ลอนดอน (รอยเตอร์ส/สกายนิวส์) - รัฐมนตรีอังกฤษ ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่พอใจกรณีที่นายกรัฐมนตรี เคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษ เดินตามรอยประธานาธิบดีสหรัฐ ด้วยการตัดลดงบประมาณช่วยเหลือต่างประเทศ เพื่อเพิ่มรายจ่ายด้านกลาโหม

แอนเนลีส ด็อดส์ รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาระหว่างประเทศของอังกฤษ ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ที่ 28 ก.พ. เพื่อประท้วงกรณีที่นายกรัฐมนตรี เคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษ ตัดสินใจตัดลดงบประมาณความช่วยเหลือต่างประเทศเพื่อทุ่มงบไปกับการส่งเสริมรายจ่ายด้านกลาโหมของประเทศด็อดด์ส ระบุในจดหมายลาออกที่โพสต์บน X ว่า การลดค่าใช้จ่ายจำนวนมากจะทำให้ไม่สามารถรักษาลำดับความสำคัญด้านการพัฒนาของอังกฤษไว้ได้ซึ่งรวมถึงในฉนวนกาซา ซูดาน และยูเครน

ด็อดส์ระบุด้วยว่า ท้ายที่สุดแล้ว การตัดงบประมาณเหล่านี้จะทำให้ผู้คนที่เดือดร้อนอยู่แล้ว ต้องสูญเสียอาหารและสาธารณสุข ซึ่งจะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของสหราชอาณาจักรอย่างมาก เธอรู้ว่ารัฐบาลไม่ได้คัดค้านการพัฒนาระหว่างประเทศในเชิงอุดมการณ์ แต่ความจริงก็คือ การตัดสินใจครั้งนี้ถูกมองว่า เป็นการเดินตามรอยประธานาธิบดีทรัมป์ที่ตัดงบประมาณสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา หรือยูเอสเอด (USAID)

สตาร์เมอร์ ประกาศเมื่อวันอังคารที่ 25 ก.พ. ว่า เขาจะเพิ่มงบประมาณรายจ่ายด้านกลาโหมประจำปีเป็นร้อยละ 2.5 ของจีดีพี ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ว่า อังกฤษสามารถเสริมความมั่นคงให้กับยุโรปได้ โดยการเพิ่มงบประมาณดังกล่าวจะได้รับการจัดสรรผ่านการลดงบประมาณการพัฒนาต่างประเทศจากร้อยละ 0.5 ของจีดีพี เหลือร้อยละ 0.3

ด้านองค์กรการกุศลด้านมนุษยธรรม กล่าวว่า พวกเขาตกตะลึงและตกใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ พร้อมเตือนว่า การตัดสินใจดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่ออิทธิพลของสหราชอาณาจักร และส่งผลกระทบร้ายแรงต่อกลุ่มที่พวกเขาให้การสนับสนุนด้วย