6 กุมภาพันธ์ 2568 จากกรณีที่แอปพลิเคชั่น 'DeepSeek'แชทบอทเอไอสัญชาติจีน กลายเป็นแอปพลิเคชั่นที่มียอดโหลดแอปฯ ขึ้นเป็นอันดับ1 ในสหรัฐฯ แซงหน้า ChatGPT ของบริษัท OpenAI สั่นสะเทือนไปถึงหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีและบริษัทด้านเอไอของสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน แอปฯจีนอย่าง 'DeepSeek'กำลังสร้างความวิตกกังวลให้หน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลก ทำให้โมเดล AI และแอปพลิเคชั่น แชทบอทของ 'DeepSeek'เริ่มถูกแบนโดยประเทศต่างๆ และหน่วยงานของรัฐ โดยเฉพาะด้านความกังวลเกี่ยวกับจริยธรรม ความเป็นส่วนตัว และแนวทางปฏิบัติในด้านความปลอดภัย ซึ่งมีประเทศและหน่วยงาน ดังนี้
ประเทศอิตาลี เป็นประเทศแรก ที่สั่งแบน 'DeepSeek'หลังจากหน่วยงานคุ้มครองข้อมูล (DPA) ได้ทำการสอบสวนการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและการปฏิบัติตาม GDPR อิตาลีได้ลบแอป 'DeepSeek' ออกจากร้านค้าแอปฯ ของ Apple และ Google
ประเทศไต้หวัน สั่งแบน 'DeepSeek' โดยอ้างถึงข้อกังวลด้านความมั่นคงของชาติ กระทรวงกิจการดิจิทัลระบุว่า DeepSeek เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยข้อมูลของชาติและห้ามใช้ในหน่วยงานของรัฐ การแบนนี้ครอบคลุมถึงพนักงานของหน่วยงานรัฐ โรงเรียนของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ
ประเทศออสเตรเลีย : สั่งห้ามหน่วยงานรัฐใช้งานแอปแชทบอทเอไอ 'DeepSeek'โดยอ้างความกังวลเรื่องความมั่นคง ไม่ใช่เพราะเป็นแอปจากจีน
กระทรวงอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้สั่งแบน 'DeepSeek' ชั่วคราว โดยอ้างเรื่องความมั่นคงและขอความร่วมมือให้หน่วยงานต่างๆ ระมัดระวังการใช้ AI ในสถานที่ทำงาน บริษัทเทคโนโลยีของเกาหลีใต้หลายแห่งก็เริ่มหลีกเลี่ยงการใช้ 'DeepSeek'เช่นกัน
ต่อมาที่ประเทศสหรัฐอเมริกา รัฐสภาสหรัฐอเมริกา มีคำเตือนไม่ให้ใช้เทคโนโลยี 'DeepSeek' โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารระดับสูงของสภาผู้แทนราษฎรระบุว่าเทคโนโลยี 'DeepSeek'กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาเนื่องจากมีความกังวลว่าผู้ก่อภัยคุกคามกำลังใช้ประโยชน์จาก 'DeepSeek'เพื่อส่งซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย ด้านผู้ว่าการรัฐเท็กซัสได้ออกคำสั่งแบนซอฟต์แวร์จาก 'DeepSeek' และบริษัทจีนอื่นๆ บนอุปกรณ์ที่รัฐบาลออกให้ โดยอ้างถึงการป้องกันการแทรกซึมโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของรัฐ
ทางกองทัพเรือสหรัฐฯ และ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) สั่งห้ามบุคลากรใช้แอปฯ หรือเทคโนโลยี 'DeepSeek'เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยและจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับแหล่งที่มาและการใช้งานของเทคโนโลยี พร้อมได้ปิดกั้นการเข้าถึงเทคโนโลยี 'DeepSeek' แม้ว่าเจ้าหน้าที่บางส่วนจะยังสามารถเข้าถึงได้ผ่านแพลตฟอร์มที่ได้รับอนุญาต
NASA ก็ได้สั่งแบน 'DeepSeek'โดยระบุว่าเซิร์ฟเวอร์ของ 'DeepSeek'ดำเนินการอยู่นอกสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำให้เกิดข้อกังวลด้านความมั่นคงของชาติ ห้ามใช้ 'DeepSeek' กับข้อมูลและสารสนเทศของ NASA หรือบนอุปกรณ์และเครือข่ายที่ออกโดยรัฐบาล
ส่วนใหญ่การแบนแอปฯจีน 'DeepSeek'มาจากความกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลและภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยหลายหน่วยงานมองว่า AI ของ DeepSeek อาจเป็นเครื่องมือที่จีนใช้ในการเข้าถึงข้อมูลสำคัญระดับประเทศ
ขอบคุณที่มา : DeepSeek: The countries and agencies that have banned the AI company’s tech
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี