ทรัมป์หารือนายกฯ ญี่ปุ่น
วอชิงตัน - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ต้อนรับนายกรัฐมนตรีชิเกรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ (7 ก.พ.) ก่อบพบหารือกันในหลายประเด็น ผู้นำทั้งสองฝ่ายย้ำว่า ทั้งสองประเทศจะทำงานร่วมกันเพื่อยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐฯกับญี่ปุ่น ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งสุ่มเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ ยังมีการหารือในประเด็นเกาหลีเหนือ และความพยายามของบริษัทนิปปอนสตีลของญี่ปุ่น ที่จะเข้าซื้อกิจการบริษัทยูเอสสตีลของสหรัฐฯ มูลค่า 14,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 505,110 ล้านบาท) ซึ่งทรัมป์คัดค้านแผนการดังกล่าว ทรัมป์ยังกล่าวว่า เขาวางแผนที่จะพูดคุยกับประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน และประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียในสัปดาห์หน้าด้วย ทรัมป์ ซึ่งเข้าบริหารประเทศมาได้สามสัปดาห์ ได้ทำลายบรรทัดฐานต่าง ๆ และขู่ตอบโต้หลายประเทศตั้งแต่แคนาดาไปจนถึงโคลอมเบีย ทั้งเรื่องการค้า, ผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายและการลักลอบค้ายาเสพติด ก็ได้ใช้วิธีการแบบเดียวกันนี้กับพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ในเอเชียแปซิฟิก รวมถึงญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย
สี จิ้นผิง เปิดกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว
ฮาร์บิน - ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมฤดูหนาวครั้งที่ 9 ในเมืองฮาร์บิน มณฑลเฮย์หลงเจียง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ช่วงเย็นวันศุกร์ (7 ก.พ.) พร้อมผู้นำต่างชาติเข้าร่วมในพิธี ได้แก่ สมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดีน วัดเดาละห์ สุลต่านแห่งบรูไน, ประธานาธิบดีซาดีร์ จาปารอฟ แห่งคีร์กีซสถาน, ประธานาธิบดีอาซิฟ อาลี ซาร์ดารี แห่งปากีสถาน, นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ของไทย และประธานรัฐสภาเกาหลีใต้ วู วอน ชิก การแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมฤดูหนาว ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ใช้ชื่อว่า “ความฝันในฤดูหนาว ความรักในทวีปเอเชีย” มีผู้เข้าแข่งขัน 1,275 คนจาก 34 ประเทศและภูมิภาคเข้าร่วม เป็นการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแง่ของจำนวนผู้เข้าร่วมทั้งหมด ถือเป็นครั้งที่ 3 ที่จัดการแข่งขันกีฬาระดับภูมิภาคในประเทศจีน ก่อนหน้านี้ ฮาร์บินเคยเป็นเจ้าภาพในปี 1996 และเมืองฉางชุน เมืองเอกของมณฑลจี๋หลิน ที่อยู่ใกล้เคียง ก็เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในปี 2007 อีกทั้งยังถือเป็นการแข่งขันน้ำแข็งและหิมะระดับนานาชาติครั้งใหญ่ครั้งแรกของจีน นับตั้งแต่โอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่งในปี 2022
สหรัฐฯ ตัดเงินช่วยเหลือกระทบผู้ป่วยเอดส์
วอชิงตัน - โครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) แถลงเมื่อวานนี้ ( 8 ก.พ.) ว่า อาจมีผู้คนมากกว่า 6 ล้านคนเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสเอชไอวีและเอดส์ ในอีก 4 ปีข้างหน้า หากรัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ระงับการบริจาคเงินช่วยเหลือต่างประเทศมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามแผนเป็นเวลา 90 วัน นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม แม้ในอีกไม่กี่วันต่อมา กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ออกหนังสือยกเว้นแผนฉุกเฉินของทรัมป์ สำหรับการบรรเทาทุกข์จากโรคเอดส์ (PEPFAR) ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มด้านโรคเอดส์ชั้นนำของโลกเพื่อช่วยเหลือชีวิตด้านมนุษยธรรม แต่คริสติน สเตกลิง รองผู้อำนวยการบริหาร UNAIDS เน้นย้ำว่า สถานการณ์ยังคงวุ่นวาย และสัญญาการจ้างงานกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 5,000 รายในเอธิโอเปีย ถูกยกเลิกไปแล้ว ทั้งนี้ เงินบริจาคของสหรัฐฯ คิดเป็นส่วนใหญ่ของเงินทุนสำหรับโครงการโรคเอดส์ของสหประชาชาติที่ดำเนินการใน 70 ประเทศ ซึ่งนำไปสู่ความพยายามทั่วโลกในการหยุดยั้งโรคเอดส์ที่เป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของประชาชนภายในปี 2030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี