25 ก.พ. 2568 นสพ.Los Angeles Times สื่อท้องถิ่นในเมืองลอส แองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เสนอรายงานพิเศษ Russians seek escape from sanctions, draft on Thailand’s Phuket Island. Not everyone is happy. ว่าด้วยในช่วงเวลา 3 ปีล่าสุด นับตั้งแต่รัสเซียยกกองทัพบุกยูเครน ตามด้วยมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจากกลุ่มชาติโลกตะวันตก ทำให้ชาวรัสเซียตัดสินใจเดินทางไปลี้ภัยอยู่ที่ จ.ภูเก็ต ดินแดนเกาะตากอากาศ สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมทางภาคใต้ของประเทศไทย ทั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเกณฑ์ทหาร ความอึดอัดทางการเมือง หรือหนีปัญหาเศรษฐกิจที่บ้านเกิด
ข้อมูลจากตำรวจท่องเที่ยวของภูเก็ต พบว่า ในปี 2565 รัสเซียเป็นแหล่งที่มาของนักท่องเที่ยวต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในภูเก็ต และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า เป็น 1.03 ล้านคนต่อปี สถานที่บางแห่งของเกาะ เช่น โรงเรียนนานาชาติและตัวเลือกวีซ่าระยะยาว มักดึงดูดชาวต่างชาติมาช้านาน แต่เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกทำให้ธุรกรรมทางธนาคารและการเดินทางผ่านยุโรปยากขึ้นสำหรับชาวรัสเซีย ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของภูเก็ตที่เป็นมิตรกับเงินสดและเที่ยวบินตรงจากตะวันออกกลางจึงเพิ่มความน่าดึงดูดใจให้กับภูเก็ต ซึ่ง บุญ ยงสกุล (Boon Yongsakul) รองประธานสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวอย่างติดตลกว่า ภูเก็ตดูเหมือน “ลิตเติลมอสโก”
เนื่องจากประเทศไทยต้องการนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น จึงได้ส่งเสริมให้กระแสดังกล่าวดำเนินต่อไป การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีเป้าหมายที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย 2.2 ล้านคนในปี 2568 เพิ่มขึ้นจากประมาณ 1.7 ล้านคนในปี 2567 ขณะที่เมื่อปี 2566 ทางการรัสเซียได้เปิดสถานกงสุลใน จ.ภูเก็ต เพื่อรองรับพลเมืองรัสเซียที่เพิ่มจำนวนขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว โดยบุญกล่าวว่า เมื่อผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ตระหนักว่าที่นี่ปลอดภัย ชุมชนต่างๆ ก็ใหญ่ขึ้น ซึ่งพวกเขามีโบสถ์ ธุรกิจและอาหารของตนเอง
บ็อกดัน มาร์เทียนอฟ (Bogdan Martianov) หนุ่มรัสเซียวัย 25 ปี อาชีพพนักงานด้านเทคโนโลยี ซึ่งมีพื้นเพเป็นชาวเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก กล่าวว่า ตนไม่ต้องการถูกเกณฑ์ไปรบในสงครามกับยูเครน ในตอนแรก ตนบินไปอาร์เจนตินาและขอสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง โดยอาศัยและทำงานในเมืองลา พลาตา ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงบัวโนสไอเรสไป 1 ชั่วโมงโดยรถยนต์เป็นเวลา 2 ปี
กระทั่งในเดือน พ.ย. 2568 มาร์เทียนอฟ ไม่สบายใจเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการรัดเข็มขัดภายใต้การนำของประธานาธิบดีคนใหม่ของอาร์เจนตินา ฮาเวียร์ มิเลอี (Javier Milei) จึงบินไปภูเก็ตเพื่อไปเยี่ยมเพื่อนๆ ที่หนีออกจากรัสเซียเช่นกัน หนุ่มแดนหมีขาวรายนี้ เล่าว่า จากตอนแรกที่ตั้งใจจะอยู่เพียง 2 เดือน แต่ด้วยความสะดวกสบายในชีวิตและชุมชนชาวรัสเซียที่มีอยู่เดิมทำให้ตนตัดสินใจอยู่ที่นี่อย่างน้อยจนถึงฤดูใบไม้ผลิ
ชาวรัสเซียที่เพิ่งเดินทางมาถึงจำนวนมากได้รวมตัวกันที่ฝั่งตะวันตกใกล้กับหาดบางเทา ซึ่งบุญเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์หรูหราหลายแห่ง โดยรองประธานสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ประมาณการว่า ราคาคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าตั้งแต่ปี 2563 ในขณะที่ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 50 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะความต้องการของผู้ซื้อชาวรัสเซีย
บิล บาร์เน็ตต์ (Bill Barnett) กรรมการผู้จัดการของ C9 Hotelworks ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการต้อนรับและอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต กล่าวว่า นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเริ่มเดินทางมาเยือนในจำนวนที่มากขึ้นตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้นทำให้พวกเขามีอำนาจซื้อมากขึ้น โดยสภาพอากาศที่อบอุ่นถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีจากฤดูหนาวในยุโรปตะวันออก ประเทศไทยยังช่วยให้ชาวต่างชาติสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องดีสำหรับชาวรัสเซียที่กำลังมองหาสถานที่สำหรับฝากเงินสด อสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตได้กลายเป็นธนาคารสำหรับนักลงทุนชาวรัสเซีย
แต่เรื่องราวนี้ก็เหมือนกับเหรียญสองด้าน แม้การมาของชาวรัสเซียจะกระตุ้นเศรษฐกิจของเกาะภูเก็ตที่พึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยว แต่อีกด้านหนึ่งก็จุดชนวนให้เกิดความขัดแย้งในหมู่คนในท้องถิ่นที่กังวลว่าชาวรัสเซียที่ย้ายเข้ามาจะเข้ามาปรับเปลี่ยนรูปแบบการท่องเที่ยวและชีวิตประจำวันในภูเก็ตอย่างไร ซึ่งบุญยอมรับว่า สถานการณ์นี้ดีสำหรับอสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่ใช่สำหรับชุมชนทั้งหมด
ทินกร จอมเมือง (Thinakorn Jommoung) นายกสมาคมผู้ประกอบการรถรับจ้างจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ชาวรัสเซีย เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวจีนทำมาก่อน กำลังตั้งบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวและธุรกิจของตนเอง โดยตัดคนไทยออกไป ดังนั้นแม้จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น แต่รายได้ของคนท้องถิ่นจะยังคงเท่าเดิม อาทิ การจองรถให้กับคนขับรถท้องถิ่น 25,000 คนที่ตนเป็นตัวแทนนั้นลดลงประมาณ 1 ใน 3 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 อีกทั้งยังกังวลว่าชาวรัสเซียกำลังหลบเลี่ยงกฎหมายที่จัดทำขึ้นเพื่อปกป้องการจ้างงานในท้องถิ่น เช่น กฎหมายที่ห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติเป็นไกด์นำเที่ยวหรือถือหุ้นส่วนใหญ่ในธุรกิจ
“พวกเขานำเงินเข้ามามากมาย แต่เงินไม่ได้ไปหาคนอย่างผม สุดท้ายแล้วเงินทั้งหมดจะกลับบ้านไปที่รัสเซีย จีน หรือเกาหลี ผู้ประกอบการรายย่อยกำลังหมดลมหายใจทีละรายเพราะพวกเขาหาลูกค้าไม่ได้” นายกสมาคมผู้ประกอบการรถรับจ้างจังหวัดภูเก็ต กล่าว
กฤช เทพบำรุง (Krit Thepbumrung) นายกสมาคมมัคคุเทศก์อันดามัน กล่าวว่า หากย้อนไปเมื่อ 5 ปีก่อน ชาวจีนประกอบอาชีพไกด์โดยไม่มีใบอนุญาต แต่วันนี้เป็นชาวรัสเซีย นอกจากนั้นยังได้รับรายงานเพิ่มเติมว่าชาวรัสเซียอยู่เกินวีซ่า แต่ไม่สามารถประเมินขอบเขตของปัญหาได้
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า รัฐบาลไทยจัดสรรงบประมาณให้ตำรวจท้องที่เพื่อแก้ไขปัญหาหลายอย่าง รวมถึงภาระด้านการจราจร การกำจัดขยะ และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ แต่ละเลยที่จะคำนึงถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่เกินเวลาที่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ เมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา มีการจับกุมชาวรัสเซียหลายสิบคนที่ละเมิดกฎหมายการประกอบธุรกิจ ยังมีรายงานพฤติกรรมในแง่ลบของชาวรัสเซีย เช่น มีส่วนร่วมกับอาชญากรรมประเภทชิงทรัพย์หรือฉ้อโกง ทำให้เริ่มมีข้อกังวลของผู้ที่เดินทางเข้ามาใหม่
อาจไม่น่าแปลกใจที่การอพยพของชาวรัสเซียและความขัดแย้งทางวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นตามมา ได้ก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้ในหมู่คนในท้องถิ่นจำนวนมาก ซึ่งแม้จะต้อนรับนักท่องเที่ยวเหล่านี้แต่ก็กังวลว่าจะสูญเสียงานและคุณภาพชีวิต ดังที่ กฤช กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ภูเก็ตไม่วุ่นวายขนาดนี้ ตนไม่อยากบอกว่าเราไม่ต้องการพวกเขา แต่เราต้องการนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพดี ต้องมีความสมดุล
ในปี 2564 ภูเก็ตเป็นพื้นที่แรกของไทยที่กลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้ง หลังจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ได้ทำให้การเดินทางระหว่างประเทศหยุดชะงักลง และเมื่อ 2 ปีก่อน จากการเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ เซอร์เก สโครูปา (Sergei Skorupa) ชายชาวรัสเซีย วัย 34 ปี อดีตพนักงานบริษัทขนส่งของรัฐ ตัดสินใจร่วมกับหุ้นส่วนชาวไทย เปิดบริการให้เช่ามอเตอร์ไซค์ในภูเก็ต
สโครูปา มีพื้นเพเป็นชาวกรุงมอสโก ย้ายไปประเทศไทยตั้งแต่ปี 2564 โดยหลงใหลในแสงแดดและทะเลของภูเก็ต อีกทั้งมองเห็นโอกาสทางเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เคยพบเห็นในรัสเซีย เขาตระหนักดีว่าธุรกิจที่ดำเนินการโดยชาวต่างชาติได้กลายเป็นประเด็นอ่อนไหว โดยให้แฟนสาวชาวไทยของเขาถือหุ้นส่วนใหญ่ตามกฎหมายท้องถิ่น สโครูปา กล่าวว่า ตนจ้างเฉพาะพนักงานชาวไทยเท่านั้น แม้ว่าจะทำให้เกิดความขัดแย้งในรูปแบบการทำงานของพนักงานเหล่านี้ก็ตาม เพราะตนเห็นโอกาสที่ดีกว่าในประเทศไทย และวางแผนที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป
“ในรัสเซีย เราอาศัยอยู่ในระบบของรัฐบาล แต่ที่นี่เรามีอิสระ เราสามารถพัฒนาธุรกิจของเราเองได้ ผมรู้สึกปลอดภัยที่นี่ นั่นสำคัญมาก” สโครูปา กล่าว
ขอบคุณเรื่องจาก
https://www.latimes.com/world-nation/story/2025-02-25/russians-phuket-thailand-fleeing-ukraine-war
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี