วอชิงตัน (รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีกร้อยละ 10 พร้อมกับการเก็บภาษาสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกร้อยละ 25 ในสัปดาห์หน้า พร้อมปฏิเสธที่จะให้คำมั่นว่า สหรัฐฯ จะรับประกันความมั่นคงให้ยูเครน ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศยุโรปต้องการอย่างยิ่ง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 ก.พ.ว่า เขาจะเพิ่มอัตราการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีกร้อยละ 10 ขณะเดียวกัน ก็จะจัดเก็บภาษีกับแคนาดาและเม็กซิโกในสัปดาห์หน้า โดยอ้างถึงการลักลอบขนเฟนทานิลเข้าสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้ประกาศว่าจะจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าหลายรายการจากแคนาดาและเม็กซิโก ร้อยละ 25 ในเดือนนี้ กรณีไม่หยุดยั้งผู้อพยพผิดกฎหมายและเฟนทานิล ซึ่งเป็นยาเสพติดที่อันตรายถึงชีวิต จากนั้นก็ระงับการจัดเก็บภาษีดังกล่าวหนึ่งเดือน ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันอังคารหน้านี้
หลังจากนักข่าวถามว่าเขามีแผนจะขึ้นภาษีในสัปดาห์หน้าเลยหรือไม่ ทรัมป์ก็ได้ระบุใน Truth Social สื่อออนไลน์ของตนเองในวันเดียวกันว่า จนกว่าปัญหาเรื่องสารเฟนทานิลจะหยุดลงหรือถูกจำกัดลงอย่างจริงจัง การเรียกเก็บภาษีจะเดินหน้าตามกำหนด ยืนยันวันที่ 2 เมษายน สำหรับภาษีศุลกากรตอบโต้จะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป และจีนจะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติมอีกร้อยละ 10 ในวันดังกล่าวเช่นกัน เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวมีปฏิสัมพันธ์อย่างไรกับการจัดเก็บภาษีศุลกากรก่อนหน้านี้ ที่เขาเรียกเก็บจากการนำเข้าสินค้าจากจีน เนื่องจากจีนมีส่วนเกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุปทานเฟนทานิล หรือการเจรจากับจีนดำเนินไปอย่างไร
ทั้งนี้ ภาษีเหล่านี้จะถูกปรับให้เหมาะสมกับคู่ค้าทางการค้าแต่ละรายของสหรัฐฯ โดยจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมหลังจากที่หน่วยงานของรัฐบาลเสร็จสิ้นการศึกษาที่ทรัมป์เรียกร้องเกี่ยวกับประเด็นการค้า
ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังได้พบหารือกับนายกรัฐมนตรี เคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษ ที่ทำเนียบ ในวันที่ 27 ก.พ. เรื่องการเจรจาหยุดยิงในยูเครน ในโอกาสผู้นำอังกฤษเยือนสหรัฐฯ ครั้งแรกนับตั้งแต่ทรัมป์ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคม ทรัมป์มีน้ำเสียงที่อ่อนลงเมื่อพูดถึงการเจรจาหยุดยิงยูเครน แต่เขาปฏิเสธที่จะให้คำมั่นที่มั่นคงว่า สหรัฐฯ จะรับประกันความมั่นคงให้ยูเครน ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศยุโรปต้องการอย่างยิ่งทำให้สตาร์เมอร์กลายเป็นผู้นำยุโรปคนที่ 2ต่อจากฝรั่งเศส ที่ต้องกลับบ้านมือเปล่าหลังจากประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส พยายามแล้วแต่ไม่สำเร็จ ในการโน้มน้าวให้ทรัมป์รับประกันความมั่นคงแก่ยูเครนระหว่างการพบหารือทรัมป์ในการเยือนสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ที่ 24 ก.พ.
ทรัมป์ได้ยืนยันอีกครั้งในการแถลงข่าวดังกล่าวว่า ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์เซเลนสกี ของยูเครน จะเยือนสหรัฐฯ ในวันศุกร์ที่ 28 ก.พ. และพบกับเขาที่ทำเนียบขาว เพื่อลงนามข้อตกลงแร่หายากระหว่างสหรัฐฯ กับยูเครน เซเลนสกีหวังว่าข้อตกลงแร่หายากดังกล่าว จะรวมถึงการที่สหรัฐฯ รับประกันความมั่นคงแก่ยูเครน แต่ดูเหมือนว่าข้อตกลงนี้ จะละเว้นเรื่องนี้ไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี