จีนส่งเครื่องรับพลเมืองกลับปท.
ล็อตแรก200คน
ตม.ไทยตรวจเข้มก่อนขึ้นบัญชีดำ
โฆษกรัฐบาลยันทำตามก.ม.
โต้ส่งกลับด่วนแบบวีไอพี
ดีเดย์เที่ยวแรก 200 ราย ส่งกลับจีน ตม.เข้มขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองขึ้นบัญชีดำ เป็นบุคคลต้องห้ามเข้าปท. ก่อนขึ้นเครื่องออกราชอาณาจักรด้าน “โรม”แฉไบโอเมตริกซ์หมดอายุ 3 ปี แล้ว! ซัดเป็นความผิดพลาดไม่น่าให้อภัย-ไร้คนรับผิดชอบ ทำให้ปัจจุบันต้องใช้วิธีโบราณ “ถ่ายภาพ-ปั๊มลายนิ้วมือ” ถาม “ผบ.ตร.” จะรับผิดชอบอย่างไรกังขามัวช้ารออะไรไม่ออกหมายจับ‘หม่อง ชิตตู’ ติง ‘จีน’ ไม่จำแนก ‘เหยื่อ-อาชญากร’ ทำกระทบชาติอื่น โดยเฉพาะไทยไม่รู้ว่าใครเป็นจีนเทา อาจกลับเข้ามาก่ออาชญษกรรมได้อีก
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ มีรายงานข่าวจากหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร (ฉก.ราชมนู กกล.นเรศวร)เปิดเผยว่า การส่งตัวบุคคลสัญชาติจีนเดินทางกลับประเทศเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยทางเมียนมาและกองกำลัง BGF ได้นำบุคคลสัญชาติจีน 50 คน เดินทางมาสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 และส่งตัวให้ทางเจ้าหน้าที่ไทย หลังจากนั้น จะเดินทางมาที่อาคารที่ทำการสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 และดำเนินการตามขั้นตอนการคนเข้าเมือง ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)แจ้งปฏิเสธการเข้าเมืองทั้ง 50 คน เนื่องจากเป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร ตามมาตรา 12 (7) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ปี 2522 และได้แจ้งตามแบบ ตม.35 เพื่อสั่งให้ออกนอกราชอาณาจักรต่อไป
ขึ้นบช.ดำเหยื่อจีนก่อนส่งกลับ
รายงานข่าวเผยต่อว่า ขั้นตอนต่อไปนำตัวทั้งหมดไปลงข้อมูลในระบบไบโอเมตริก ของสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เพราะเป็นบุคคลต้องห้าม เข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อดำเนินการลงระบบแบล็คลิส (Blacklist ) ของสตม. ซึ่งในทุกขั้นตอนเจ้าหน้าที่ซักซ้อมและเตรียมการไว้เป็นอย่างดีทุกขั้นตอน จึงทำให้การดำเนินการเป็นไปอย่างรวดเร็ว และเก็บรายละเอียดตามกฎหมายได้ทุกขั้นตอน
ประเดิม4เที่ยวบิน200ราย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครองร่วมกันนำตัวขึ้นรถเดินทางไปท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด ผ่านการเอ็กซ์เรย์ และขึ้นเครื่องเดินทางกลับต่อไป โดยวันนี้บุคคลสัญชาติจีนที่เดินทางกลับประเทศมี 200 คน โดยทางการเมียนมาทยอยส่งมาชุดละ 50 คน ห่างกันทุก 2 ชั่วโมงจนครบจำนวน
ส่วนเที่ยวบินที่ออกจากท่าอากาศยานแม่สอดจังหวัดตากมี 4 เที่ยวบิน โดยสายการบิน China Southern Airlines เที่ยวบินที่ 1.ออกในเวลา 11.40 น. เที่ยวบินที่ 2.ออกแวลา 12.40 น. เที่ยวบินที่ 3 ออกเวลา 13.40 น. และเที่ยวบินที่ 4 ออกเวลา 17.40 น. โดยเวลา 10.52 น. เครื่องบิน Airbus A320-251N (เที่ยวที่ 1) เดินทางถึงท่าอากาศยานแม่สอด
รบ.ยันทำตามกม.ส่งเหยื่อกลับไม่มีวีไอพี
ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า กรณีมีรายงานข่าวกล่าวหาทางการไทยอนุญาตให้ฝ่ายจีนมารับตัวชาวจีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต (online scam) ที่ถูกปล่อยตัวจากเมียนมามาขึ้นเครื่องบินที่ประเทศไทย เดินทางกลับจีนโดยไม่ผ่านกระบวนการคัดกรองและตรวจคนเข้าเมืองของไทย เป็นการละเมิดกฎหมายไทยนั้น ยืนยันไม่เป็นความจริง กรณีนี้คือกลุ่มคนจีนที่ได้รับการส่งตัวจากเมียนมากลับจีนนั้น รัฐบาลไทยดำเนินการด้านการตรวจคนเข้าเมืองตามกฎหมายไทยตามมาตรา 12 ประกอบมาตรา 22 ของ พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งปฏิเสธการเข้าเมือง โดยกำหนดให้คนกลุ่มนี้ต้องออกนอกราชอาณาจักรทันที เป็นการดำเนินการตามอำนาจทางกฎหมายไทยที่มีอย่างครบถ้วน
นอกจากนี้ ชาวจีนกลุ่มดังกล่าวจะผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง และยังต้องมีการเก็บข้อมูลชีวภาพ (biometric) เพื่อประโยชน์ในการคัดกรองไม่ให้กลับมากระทำผิดซ้ำหรือไม่ให้ใช้ไทยเป็นทางผ่านอีก ซึ่ง “การดำเนินดังกล่าว ถือเป็นการใช้อำนาจอธิปไตยของไทยและของเจ้าพนักงานตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง” ขอย้ำว่า ไม่มีการส่งกลับด่วนประเทศแบบ วีโอพี แต่อย่างใด และนอกจากจะเป็นไปตามกฎหมายไทยแล้ว ยังได้เป็นที่ตกลงกับทางจีน ในการดำเนินการกับคนชาติจีนด้วยแล้ว
โรมแฉไบโอเมตริกซ์หมดอายุ3ปีแล้ว
ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงหลังประชุม กมธ.ฯถึงแนวทางจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีหลายส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับข้อมูลอัตลักษณ์ อาชญากรข้ามชาติและยาเสพติดว่า ไทยไม่มีการใช้ระบบไบโอเมตริกซ์หรือการเก็บอัตลักษณ์บุคคลอีกแล้ว ซึ่งแปลว่าเวลา 3 ปีเต็มนี้ ไม่มีเครื่องมือเก็บข้อมูลอัตลักษณ์นักท่องเที่ยว ทำให้มีโอกาสผิดพลาดจากการที่นักท่องเที่ยวใช้ไทยเป็นทางผ่านก่ออาชญากรรม โดยที่ตัวเขาเองมีสัญชาติที่แตกต่างกัน
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า แม้วันนี้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) จะใช้วิธีถ่ายรูปและพิมพ์ลายนิ้วมือ แต่ข้อมูลที่ได้นั้นชัดเจนว่าไม่เพียงพอ กลายเป็นช่องว่างสำคัญในการทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในอันตรายของปัญหาอาชญากรรมที่เพิ่มสูงขึ้นแน่นอน ซึ่งสตม.มีความรับผิดชอบที่จะป้องกันเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่เนิ่นๆทั้งที่ควรรับรู้รับทราบมาก่อนหน้านี้ว่า เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้น แต่กลับปล่อยให้ License หมด จนเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น กลายเป็นสุญญากาศ ใช้วิธีโบราณไม่สามารถเก็บข้อมูลได้ โดยใช้วิธีขึ้นแบล็คลิสต์ ที่ไม่สามารถรู้ได้ว่าจะมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
«ผมอยากตั้งคำถามถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่าปล่อยให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างไร ภาพการก่ออาชญากรรมเกิดขึ้น โดยที่ระบบเราไม่สามารถป้องกันได้ จะรับผิดชอบอย่างไร ต้องถามผู้บังคับบัญชา ตม.ด้วยคำถามเดียวกันว่า ปล่อยให้คนไทยตกอยู่ในอันตราย เช่นนี้ได้อย่างไร» นายรังสิมันต์ กล่าว
กระทุ้งหมายจับ‘หม่องชิตตู’กังขารออะไร
นายรังสิมันต์ยังกล่าวถึงการขยายผลและปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์และทุนเทาว่า ได้พยายามรับรู้รับทราบและพยายามเข้าใจว่า เหตุใดการออกหมายจับหม่อง ชิตตู จึงทำได้ยากเย็น ซึ่งพบว่าตัวการหลักของเรื่องนี้คือ อัยการ เนื่องจากเป็นคดีความผิดนอกราชอาณาจักร ทำให้อัยการสูงสุดจึงต้องเข้ามาดู แต่การออกหมายนั้น ขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็พยายามดำเนินการอยู่ แต่การส่งมอบข้อมูลของสองหน่วยงานนั้น ยังไม่เกิดขึ้น จึงไม่รู้ว่ารอช้าอยู่ไปเพื่ออะไร เพราะจะส่งผลให้เรา ไม่สามารถแช่แข็งบัญชีและทรัพย์สินของอาชญากรได้ ทำให้คนจำนวนมากต้องรอคอยการชดเชยเยียวยา ยังไม่ได้รับเงินคืน
มีค.เคาะปิดท่าข้ามเอี่ยวแก๊งคอลฯ
นอกจากนี้ ยังไม่มีการขยายผลไปถึงเต่ง วิน ซึ่งเป็นคนสำคัญใน BGF และเกี่ยวข้องกับบริษัท SMTY ซึ่งเป็นสัญญากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และยังมีตัวละครสำคัญใหม่ ซึ่งต้องขยายผลต่อไปว่าบุคคลที่อยู่ในกองกำลังดังกล่าว อาจเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจำนวนมาก ทั้งการลักลอบขนย้ายสารตั้งต้นและการส่งออกยาเสพติดผ่านไทยไปยังประเทศอื่น ดังนั้น เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า แหล่งผลิตยาเสพติดใหม่เกิดขึ้นแล้ว ที่รัฐกะเหรี่ยง เมียนมา ไม่ได้จำกัดแค่ทางฝั่งว้า สำหรับกรณีท่าข้าม ขอยืนยันว่า มีท่าที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จริง และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะเป็นผู้สรุปว่า ใครบ้างที่มีอำนาจปิดท่าข้าม และภายในเดือนมีนาคมนี้ จะสรุปว่าต้องมีท่าไหนบ้างที่จะถูกปิดไป
จีนไม่แยกเหยื่อ-แก๊งคอลฯจะกระทบไทย
นายรังสิมันต์กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังสอบถามกรณีการส่งตัวคนต่างชาติด้วยว่า เหตุใดจีนถึงมีเพียงบันทึกภาพและพิมพ์ลายนิ้วมือ ไม่ได้คัดแยกเหยื่อและอาชญากร ทำให้เราไม่มีข้อมูลว่าใครคืออาชญากรตัวใหญ่ หากจีนไม่ส่งให้เรา ยืนยันว่า การกระทำเช่นนี้ ไม่เป็นผลดีต่อประเทศ เพราะอาจมีการกลับมาก่ออาชญากรรมในประเทศไทยได้อีก ขณะที่ประเทศอื่นมีการแยก ซึ่งอาจทำให้ประเทศอื่นมองว่า เราปฏิบัติไม่เท่าเทียมกัน และถูกมองว่าไทยอยู่ภายใต้อิทธิพลของชาติใดชาติหนึ่ง ซึ่งไม่ควรที่จะทำให้ใครมองเราเช่นนี้ ดังนั้น รัฐบาลต้องทบทวน หากต่อไปเกิดกรณีเช่นนี้อีก ตนขอเรียกร้องเรื่องนี้ไปยังนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่ามีการขึ้นแบล็คลิสต์จริงหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า น่าจะ เนื่องจากผู้เข้าชี้แจงไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ตรงนี้โดยตรง หากผู้ที่เขาชี้แจงไม่สามารถให้ข้อมูลได้ ตนก็คิดว่าเราไม่ควรมี ผบ.ตร. หรือรองผบ.ตร. มากขนาดนี้ นี่เป็นความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัย และไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนรับผิดชอบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี