนได้ล่อลวงหญิงชาวไทยไปกักขังในสถานที่ที่เรียกว่า “ฟาร์มไข่มนุษย์” โดยเรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้น หลังจากมีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับ มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี (Pavena Foundation for Children and Women) ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาสังคม (NGO) ในประเทศไทย เมื่อเดือน ก.ย. 2567
ผู้เสียหายรายนี้ เล่าว่า ตนหาเงินจำนวน 7 หมื่นบาท (2,060 เหรียญสหรัฐ) มาไถ่ตนเองได้ จึงถูกปล่อยให้เดินทางกลับประเทศไทย และให้ข้อมูลว่ายังมีเหยื่อค้ามนุษย์ถูกกักขังอยู่ที่จอร์เจียอีกหลายคน กระทั่งเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2568 ตำรวจไทยได้ประสานกับตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) ช่วยหญิงไทยที่ตกเป็นเหยื่อออกมาได้อีก 3 คน ซึ่งในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2568 หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า เธอถูกหลอกลวงด้วยโฆษณาบนเฟซบุ๊กที่เสนอรายได้ระหว่าง 400,000 ถึง 600,000 บาท (11,800–17,700 เหรียญสหรัฐฯ)
หลังจากตอบโฆษณาดังกล่าว เธอได้รับแจ้งว่างานนี้เกี่ยวข้องกับการอุ้มบุญสำหรับคู่สามี-ภรรยาที่มีบุตรยากในจอร์เจีย ผู้จัดหางานยังครอบคลุมค่าหนังสือเดินทางและค่าเดินทางของเธอด้วย อย่างไรก็ตาม ในเดือน ส.ค. 2567 ที่เป็นวันเดินทาง พบว่ามีผู้หญิงคนอื่นๆ ร่วมเดินทางไปด้วยอีก 10 คน ก่อนจะถูกนำไปขังไว้ในสถานที่ที่เป็นกลุ่มบ้านขนาดใหญ่ 4 หลัง ซึ่งภายในนั้นมีผู้หญิงอีกจำนวนหนึ่งถูกกักขังไว้ก่อนแล้ว โดยพบว่ามีผู้หญิงไทยราว 100 คน อยู่ในสถานที่แห่งนี้
ตรงกันข้ามกับสิ่งที่พวกเธอได้รับสัญญาไว้ ไม่มีคู่สามีภรรยาที่เป็นหมันที่แสวงหาการอุ้มบุญ ในทางกลับกัน พื้นที่ดังกล่าวถูกควบคุมโดยกลุ่มอาชญากรชาวจีนที่บังคับให้ผู้หญิงเหล่านี้ฉีดฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นการผลิตไข่ จากนั้นจะถูกวางยาสลบทุกเดือนเพื่อดำเนินการเก็บไข่ ซึ่งเหยื่อรายงานว่า ไข่ที่เก็บได้ถูกนำส่งไปยังประเทศอื่นเพื่อนำไปใช้ในกระบวนการปฏิสนธิในหลอดแก้ว (IVF) โดยหากใครจะกลับบ้าน ต้องจ่ายค่าไถ่เป็นเงินตั้งแต่ 5 – 7 หมื่นบาท ซึ่งถูกเรียกว่าเป็นค่าเดินทางและค่าครองชีพ แต่ส่วนใหญ่ไม่สามารถจ่ายได้
สื่อเวียดนามยังรายงานด้วยว่า ปัจจุบันจอร์เจียไม่มีกฎระเบียบเฉพาะเกี่ยวกับการอุ้มบุญ และบริษัทที่ดำเนินการที่นั่นมักโฆษณาบริการของตนว่าถูกกฎหมาย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจอร์เจียได้ประกาศแผนที่จะห้ามบริการอุ้มบุญในเร็วๆ นี้ ขณะที่ตำรวจไทยยืนยันว่าการสืบสวนยังคงดำเนินต่อไป โดยอาจมีเหยื่ออีกจำนวนมากที่รอการช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการตอบสนองอย่างเป็นทางการจากทางการจีนเกี่ยวกับคดีดังกล่าว ด้าน ปวีณา หงสกุล (Pavena Hongsakula) ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เรียกร้องรัฐบาลไทยประสานงานกับทางการจีนเพื่อให้ปล่อยตัวผู้หญิงไทยที่เหลือ
ขอบคุณเรื่องจาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
https://www.naewna.com/local/858245เหมือนตกนรกทั้งเป็น! เซลส์สาวถูกหลอกทำงานจอร์เจีย บังคับรีดไข่สืบพันธุ์
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี