ส่งกลับปท.วันที่2
300คนจีนเหยื่อแก๊งคอลฯในเมียวดี
‘โรม’จี้แก้ปมไบโอเมตริกซ์หมดอายุ
เมียนมาส่งตัวชาวจีนเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ใน จ.เมียวดี ให้ไทยอีก 300 คน เพื่อส่งกลับประเทศจีนต่อเนื่องเป็นวันที่สอง จัด 6เที่ยวบินรับกลับประเทศ โดยวันที่ 22 กุมภาพันธ์ กลุ่มสุดท้าย ด้านกะเหรี่ยง DKBA เล็งเลิกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เหตุแบกรับภาระกินอยู่ไม่ไหว
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการส่งตัวชาวจีนที่ถูกส่งจากเมียนมากลับประเทศต้นทางว่า วันนี้เป็นวันที่สองที่เมียนมาส่งตัวเหยื่อค้ามนุษย์ชาวจีนใน จ.เมียวดี ข้ามมาทางฝั่งไทยผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 เพื่อเตรียมส่งตัวเหยื่อกลับประเทศจีน วันนี้เตรียมเที่ยวบินไว้ถึง 6 เที่ยวบินตั้งแต่ช่วงเช้า ที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 เจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ยังคงตรึงกำลังรอบด่านศุลกากรแม่สอดแห่งที่ 2 เพื่อดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยรอบพื้นที่จุดรับ-ส่งตัวชาวจีนที่จะส่งตัวมาในวันนี้ซึ่งเป็นวันที่ 2 ที่ชาวจีนถูกส่งตัวมาเพิ่มจากเมื่อวานนี้อีก 300 คน
ส่งจีนเหยื่อแก๊งคอลฯกลับอีก300คน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ต่างจากเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์คือ จุดที่รับส่งตัวชาวจีน วันนี้เจ้าหน้าที่นำสแลนสีเขียวมาปิดกั้นพื้นที่ไว้ ทำให้เห็นเพียงเงาของกลุ่มชาวจีนที่ลงจากรถบัสและถือเอกสารเข้าไปในอาคาร โดยมีทหารคอยประกบตัวชาวจีน ทหาร 2 คน ต่อชาวจีน 1 คน ซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมบอกว่า เป็นการเคารพสิทธิ์ของเหยื่อ จึงให้สื่อมวลชนปักหลักเก็บภาพอยู่ด้านนอก ไม่อยากให้เห็นใบหน้าของเหยื่อชาวจีน
สำหรับขั้นตอนหลังกลุ่มชาวจีนลงจากรถบัสไม่ต่างจากเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ทหารจะประกบตัวพาไปเข้าขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง โดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะแจ้งปฏิเสธการเข้าเมือง เนื่องจากเป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร ตามมาตรา 12 (7) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ปี 2522 และได้แจ้งตามแบบ ตม.35 เพื่อสั่งให้ออกนอกราชอาณาจักรต่อไป จากนั้นจะนำชาวจีนไปลงข้อมูลในระบบไบโอเมตริกของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อดำเนินการลงระบบแบล็กลิสต์ (Blacklist) ของ สตม.
22กพ.ส่งตัวชาวจีนกลับกลุ่มสุดท้าย
เมื่อเสร็จขั้นตอนดังกล่าวแล้ว จะนำตัวชาวจีนทั้งหมดไปขึ้นรถบัสมุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด ผ่านการเอกซเรย์ และไปขึ้นเครื่องบินสายการบิน China Southern Airlines กลับประเทศจีน โดยวันนี้เตรียมเที่ยวบินไว้ทั้งหมด 6 เที่ยวบิน เที่ยวบินแรกมาถึงเวลา 10.40 น. และจะออกเดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอดเวลา 11.40 น. ส่วนเที่ยวบินสุดท้ายมาถึงเวลา 18.10 น. ออกจากท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอดเวลา 19.10 น.และวันที่ 22 ก.พ.นี้จะเป็นการส่งตัวชาวจีนกลับประเทศเป็นกลุ่มสุดท้าย โดยผ่านขั้นตอนต่างๆ เช่นเดียวกับวันนี้
ดีเคบีเอส่อเลิกจับแก๊งคอลฯรับภาระไม่ไหว
เวลา 10.00 น. วันเดียวกัน พื้นที่ของทหารกะเหรี่ยง DKBA หรือกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตยที่ควบคุมพื้นที่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเมย บ้านช่องแคบ ตำบลช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งมีท่าข้ามธรรมชาติอยู่สองท่า มีเพียงแม่น้ำเมยกั้นแบ่งเขตแดนเท่านั้น แหล่งข่าวแจ้งว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวผู้นำกะเหรี่ยง DKBA เตรียมยุติการช่วยเหลือเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเขตอิทธิพลของตนเอง เนื่องจากช่วยเหลือมาแล้วต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ทั้งค่ากินค่าอยู่อาศัยที่ต้องดูแล ที่ผ่านมากะเหรี่ยง DKBA ส่งเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ทางการไทยด้านอำเภอพบพระมาแล้ว 260 คน ทำให้ต้องแบกรับค่าใช้จ่าย
ขณะที่ไทยยังแบกภาระดูแลเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวต่างชาติ ที่มทบ.310 (มณฑลทหารบกที่ 310 ค่ายวชิรปราการ) อำเภอเมืองตากอีกกว่า 200 คน แต่มีสถานทูตมารับไป 28 คนเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ซึ่งจ.ตากโดยศูนย์สั่งการชายแดนจะไม่รับเหยื่อมาไว้ในเขตไทยแล้ว ต้องให้สถานทูตแต่ละประเทศที่เกี่ยวข้องมารับไปเอง ยกเว้นบุคคลสัญชาติจีนที่นำมาจากเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ จีนส่งผ่านข้ามชายแดนไทยไป 198 คน 4 เที่ยวบิน ตามข้อตกลงของ 3 ประเทศคือ ไทย จีน เมียนมา และจะส่งเป็นลอตสุดท้าย 600 คน วันที่ 22 กุมภาพันธ์
‘โรม’จี้แก้ปัญหาไบโอเมตริกซ์หมดอายุ
ด้านนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Rangsiman Rome - รังสิมันต์ โรม ระบุถึงเครื่องไบโอเมตริกซ์หรือเครื่องเก็บลักษณะทางกายภาพและอัตลักษณ์บุคคลว่า ขอยืนยันอีกครั้งตลอดปี 2567 ทั้งปี และจนถึงวันนี้ไม่มีการเก็บไบโอเมตริกซ์จริง เป็นการเก็บแบบถ่ายรูปเท่านั้นไม่ใช่ระบบไบโอเมตริกซ์ แล้วระบบใหม่ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จะได้รับมาใช้ก็อาจต้องรอมากถึง 29 เดือน ซึ่งยังไม่มีการจัดซื้อจัดจ้าง อาจต้องรอนานมากกว่า 29 เดือนด้วยซ้ำ ที่ผ่านมานับตั้งแต่ไลเซ็นต์หมดอายุมีคนเข้าออกไทย 17 ล้านคนโดยไม่มีการเก็บอัตลักษณ์ หรือ ไบโอเมตริกซ์
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ แม้แต่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหลายคนก็ไม่ทราบ เพราะ ยังคงใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ ราวกับเป็นการเก็บ Biometrics แต่ในความเป็นจริงคือ เป็นการเก็บด้วยภาพคือ เป็นภาพใบหน้าคน และภาพลายพิมพ์นิ้วมือ ถ้านึกไม่ออกให้นึกว่า คุณไปพิมพ์ลายพิมพ์นิ้วมือที่โรงพัก ซึ่งเขาจะมีลูกกลิ้งดำๆให้พิมพ์ลายนิ้วมือลงกระดาษ หลังจากนั้น ก็ถ่ายรูปอันนั้นเก็บเอาไว้ สภาพเป็นแบบนั้น”นายโรมกล่าว
และว่า ที่ตนเป็นห่วงคือ หากนาย A สัญชาติจีน เดินทางเข้ามาในไทยก่อปัญหาอาชญากรรม จากนั้นหนีออกนอกประเทศ ตำรวจพบเจอลายพิมพ์นิ้วมือของนาย A พบกล้องวงจรปิดที่ถ่ายภาพนาย Aไว้ได้ จึงสั่งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองคุมตัวไว้ ปรากฏว่านาย A ไปซื้อสัญชาติอื่น มีพาสปอร์ตเล่มใหม่พร้อมเปลี่ยนชื่อแล้วกลับเข้าไทยอีกครั้ง ระบบของตรวจคนเข้าเมืองจะไม่สามารถนำภาพถ่ายที่เพิ่งถ่ายรูปนาย A ไปตรวจสอบกับรูปพรรณสัณฐานเดิมได้เพราะนาย A ถือพาสปอร์ตเล่มใหม่พร้อมสัญชาติใหม่และชื่อใหม่แล้ว เนื่องจากไม่เคยมีการบันทึกอัตลักษณ์มาก่อน ระบบจะไม่สามารถตรวจสอบได้เลย ดังนั้น ขอเรียกร้องให้นายกฯ เร่งตรวจสอบเรื่องนี้ เป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องเร่งจัดการอุดช่องโหว่ และต้องตรวจสอบดีๆว่าเจ้าหน้าที่รัฐที่บอกคนจีนที่ส่งกลับไปมีการเก็บอัตลักษณ์ อาจไม่ได้เก็บจริงๆ
200คนแรกกลับถึงปท.-จีนย้ำความสำเร็จ
สำนักข่าวซินหัวของจีน รายงานว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมาพลเมืองจีน 200 คน ที่ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมา กลับถึงจีนเรียบร้อยแล้ว ด้านกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนแถลงการณ์ว่า การส่งตัวผู้ต้องสงสัยเหล่านี้กลับสู่จีนถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายระหว่างจีน เมียนมา และไทยในการต่อต้านการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม
โดยทางกระทรวงความมั่นคงสาธารณะฯเผยว่า การส่งตัวผู้ต้องสงสัยกลับประเทศเป็นความคืบหน้าสำคัญที่เกิดจากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่าง 3 ประเทศ หลังสองประเทศบรรลุฉันทามติจัดตั้งกลไกร่วมเพื่อปราบปรามการฉ้อโกงด้านโทรคมนาคมและการค้ามนุษย์
กระทรวงยังระบุด้วยว่า ไทยตัดกระแสไฟฟ้า อินเทอร์เน็ตและน้ำมันไปเมียวดี และเสริมกำลังลาดตระเวนเพื่อป้องกันการข้ามพรมแดนโดยผิดกฎหมายของบุคคลที่เกี่ยวกับการฉ้อโกง ด้านเมียนมาได้ส่งกองกำลังเข้าตรวจค้นแหล่งฉ้อโกงด้านโทรคมนาคมในเมียวดี จับผู้ต้องสงสัย และช่วยคนจีนที่ติดอยู่ในปฏิบัติการฉ้อโกง ความพยายามร่วมกันดังกล่าวส่งผลให้สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้จำนวนมากในเมียวดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี