ฮามาสพร้อมปล่อยตัวประกันวันนี้
กาซาซิตี - กลุ่มฮามาสออกแถลงการณ์ว่า จะปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลเพิ่มอีก 3 คนในวันเสาร์ที่ 15 ก.พ. ตามกำหนดเดิม และตามเงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิง แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ฮามาสได้เจรจากับคนกลางในอียิปต์และจอร์แดน ซึ่งรับปากว่าจะดูแลและช่วยขจัดอุปสรรคในการจัดส่งความช่วยเหลือเข้าไปในฉนวนกาซาหลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ฮามาสประกาศว่าจะเลื่อนการปล่อยตัวประกันออกไปโดยอ้างว่าอิสราเอลละเมิดข้อตกลงหยุดยิง การให้หลักประกันของประเทศคนกลางทำให้มีความหวังว่าข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสจะไม่ล่มสลายลง หลังจากที่อิสราเอลออกมาตอบโต้ฮามาสว่า หากไม่ปล่อยตัวประกันตามกำหนดจะยกเลิกข้อตกลงหยุดยิง เช่นเดียวกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่ยื่นคำขาดให้ฮามาสปล่อยตัวประกันภายในเที่ยงวันเสาร์นี้ ไม่เช่นนั้นจะยกเลิกการหยุดยิงและปล่อยให้ฉนวนกาซากลายเป็นนรก หลังจากที่ข้อตกลงเริ่มมีผลมาตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม มีตัวประกันชาวอิสราเอลได้รับการปล่อยตัวแล้ว 16 คน และตัวประกันไทยอีก 5 คน ขณะที่ยังเหลือตัวประกันอีก 17 คนที่รอการปล่อยตัวตามข้อตกลงหยุดยิงระยะที่ 1 มีที่กำหนด 42 วัน ซึ่งทั้งหมดจะต้องได้รับการปล่อยตัวภายในเวลา 3 สัปดาห์หลังจากนี้
สหรัฐฯ จะขายอาวุธเพิ่มให้อินเดีย
นิวเดลี - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังพบหารือกับนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ของอินเดียที่ทำเนียบขาวว่า สหรัฐฯ จะเพิ่มการขายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับอินเดียเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และเตรียมปูทางในการจัดเอาเครื่องบินขับไล่ เอฟ-35 สเตลท์ ซึ่งเป็นเครื่องบินใช้เทคโนโลยีล่องหน เพื่อเลี่ยงการตรวจจับจากฝ่ายตรงข้าม ทรัมป์ไม่ได้แจ้งกำหนดเวลาในการจัดหาเครื่องบินขับไล่ดังกล่าว แต่การจำหน่ายอาวุธให้ต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างเช่น เครื่องบินขับไล่ เอฟ-35 สเตลท์ โดยปกติแล้วต้องใช้เวลาดำเนินการหลายปี ล็อกฮีด มาร์ติน ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินเอฟ-35 กล่าวว่า การเจรจาเพื่อขายเครื่องบินเอฟ-35 ให้อินเดียจะเป็นการเจรจาในระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล ทรัมป์กล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ และอินเดียบรรลุข้อตกลงหลายด้าน รวมถึงเรื่องที่อินเดียจะนำเข้าน้ำมันและแก๊สธรรมชาติจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพื่อลดการขาดดุลการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2008 อินเดียตกลงจะซื้อผลิตภัณฑ์ด้านกลาโหมจากสหรัฐฯ มากกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์
ดาวน์โหลดติ๊กต็อกในสหรัฐฯ ได้แล้ว
วอชิงตัน – แอปเปิลเปิดให้ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนในสหรัฐฯ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นติ๊กต็อก บนแอปสโตร์ได้อีกครั้งตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 13 ก.พ. หลังจากที่ต้องระงับให้บริการไปนานหลายสัปดาห์ การเปิดให้ใช้งานติ๊กต็อกมีขึ้นหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีคำสั่งหลังจากเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา ให้ชะลอการแบนติ๊กต็อกออกไปเป็นเวลา 75 วัน ทำให้ไบต์แดนซ์ บริษัทแม่ของติ๊กต็อกสามารถดำเนินการแอปแชร์คลิปวีดีโอสั้นยอดนิยมในสหรัฐฯ ได้ต่อไปเป็นการชั่วคราว นอกจากนี้ คำสั่งของทรัมป์ยังยืนยันด้วยว่า ผู้ให้บริการแอปสโตร์จะไม่ถูกลงโทษจากการที่ยังไม่ถอนแอปติ๊กต็อกออกจากสมาร์ทโฟน ติ๊กต็อก ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวีดีโอสั้นของจีน เป็นแอปพลิเคชั่นมีการดาวน์โหลดมากเป็นอันดับสองในสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว มีการดาวน์โหลดกว่า 52 ล้านครั้งและร้อยละ 52 เป็นการโหลดจากแอปสโตร์ของแอปเปิล สหรัฐฯสั่งแบนติ๊กต็อก เนื่องจากกังวลในเรื่องความมั่นคง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี