วอชิงตัน (รอยเตอร์ส/ซีเอ็นเอ็น/บีบีซีนิวส์)-รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หยุดให้ข้อมูลข่าวกรองแก่ยูเครน ต่อจากการระงับความช่วยเหลือทางทหาร และกำลังหยุดทุกอย่างเกี่ยวกับยูเครน เพื่อทบทวนตรวจสอบความสัมพันธ์กับยูเครนทั้งหมดทุกด้าน ขณะที่ผู้นำยุโรปเตรียมถกเครียดเพื่อรับมือการเปลี่ยนขั้วของผู้นำสหรัฐฯ
ไมค์ วอลท์ซ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ แถลงยืนยันวันที่ 6 มี.ค. ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้หยุดให้ข้อมูลข่าวกรองแก่ยูเครนแล้ว โดยอีกทั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังหยุดและทบทวนตรวจสอบความสัมพันธ์กับยูเครนทั้งหมดในทุกๆ ด้าน โดยยังไม่ชัดเจนว่า สหรัฐฯ จะหยุดให้ข้อมูลข่าวกรองทั้งหมด หรือเพียงบางส่วนแก่ยูเครน และจะหยุดไปนานเท่าใด อย่างไรก็ตาม วอลท์ซระบุในการให้สัมภาษณ์ ฟ็อกซ นิวส์ว่า ทั้งการระงับความช่วยเหลือทางทหารและการให้ข้อมูลข่าวกรองแก่ยูเครน อาจจะยกเลิกได้ในอนาคตอันใกล้ ถ้าหากว่าการเจรจาต่างๆ สามารถเดินหน้าไปได้ และบนโต๊ะเจรจามีการหารือการใช้มาตรการเสริมสร้างความเชื่อมั่นว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ก็จะพิจารณายกเลิกการระงับความช่วยเหลือยูเครน วอลท์ซระบุว่า ขณะนี้เขากำลังหารือกับยูเครนเกี่ยวกับสถานที่และเนื้อหาสาระที่จะเจรจากัน
สหรัฐฯ เพิ่งระงับความช่วยเหลือทางทหารต่อยูเครนไปเมื่อต้นสัปดาห์นี้การตัดความช่วยเหลือด้านข่าวกรองตามมาในครั้งนี้ ยิ่งทำให้อนาคตของการที่สหรัฐฯ จะสนับสนุนยูเครนต่อไป ดูไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น ท่ามกลางความสัมพันธ์สหรัฐฯกับยูเครนที่กำลังร้าวลึก หลังประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครนวิวาทะเดือดกับประธานาธิบดีทรัมป์ออกสื่อในการพบกันที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ที่28 ก.พ. สร้างความไม่พอใจให้แก่ทรัมป์อย่างยิ่ง
ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านกลาโหมในสหรัฐฯ เตือนว่า การตัดความช่วยเหลือด้านข่าวกรองนี้ จะส่งผลกระทบต่อยูเครนได้ทันที และอาจทำให้รัสเซียเร่งรุกยึด
ดินแดนในยูเครนเพิ่มขึ้น เมื่อรู้ว่ายูเครนไม่มีข่าวกรองแล้ว หลังจากสหรัฐฯ ได้ช่วยเหลือให้ข้อมูลข่าวกรองแก่ยูเครน นับตั้งแต่สงครามในยูเครนเริ่มขึ้นในช่วงแรกๆ เมื่อต้นปี 2022 ขณะที่ยูเครนก็พึ่งพาสหรัฐฯ อย่างมากตลอดสงคราม 3 ปีที่ผ่านมาทั้งความช่วยเหลือทางทหารและข้อมูลข่าวกรอง ซึ่งได้ช่วยให้ยูเครนสามารถเข้าใจแผนยุทธศาสตร์การรบของรัสเซียล่วงหน้ารวมถึงกลยุทธ์ที่รัสเซียเตรียมที่จะใช้ด้วย อาทิ การที่สหรัฐฯ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งของทหารรัสเซีย ช่วยให้ยูเครนสามารถเล็งเป้าการใช้อาวุธกับรัสเซียได้ถูกต้อง นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ข้อมูลข่าวกรองจากสหรัฐฯ ยังช่วยให้ยูเครนสามารถปกป้องตัวเองจากการโจมตีได้ด้วย
ด้านประเทศต่างๆ ในยุโรป ยังคงถกเถียงกันว่าจะรับมือกับสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลทรัมป์ ที่ได้ปรับเปลี่ยนจุดยืนไปเป็นมิตรกับรัสเซียและเหินห่างจากพันธมิตรยุโรปได้อย่างไร โดยบรรดาผู้นำของประเทศในยุโรปมีกำหนดประชุมสุดยอดกันที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมในวันพฤหัสบดีที่ 6 มี.ค. มุ่งเน้นเรื่องความมั่นคง โดยเฉพาะการช่วยเหลือยูเครนในการป้องกันตัวเองจากรัสเซีย การเสริมสร้างศักยภาพทางการทหารในยามที่ไม่สามารถพึ่งพาสหรัฐฯ ได้อีก คาดว่าจะมีการเสนอจัดทำกลไกหรืองบประมาณการทหารเพิ่มขึ้น
ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส บอกว่า ยุโรปกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางประวัติศาสต์ ในฐานะที่มีอาวุธนิวเคลียร์ ฝรั่งเศสเปิดกว้างที่จะให้ใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อปกป้องพันธมิตร ซึ่งเป็นสิ่งที่เยอรมนีที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ ได้แสดงความต้องการเอาไว้เพื่อเป็นหลักประกันป้องปรามการโจมตีจากรัสเซีย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี