เคียฟ (รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - ยูเครนและหลายประเทศทั่วโลกจัดกิจกรรมและประท้วง เพื่อรำลึกวาระครบรอบ 3 ปีรัสเซียทำสงครามรุกรานยูเครน ขณะที่ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ลั่นพร้อมสละตำแหน่งผู้นำประเทศเพื่อสันติภาพของยูเครน และเปิดทางให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต

เมื่อวันที่ 24 ก.พ. เป็นวันครบรอบ 3 ปีรัสเซียทำสงครามรุกรานยูเครน ทำให้ทั้งในยูเครนและหลายประเทศทั่วโลกมีการจัดกิจกรรมและพิธีต่างๆ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์นี้ โดยที่เมืองลวิฟ ทางตะวันตกของยูเครน มีการจัดแสดงไฟที่สุสานหลักของเมือง ใช้ชื่อว่า “แสงไฟแห่งความทรงจำ” ผู้เข้าพิธีรำลึกและสดุดีเหยื่อสงครามยูเครน ทั้งทหารและพลเรือน จากการโจมตีของรัสเซียตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

ที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม ได้มีการยิงแสงไฟเป็นสีของธงชาติยูเครนลงบนอาคารที่ทำการสหภาพยุโรป เพื่อรำลึกถึงสงครามและให้กำลังใจยูเครนในการต่อสู้กับการรุกรานของรัสเซีย ตลอด 3 ปีมานี้ สมาชิกสหภาพยุโรปได้ช่วยเหลือด้านการทหารแก่ยูเครนรวมกว่า 48,500 ล้านยูโร เช่นเดียวกับที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ผู้ประท้วงและชาวยูเครนอพยพได้รวมตัวกันเพื่อต่อต้านสงคราม นำธงยูเครนผืนใหญ่ร่วมขบวนไปตามท้องถนน พวกเขายังแสดงความไม่พอใจต่อรัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีท่าทีโอนอ่อนให้กับรัสเซีย ส่วนที่นครโตรอนโตของแคนาดาผู้ประท้วงได้ร่วมกันใจกลางเมือง เพื่อให้กำลังใจยูเครนในการทำสงครามปกป้องตนเอง พวกเขายังประณามทรัมป์ที่แสดงความเป็นมิตรกับรัสเซีย ผู้รุกรานแล้วกลับเป็นศัตรูกับยูเครนผู้ประท้วงตะโกนว่า ทรัมป์กล่าวหาผู้นำยูเครนว่าเป็นเผด็จการ แต่ที่จริงแล้วเขามาจากการเลือกตั้งและไม่ได้เป็นผู้ก่อสงคราม

ด้านประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน แถลงข่าวที่กรุงเคียฟ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. ระบุว่า เขามีความตั้งใจเพื่อสละตำแหน่งผู้นำประเทศ ถ้าเป็นการช่วยสร้างสันติภาพในยูเครน หรือช่วยให้ยูเครนได้เข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต เพราะเขาไม่หวังเป็นผู้นำประเทศนานเป็น 10 ปี แต่เขาต้องการเห็นความสงบและความมั่นคงในประเทศมากกว่า เซเลนสกีระบุด้วยว่า เขาต้องการที่จะเห็นประธานาธิบดีทรัมป์ ของสหรัฐฯ เป็นหุ้นส่วนของยูเครนมากกว่าการเป็นเพียงคนกลางระหว่างยูเครนและรัสเซีย และเขาไม่ใส่ใจที่ทรัมป์บอกว่าเขาเป็นผู้นำเผด็จการ ที่ไม่ยอมจัดการเลือกตั้งในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ รัสเซียเริ่มส่งทหารเข้ารุกรานยูเครนเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2022 โดยอ้างว่าเป็นปฏิบัติการพิเศษทางทหาร เพื่อตอบโต้ที่ยูเครนหวังจะเข้าเป็นสมาชิกนาโต ซึ่งรัสเซียมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของตนเอง จนถึงขณะนี้คาดว่ามีทหารทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตไปแล้วกว่า 46,000 นาย บาดเจ็บอีกกว่า 380,000 นาย