เป็นประเด็นที่โลกจับตามอง เมื่อการเจรจาระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และ โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ที่ทำเนียบขาวจบลงด้วยวิวาทะของทั้ง 2 ฝ่าย ในช่วงที่เซเลนสกีเดินทางเยือนสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2568 ท่ามกลางกระแสข่าวว่า สหรัฐฯ ต้องการเข้าถึงแหล่ง “แร่ธาตุหายาก)” ที่มีในยูเครน และนำเรื่องนี้มาเจรจาเพื่อแลกกับการสนับสนุนยูเครนทำสงครามกับรัสเซียที่ยกทัพบุกยูเครนและกลายเป็นสงครามยืดเยื้อมากว่า 3 ปี
สำหรับแร่ธาตุหายาก หรือ Rare Earth ข้อมูลจากบทความ “การกำเนิดแร่หนัก-ธาตุหายาก” ที่เป็นเอกสารเก็บในฐานข้อมูลของกรมทรัพยากรธรณี ระบุว่า ธาตุหายาก หรือ rare earths เป็นกลุ่มโลหธาตุที่อยู่ในอนุกรมธาตุแลนทาไนด์ (lanthanide series) บางครั้งอาจเรียกว่า กลุ่มแลนทานันส์ (lanthanous) หรือ กลุ่มแลนทานอยด์ (lanthanoids) ซึ่งประกอบด้วยธาตุ 15 ธาตุ มีเลขอะตอมตั้งแต่ 57 ถึง 71 ธาตุ ทั้งหมดนี้มีตำแหน่งตามตารางธาตุจัดอยู่ในกลุ่ม III B นอกจากนี้ อิตเทรียม (Y) เลขอะตอม 39 และสแกนเดียม (Sc) เลขอะตอม 21 มักนับรวมไว้ในกลุ่มของธาตุหายากด้วย เพราะมีคุณสมบัติทางเคมีที่คล้ายคลึงมาก
กลุ่มธาตุหายากมีการแบ่งจัดจำแนกเป็นกลุ่มย่อยตามระบบที่ USGS ใช้โดยยึดหลักตามที่ International Union of Pure and Applied Chemistry (IUPAC) ได้กำหนดไว้ออกเป็น 2 กลุ่มย่อย คือ กลุ่มธาตุหายากเบา (light rare earth elements: LREE) หรือกลุ่มซีเรียม (Cerium group) และกลุ่มธาตุหายากหนัก (heavy rare earth elements: HREE) หรือกลุ่มอิตเทรียม (Yttrium Group)
โดย “กลุ่มธาตุหายากเบา” ประกอบด้วย 8 ชนิดธาตุที่มีเลขอะตอม 57 ถึง 64 ได้แก่ แลนทานัม (La) ซีเรียม (Ce) เพรซีโอดิเมียม (Pr) นีโอดิเมียม (Nd) โพรมีเทียม (Pm) ซาแมเรียม (Sm) ยูโรเพียม (Eu) และแกโดลิเนียม (Gd) ขณะที่ “กลุ่มธาตุหายากหนัก” ซึ่งประกอบด้วย 8 ชนิดธาตุที่มีเลขอะตอม 65 ถึง 71 ได้แก่ เทอร์เบียม (Tb) ดีสโพรเซียม (Dy) โฮลเมียม (Ho) เออร์เบียม (Er) ทูเลียม (Tm) อิตเทอร์เบียม (Yb) ลูทีเทียม (Lu) และอิตเทรียม (Y) ส่วนธาตุสแกนเดียม (Sc) นั้นไม่สามารถจัดเข้ากลุ่มย่อยกลุ่มใดได้ เนื่องจากลักษณะของอะตอมที่มีขนาดเล็กกว่าธาตุตัวอื่นๆ ในกลุ่ม
ข้อมูลจากศูนย์ความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STKC) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) หัวข้อ “แรร์เอิร์ธ Rare Earth คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร” ยกตัวอย่างการทำแร่ธาตุหายากไปใช้ประโยชน์ เช่น สแกนเดียม (Scandium) สำหรับอุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมัน โพรมีเทียม (Promethium) สำหรับการผลิตแบตเตอรี่พลังงานนิวเคลียร์ แลนทานัม (Lanthanum) สำหรับอุตสาหกรรมภาพยนตร์และกล้องถ่ายรูป อิตเทรียม (Yttrium) ใช้ในการผลิตโทรทัศน์และเตาอบไมโครเวฟ เพรซีโอดิเมียม (Praseodymium) ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตใยแก้วนำแสง และเครื่องยนต์ของเครื่องบิน เป็นต้น
อีกด้านหนึ่ง รายงานข่าวจากสำนักข่าว BBC ของอังกฤษ (เหตุใดทรัมป์จึงต้องการแร่ลิเทียมของยูเครน ในเมื่อสหรัฐฯ มีแหล่งแร่ลิเทียมมากกว่าเสียอีก) ยังระบุด้วยว่า ยูเครนยังมี “แร่ธาตุสำคัญ (Critical Minerals)” อย่าง “ลิเทียม (Lithium)” จำนวนมาก ซึ่งตามข้อมูลจากสำนักธรณีวิทยาของยูเครน ระบุว่า ยูเครนมีแร่ลิเทียมอยู่ประมาณ 500,000 ตัน เป็นแหล่งใหญ่ที่สุดในยุโรป ลิเทียมเป็นส่วนประกอบหลักของแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ
รายงานของ BBC กล่าวว่า ที่ผ่านมายูเครนยังไม่ได้ขุดแร่ลิเทียมขึ้นมา และนี่คือแร่ที่ผู้นำสหรัฐฯ ให้ความสนใจอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันคู่แข่งของสหรัฐฯ อย่างจีน ครองความได้เปรียบในการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียม โดยจีนอ้างว่าได้ถือครองปริมาณแร่ลิเทียมสำรองของโลกอยู่ร้อยละ 16.5 และมีนักวิเคราะห์กล่าวว่า จีนสกัดแร่ลิเทียมมากถึงร้อยละ 60 ของลิเทียมที่มีอยู่ทั้งหมดในโลก และมีความสามารถในการผลิตแบตเตอรีลิเทียมไอออนประมาณร้อยละ 75 ของโลก สหรัฐฯ จึงกังวลว่าจีนจะมีอำนาจควบคุมการจัดหาลิเทียมและแร่ธาตุสำคัญอื่นๆ ซึ่งจะทำให้สหรัฐฯ เข้าถึงแหล่งแร่เหล่านี้ไม่ได้ ท่ามกลางความต้องการลิเทียมกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
อนึ่ง ประเทศไทยก็มีการค้นพบแหล่งแร่ลิเทียมเช่นกัน ซึ่งเคยเป็นกระแสฮือฮาในช่วงเดือน ม.ค. 2567 โดยลือกันว่าพบแหล่งลิเทียมในประเทศไทย ที่แหล่งเรืองเกียรติ อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา มีปริมาณทางธรณีของทรัพยากรแร่ (Mineral Resource) ประมาณ 14.8 ล้านตันมากเป็นอันดับ 3 ของโลก เกรดลิเทียมออกไซด์เฉลี่ย 0.45% หรือมีปริมาณลิเทียมคาร์บอเนตเทียบเท่า (LCE) ประมาณ 164,500 ตัน และสามารถนำแร่ขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้ร้อยละ 25 จะนำมาผลิตเป็นแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าขนาด 50 kWh ได้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคัน
อย่างไรก็ตาม กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ได้ออกมาชี้แจงว่า คำว่า Mineral Resource มีความหมายถึงปริมาณทางธรณีของทรัพยากรแร่ ซึ่งแตกต่างจากคำว่า Lithium Resource ซึ่งหมายถึงปริมาณทรัพยากรโลหะลิเทียม ดังนั้น การนำข้อมูลปริมาณทางธรณีของทรัพยากรแร่ไปเปรียบเทียบกับปริมาณทรัพยากรโลหะลิเทียมของต่างประเทศ จึงอาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่าประเทศไทยมีปริมาณแร่ลิเทียมมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกได้
สำหรับชนิดของแร่ที่พบในประเทศไทยในขณะนี้เป็นแร่เลพิโดไลต์ (lepidolite) ที่พบในหินเพกมาไทต์ (pegmatite) และมีความสมบูรณ์ของลิเทียมหรือเกรดลิเทียมออกไซด์เฉลี่ย 0.45% แม้จะมีความสมบูรณ์ไม่สูงมาก แต่ก็ถือว่ามีความสมบูรณ์กว่าแหล่งลิเทียมหลายแห่งทั่วโลก และมีความเป็นไปได้ที่จะมีการพัฒนาเทคโนโลยีในการแต่งแร่ที่ความสมบูรณ์ดังกล่าวได้คุ้มค่า อีกทั้งแร่ลิเทียมมีความสัมพันธ์กับแหล่งแร่อื่นๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ ดีบุกและธาตุหายากอื่น ซึ่งประเทศไทยเป็นแหล่งดีบุกที่สำคัญในอดีต จึงมีความเป็นไปได้ที่จะพบแหล่งลิเทียมเพิ่มเติมหากมีการสำรวจในอนาคต
อ้างอิง
การกำเนิดแร่หนัก-ธาตุหายาก : กรมทรัพยากรธรณี
https://www.stkc.go.th/info/แรร์เอิร์ธ-rare-earth-คืออะไร-มีความสำคัญอย่างไร (แรร์เอิร์ธ Rare Earth คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร : ศูนย์ความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อว.)
https://www.bbc.com/thai/articles/c7899gv7jnzo (เหตุใดทรัมป์จึงต้องการแร่ลิเทียมของยูเครน ในเมื่อสหรัฐฯ มีแหล่งแร่ลิเทียมมากกว่าเสียอีก : BBC 28 ก.พ. 2568)
https://www.naewna.com/local/781927 ('กพร.' แจงเข้าใจคลาดเคลื่อน รับไทยไม่ได้มี 'ลิเทียม' อันดับ 3 ของโลก : แนวหน้า 19 ม.ค. 2567)
https://www.naewna.com/inter/865634 (ดีลแร่ธาตุ‘สหรัฐฯ-ยูเครน’ล่ม หลัง'ทรัมป์-เซเลนสกี' ปะทะคารมเดือดในทำเนียบขาว : แนวหน้า 1 มี.ค. 2568)
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี