วอชิงตัน (รอยเตอร์ส/ซีเอ็นเอ็น)-ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งห้ามคนข้ามเพศแข่งกีฬากับผู้หญิงอีกต่อไป เพื่อไม่ให้นักกีฬาผู้หญิงถูกเอาเปรียบ ขณะที่กลุ่ม LGBTQ กังวลเป็นการสร้างความเกลียดชังในสังคม และจะทำให้กลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศไม่มีที่ยืนในสังคม แต่ผู้เกี่ยวข้องระบุว่า คำสั่งฝ่ายบริหารทรัมป์รอบนี้เป็นคำสั่งที่ยากจะปฏิบัติตามได้
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งบริหารพิเศษ ห้ามนักกีฬาข้ามเพศแข่งขันกับผู้หญิง ซึ่งทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งนี้ท่ามกลางนักกีฬาเด็กผู้หญิงจำนวนมาก คำสั่งนี้มีชื่อว่า “ห้ามผู้ชายแข่งในกีฬาผู้หญิง” เพื่อสร้างความยุติธรรมในการแข่งขันกีฬา ซึ่งช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางว่านักกีฬาข้ามเพศที่เคยเป็นผู้ชายมาก่อน สามารถร่วมการแข่งขันกับนักกีฬาผู้หญิงได้หรือไม่ ซึ่งทรัมป์ไม่เห็นด้วยกับการอนุญาตให้คนข้ามเพศแข่งขันกีฬากับผู้หญิงได้ เพราะคนที่เคยเป็นผู้ชายมาก่อน มีโครงสร้างร่างกายและกล้ามเนื้อที่แข็งแรงกว่าผู้หญิงมาก จึงเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรมสำหรับนักกีฬาผู้หญิง ที่เขาบอกว่าถูกนักกีฬาผู้ชายที่อ้างว่าตัวเองเป็นผู้หญิงขโมยชัยชนะไปมากกว่า 3,500 ครั้ง
คำสั่งนี้เริ่มมีผลบังคับใช้ทันที ซึ่งจะมีอำนาจควบคุมการแข่งขันกีฬาระดับโรงเรียน กีฬามหาวิทยาลัย และกีฬาระดับชุมชน และคำสั่งนี้ได้มอบอำนาจให้กระทรวงศึกษาธิการตรวจสอบโรงเรียนที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งได้ ขณะที่หน่วยงานด้านกีฬาระดับนานาชาติหลายแห่ง ไม่อนุญาตให้คนข้ามเพศแข่งกีฬากับผู้หญิงได้อยู่แล้ว เช่น กรีฑา ว่ายน้ำ และกอล์ฟ
ก่อนที่ทรัมป์จะลงนามในคำสั่งนี้เขาได้กล่าวว่า สงครามในวงการกีฬาผู้หญิงนั้นจบลงแล้ว และในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งหน้า ที่นครลอสแองเจลิสจะเป็นเจ้าภาพในปี 2028 รัฐบาลของทรัมป์จะไม่อดทนยืนดูนักกีฬาผู้ชายแข่งกับนักกีฬาผู้หญิงอย่างไม่เป็นธรรมอีกต่อไป ซึ่งทรัมป์ก็มีจุดยืนที่ชัดเจนเรื่องการระบุเพศในเอกสารราชการ รวมทั้งการแข่งขันกีฬา ที่จะต้องมีแค่ผู้ชายและผู้หญิงเท่านั้น
ด้านกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิชาว LGBTQ มองว่าคำสั่งนี้ของทรัมป์เป็นการเลือกปฏิบัติและทำให้นักกีฬาข้ามเพศไม่มีที่ยืนในวงการกีฬา ซึ่งในปัจจุบัน วงการกีฬาควรจะเปิดรับในเรื่องความหลากหลายทางเพศด้วย และยืนยันว่านักกีฬาข้ามเพศที่ไปแข่งขันกับนักกีฬาผู้หญิง ไม่ได้มีโอกาสชนะการแข่งขันมากกว่า เพราะนอกจากเรื่องร่างกายแล้ว ยังมีเรื่องความพร้อม
ทางจิตใจ การฝึกซ้อม ความทุ่มเท และวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการคว้าชัยชนะของนักกีฬา
อย่างไรก็ดี ผู้เกี่ยวข้องระบุว่าคำสั่งฝ่ายบริษัทล่าสุดนี้ของทรัมป์ห้ามสตรีข้ามเพศจากเด็กชายหรือผู้ชายลงแข่งกีฬาประเภทหญิงเป็นเรื่องที่ยากจะปฏิบัติ เนื่องจากใช้เพียงการตรวจเพศและตรวจร่างกายภายนอกเท่านั้น การเพิ่มการตรวจร่างกายนักกีฬาจะเป็นอันตรายร้ายแรงต่อนักกีฬาที่เป็นเด็กนักเรียนหญิงและหญิงที่ถูกมองว่ามีความเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
ขณะที่ MAP (MovementAdvancement Project) ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระสนับสนุนสิทธิของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศระบุว่า ในบรรดา 25 รัฐที่มีกฎหมายคล้ายกับคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ มีเพียง 12 รัฐที่กำหนดกระบวนการอย่างชัดเจนในการชี้ชัดเพศของนักเรียน เพราะส่วนใหญ่ใช้แต่สูติบัตร หนังสือรับรองของบิดามารดาหรือผู้ดูแลด้านสุขภาพเป็นตัวระบุเพศรัฐไอดาโฮเป็นรัฐแรกในสหรัฐที่ออกกฎหมายในปี 2563 ห้ามสตรีข้ามเพศจากเด็กชายและผู้ชายเล่นกีฬาในทีมที่กำหนดไว้สำหรับผู้หญิง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี