ปักกิ่ง (ซินหัว) - สื่อทางการจีนรายงานว่า ศาลท้องถิ่นเมืองเวินโจว มณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีน ได้พิจารณาคดีความกับจำเลยทั้งหมด 23 ราย ซึ่งเป็นสมาชิกหลักของกลุ่มฉ้อโกงทางโทรคมนาคมขนาดใหญ่หลายกลุ่มในภาคเหนือของเมียนมา

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานวันที่ 20 ก.พ. ว่า ศาลได้พิจารณาคดีระหว่างวันที่ 14-19 กุมภาพันธ์ โดยมีการพิจารณาหลายข้อหา รวมถึงอาชญากรรมที่ทำให้พลเมืองจีนเสียชีวิต 14 ศพ และบาดเจ็บ 6 ราย จำเลยมีทั้งหัวหน้าแก๊ง อาชญากรรม สมาชิกหลักของแก๊ง และสมาชิกที่เป็นผู้สนับสนุนการก่ออาชญากรรม พวกเขาถูกตั้งข้อหาทางอาญา 11 กระทง เช่น ฉ้อโกง เจตนาฆ่า เจตนาทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยวอย่างผิดกฎหมาย เปิดกาสิโน ค้ายาเสพติดและประเวณี

คณะอัยการกล่าวว่า จำเลยเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากอิทธิพลของครอบครัวที่อยู่ในพื้นที่ตอนเหนือของเมียนมา จัดตั้งแหล่งซ่องสุมแก๊งอาชญากรรมหลายแก๊ง ให้การคุ้มกันด้วยอาวุธแก่ปฏิบัติการของผู้สนับสนุน และสมรู้ร่วมคิดในการก่ออาชญากรรมต่างๆ เช่น แผนการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมที่มีเป้าหมายเป็นประชาชนในจีน คำฟ้องร้องระบุว่า อาชญากรรมการพนันและการฉ้อโกงเหล่านี้เกี่ยวพันกับเงินทุนมากกว่า 10,000 ล้านหยวน (ราว 50,000 ล้านบาท) และส่งผลให้พลเมืองจีนเสียชีวิต 14 ศพและบาดเจ็บ 6 ราย

เหตุการณ์ที่เป็นกรณีสำคัญเกิดขึ้นวันที่ 20 ตุลาคม 2566 เมื่อแก๊งอาชญากรรมร่วมมือกับผู้สนับสนุน จัดการคุ้มกันด้วยอาวุธระหว่างโยกย้ายคนที่ทำงานให้แก๊งเพื่อหลบหนีการปราบปราม คนทำงานบางคนพยายามหลบหนีจึงถูกทีมคุ้มกันยิง ทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บหลายราย คณะอัยการได้แสดงหลักฐานให้จำเลยแต่ละรายและทนายความของพวกเขาตรวจสอบระหว่างการพิจารณาคดีความ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้อธิบายโต้แย้งตามลำดับและจำเลยให้การครั้งสุดท้าย ท่ามกลางการสังเกตการณ์ของสมาชิกสภานิติบัญญัติ ที่ปรึกษาทางการเมือง นักข่าว สมาชิกครอบครัวของผู้ที่เกี่ยวข้อง และสาธารณชนรวมมากกว่า 100 คน

แหล่งข่าวอัยการระบุว่า อาชญากรรมบางส่วนเกิดขึ้นภายในพรมแดนจีน มุ่งเป้าที่พลเมืองจีนเป็นพิเศษ และสร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์ร่วมของประชาคมระหว่างประเทศ ทำให้จีนมีอำนาจการพิจารณาคดีความภายใต้กฎหมายอาญาและสนธิสัญญาระหว่างประเทศ