7 ก.พ. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Trump administration sued by government workers over cuts to USAID ระบุว่า สหพันธ์ลูกจ้างภาครัฐอเมริกัน (American Federation of Government Employees) ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานของบุคลากรภาครัฐในสหรัฐอเมริกา และ สมาคมบริการอเมริกันในต่างประเทศ (American Foreign Service Association) ซึ่งเป็นสมาคมของบุคลากรกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2568 กรณี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินหน้ายุบหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐ (USAID)
ตามคำฟ้องของทั้ง 2 องค์กร ระบุว่า การยุบ USAID นั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญและไม่ชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งยังก่อให้เกิดวิกฤติด้านมนุษยธรรมทั่วโลก จึงขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวของทรัมป์ ซึ่งนับตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. 2568 ที่รับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งระงับความช่วยเหลือต่างประเทศทั้งหมดไว้เป็นเวลา 90 วัน จากกนั้นกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้สั่งระงับโครงการ USAID ทั่วโลก ระบบคอมพิวเตอร์ของ USAID หยุดทำงาน และเจ้าหน้าที่ถูกเลิกจ้างอย่างกะทันหัน
คำฟ้องนี้มีจำเลยคือทรัมป์ กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงการคลิง ซึ่งในเบื้องต้น ทำเนียบขาวและกระทรวงดังกล่าวยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ขณะที่การทำลาย USAID ดำเนินการโดย อีลอน มัสก์ (Elon Musk) มหาเศรษฐีที่ขณะนี้ได้ชื่อว่าเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก และเป็นผู้สนับสนุนใกล้ชิดของทรัมป์ ซึ่งทรัมป์ได้มอบหมายให้มัสก์ดำเนินการจัดระเบียบหน่วยงานภาครัฐของรัฐบาลกลาง ตามนโยบายของทรัมป์ที่ต้องการลดขนาดของภาครัฐ
“ไม่มีการกระทำของจำเลยแม้แต่ครั้งเดียวในการยุบ USAID ที่ดำเนินการโดยได้รับอนุมัติจากรัฐสภา และตามกฎหมายของรัฐบาลกลาง รัฐสภาเป็นหน่วยงานเดียวเท่านั้นที่สามารถยุบหน่วยงานดังกล่าวได้โดยชอบด้วยกฎหมาย การล่มสลายของหน่วยงานดังกล่าวส่งผลกระทบด้านมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง รวมทั้งการยุติความพยายามในการต่อสู้กับมาเลเรียและเอดส์ (HIV) ตอนนี้ทารก 300 คนที่ไม่ติดเชื้อ HIV กลับติดเชื้อแล้ว เด็กหญิงและสตรีอีกหลายพันคนจะเสียชีวิตจากการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร” คำฟ้องดังกล่าวระบุ
เว็บไซต์ของ USAID มีการแจ้งว่า ตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 7 ก.พ. 2568 เป็นต้นไป บุคลากรที่ USAID จ้างโดยตรงทั้งหมดจะถูกพักงานจากทั่วโลก ยกเว้นบุคลากรที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานที่สำคัญยิ่งต่อภารกิจ ผู้บริหารหลัก และโปรแกรมที่ได้รับมอบหมายเป็นพิเศษ ขณะที่ในช่วงเช้าของวันที่ 6 ก.พ. 2568 มีแหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า รัฐบาลทรัมป์มีแผนจะให้มีพนักงานเหลือไว้ไม่ถึง 300 คนจากทั้งหมดกว่า 10,000 คน
การระงับความช่วยเหลือต่างประเทศของทรัมป์และการปิด USAID ยังทำให้ความพยายามทั่วโลกในการบรรเทาความหิวโหยต้องหยุดชะงักลง ทำให้อาหารประมาณ 500,000 เมตริกตันซึ่งมีมูลค่า 340 ล้านเหรีญสหรัฐต้องอยู่ในสถานะไม่แน่นอน โดยคำฟ้องระบุว่าการยุบ USAID ซึ่งก่อตั้งขึ้นเป็นหน่วยงานอิสระในกฎหมายที่ผ่านโดยรัฐสภาเมื่อปี 2541 อยู่เหนืออำนาจของทรัมป์ภายใต้รัฐธรรมนูญ และละเมิดหน้าที่ของเขาในการบังคับใช้กฎหมายของประเทศอย่างซื่อสัตย์
ขณะเดียวกัน USAID กำลังขอคำสั่งชั่วคราวและถาวรในที่สุดจากศาลเพื่อคืนเงินทุนให้ USAID เปิดสำนักงานอีกครั้ง และระงับคำสั่งเพิ่มเติมในการยุบ USAID
ขอบคุณเรื่องจาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
https://www.naewna.com/inter/858457 จากยุค‘ต้านคอมมิวนิสต์’ถึงวันที่‘ทรัมป์’ไม่ปลื้ม รู้จัก‘USAID’หน่วยงาน‘สหรัฐฯ’ส่งออกความช่วยเหลือทั่วโลก
043...
(ภาพจากรอยเตอร์) 3 ก.พ. 2568 ผู้คนถือป้ายในขณะที่อาคาร USAID ปิดไม่ให้พนักงานเข้าทำงาน หลังจากที่มีการออกบันทึกข้อความแนะนำให้บุคลากรของหน่วยงานทำงานจากระยะไกล ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี