ริยาด/เคียฟ/ปารีส (รอยเตอร์ส/บีบีซีนิวส์)-ผู้แทนรัฐบาลรัฐบาลสหรัฐฯ และรัสเซียเริ่มต้นการเจรจาที่ประเทศซาอุดีอาระเบียเพื่อหวังหาทางยุติสงครามยูเครน แต่ยูเครนและหลายประเทศในยุโรปซึ่งไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมต่างปฏิเสธที่จะยอมรับข้อตกลงใดๆ โดยระบุว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จัดเจรจาเพื่อเอาใจรัสเซีย

คณะผู้แทนเจรจาของรัสเซีย นำโดย เซอร์เก ราฟลอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศ และยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศของทำดเนียบเครมลิน เริ่มต้นพบหารือกับคณะผู้แทนเจรจาของสหรัฐฯ นำโดย มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ สตีฟวิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษด้านตะวันออกกลางของสหรัฐฯ และ ไมค์ วอลช์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง ที่กรุงริยาด เมื่อวันที่ 18 ก.พ.พร้อมด้วยตัวแทนจากรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย นำโดยรัฐมนตรีต่างประเทศ เพื่อหารือเรื่องหาทางยุติสงครามยูเครนและฟื้นฟูความสัมพันธ์ทั้งหมดของทั้งสองประเทศ รวมถึงการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯและประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ของ รัสเซีย ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ โดยที่ไม่ได้ให้ยูเครน ที่เป็นประเทศคู่สงครามกับรัสเซีย รวมถึงประเทศในยุโรปที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ เข้าร่วมการเจรจาด้วย

โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า การหารือครั้งนี้เป็นการติดต่อเบื้องต้น เพื่อดูว่ารัสเซียมีความจริงจังที่จะยุติสงครามยูเครนหรือไม่ หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีปูตินได้สนทนาทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่าทรัมป์พยายามเอาใจรัสเซียที่ต้องการประกาศชัยชนะในสงครามยูเครนให้เร็วที่สุด และทรัมป์ได้กำหนดทุกอย่างตามที่ปูตินต้องการ ดังนั้น ยูเครนซึ่งไม่ได้รับรู้เนื้อหาการเจรจานี้ ก็จะไม่มีวันยอมรับผลการเจรจาใดๆ ของทั้งสองฝ่าย

ในส่วนของประเทศพันธมิตรดั้งเดิมของสหรัฐฯ ซึ่งกำลังถูกทรัมป์ใช้นโยบายห่างเหิน ได้จัดประชุมสุดยอดผู้นำกันอย่างเร่งด่วนในกรุงปารีสของฝรั่งเศสเมื่อวันจันทร์ที่ 17 ก.พ. เพื่อหารือเรื่องการรับมือกับนโยบายของทรัมป์ ที่ทำให้ความสัมพันธ์ตกต่ำลงและการจัดการกับสงครามยูเครน โดยนายกรัฐมนตรีหญิง เมเทอ
เฟรดเดอริคเซน ของเดนมาร์ก เตือนสหรัฐฯ ว่า การตกลงหยุดยิงอย่างเร่งด่วน จะทำให้รัสเซียระดมกำลังเพิ่มแล้วไปโจมตียูเครนอีก แล้วรัสเซียจะไม่หยุดเท่านั้นแต่จะไปโจมตีประเทศอื่นๆ ด้วย ตามแนวทางสร้างจักรวรรดินิยมรัสเซีย หลายประเทศยังได้มีแนวคิดส่งทหารของตนเข้ารักษาสันติภาพในยูเครน นายกรัฐมนตรี เคียร์ สตามเมอร์ ของอังกฤษ ได้แสดงความสนับสนุนแนวคิดนี้เช่นเดียวกับผู้นำของเนเธอร์แลนด์และสวีเดน แล้วยังได้ร้องขอให้สหรัฐฯ เข้าร่วมด้วยเพื่อป้องปรามรัสเซียด้วย

ด้าน คิริลล์ ดมิทรีเยฟ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของกองทุนการลงทุนโดยตรงรัสเซีย หรืออาร์ดีไอเอฟกล่าวก่อนเข้าร่วมการหารือว่า รัสเซีย มองว่าประธานาธิบดีทรัมป์และทีมงานเป็นทีมนักแก้ปัญหา เป็นกลุ่มคนที่แก้ไขความท้าทายใหญ่หลวงจำนวนมากได้รวดเร็วมาก มีประสิทธิภาพมาก และประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ดมิทรีเยฟ กล่าวด้วยว่า ธุรกิจสหรัฐฯ สูญเสียราว 300,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 10ล้านล้านบาท) จากการถอนตัวออกจากรัสเซีย และมีอีกหลายประเทศที่เสียหายทางเศรษฐกิจ รัสเซียเชื่อว่า การหาทางออกเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เดินหน้าต่อไปได้