ประท้วงศาลยกเลิกหมายจับ ปธน.เกาหลีใต้

โซล – กลุ่มผู้ประท้วงทั้งฝ่ายสนับสนุนและต่อต้านประธานาธิบดี ยุน ซ็อก-ย็อล ของเกาหลีใต้ ที่ถูกพักการปฏิบัติหน้าที่  ชุมนุมกันในกรุงโซล และเมืองอึยวัง เมื่อวันศุกร์ (7 มี.ค.) หลังจากศาลแขวงกลางประจำกรุงโซลประกาศยกเลิกหมายจับของยุน โดยคำตัดสินของศาลอาจช่วยปูทางให้เขาได้รับการปล่อยตัวออกจากคุก ซึ่งเขาต้องเผชิญการพิจารณาคดีในข้อหาก่อการกบฏจากการประกาศกฎอัยการศึกเพียงช่วงสั้น ๆ ในวันที่ 3 ธันวาคมปีที่แล้ว กลุ่มผู้สนับสนุนของยุน รวมตัวกันใกล้บ้านพักของเขาในกรุงโซล และที่ศูนย์กักกันในเมืองอึยวัง ที่ซึ่งยุนถูกควบคุมตัว ขณะที่ ผู้ประท้วงต่อต้านยุนหลายพันคน ก็รวมตัวกันอยู่ใจกลางกรุงโซล เพื่อประท้วงคำตัดสินของศาลแขวงกลางกรุงโซล ซึ่งระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า คำตัดสินของศาลอยู่บนพื้นฐานของระยะเวลาของการฟ้องร้อง ซึ่งออกมาหลังจากระยะเวลาควบคุมตัวเบื้องต้นสิ้นสุดลง และได้ตั้งข้อสังเกตถึง "คำถามเกี่ยวกับความถูกต้องตามกฎหมาย" ของกระบวนการสอบสวนที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานที่แยกจากกันสองแห่ง อย่างไรก็ตาม คำตัดสินดังกล่าวไม่ได้ยกเลิกข้อกล่าวหาทางอาญาที่นำไปสู่การจับกุมประธานาธิบดียุนเมื่อวันที่ 15 มกราคม และคดีนี้แยกออกจากคดีการถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง ซึ่งยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ

ยกเลิกคำสั่งอพยพหลังฝนตกดับไฟป่า

โตเกียว – สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า หลังจากฝนตกลงมาทำให้ไฟป่าครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศในรอบกว่า 50 ปี ไม่ลุกลามต่อไป ทำให้ทางการญี่ปุ่นประกาศยกเลิกคำสั่งอพยพในบางส่วนเมื่อวันศุกร์ ภายหลังไฟป่าลุกไหม้พื้นที่ภูเขารอบเมืองโอฟูนาโตะ จังหวัดอิวาเตะ ทางภาคเหนือของประเทศเป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ มีผู้เสียชีวิต 1 คน และประชาชนอพยพมากกว่า 4,200 คน เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วประมาณ 18,125 ไร่ หรือราวครึ่งหนึ่งของย่านแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ถือเป็นไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นในรอบมากกว่า 50 ปี แซงหน้าไฟป่าบนเกาะฮอกไกโด ในปี 2518 ซึ่งเผาผลาญพื้นที่ไป 16,875 ไร่ แต่สภาพอากาศที่มีฝนตก ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันพุธ หลังจากเผชิญกับช่วงเวลาที่แห้งแล้งยาวนาน ส่งผลให้การดับไฟป่าได้ผลดีขึ้น ส่วนคำสั่งอพยพประชาชนเกือบ 1,000 คนก่อนหน้านี้ถูกยกเลิกไปแล้ว ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเผชิญกับช่วงฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้อุณหภูมิทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น

เผยสาเหตุเสียชีวิต ยีน แฮ็คแมน

ซานตาเฟ – ตำรวจและเจ้าหน้าที่สืบสวนประจำเมืองซานตาเฟ รัฐนิวเม็กซิโกของสหรัฐฯ แถลงสาเหตุการเสียชีวิตของ ยีน แฮ็คแมน นักแสดงอาวุโสระดับตำนานของวงการฮอลลีวูด ที่ถูกพบเป็นศพพร้อมกับ เบ็ตซี อารากาวะ ภรรยา เมื่อปลายเดือนที่แล้ว โดยผลชันสูตรพบว่า อารากาวะ วัย 65 ปี น่าจะเสียชีวิตในห้องน้ำของบ้านพักตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ เนื่องจากติดเชื้อไวรัสฮันตาจากกระรอกหรือสัตว์ฟันแทะ ทำให้เกิดอาการระบบทางเดินหายใจล้มเหลวฉับพลัน อีกทั้งวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ยังเป็นวันที่เชื่อว่าอารากาวะถูกพบเห็นเป็นครั้งสุดท้ายขณะออกมาซื้อของที่ร้านชำนอกบ้านในช่วงบ่าย ส่วนแฮ็คแมน วัย 95 ปี เสียชีวิตในอีกห้องหนึ่งในอีกราว 7-10 วันถัดมา จากอาการหัวใจวาย รวมถึงอาการแทรกซ้อนจากโรคอัลไซเมอร์ระยะสุดท้าย ทำให้เขาไม่สามารถแจ้งการเสียชีวิตของภรรยาต่อบุคคลภายนอกได้ พร้อมระบุว่าการเสียชีวิตของทั้งคู่เกิดจากสาเหตุธรรมชาติ