ดามัสกัส (รอยเตอร์ส/อัล-จาซีรา/บีบีซีนิวส์)-พลเรือนมากกว่า 800 คน เสียชีวิตจากการปะทะกันระหว่างกองกำลังของรัฐบาลรักษาการซีเรียและนักรบที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ที่ถูกโค่นอำนาจ 3 เดือนก่อน ด้านประธานาธิบดีรักษาการลั่น จะนำตัวผู้กระทำความผิดสังหารทั้งพลเรือนและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงมาลงโทษ

กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนในซีเรียเปิดเผยว่า เหตุการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 6 มี.ค. ในจังหวัดลาตาเกีย แถบชายฝั่งตะวันออกที่เป็นฐานที่มั่นของชนกลุ่มน้อย อะลาไวต์ ผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดี อัล-อัสซาด ที่ลี้ภัยไปรัสเซียตั้งแต่ถูกกลุ่มกบฏบุกโค่นอำนาจช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1,018 ศพ ในจำนวนนี้เป็นพลเรือน 745 ศพ มีผู้หญิงและเด็กรวมอยู่ด้วยจำนวนมาก ขณะที่กองกำลังรักษาความมั่นคงของรัฐบาลสูญเสียกำลังพล 125 นาย ส่วนกลุ่มนักรบที่จงรักภักดีต่ออดีตประธานาธิบดีอัล-อัสซาด ถูกสังหาร 148 ศพ ถือเป็นเหตุรุนแรงที่เลวร้ายที่สุดในซีเรีย นับตั้งแต่สิ้นสุดยุคอัล-อัสซาด

ทำเนียบประธานาธิบดีรักษาการอาเหม็ด ชารา แถลงว่ากำลังตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาสอบสวนเหตุปะทะและการสูญเสียชีวิตพลเรือนจากฝีมือของทั้งสองฝ่าย แหล่งข่าวกองกำลังฝ่ายความมั่นคงของซีเรีย กล่าวว่า สถานการณ์ความรุนแรงจากการปะทะได้ลดลงในหลายเมืองของจังหวัดลาตาเกียและบานิยาส กองกำลังฝ่ายความมั่นคง ตรึงกำลังค้นหาในพื้นที่แถบหุบเขาที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่สนับสนุน อัล-อัสซาด หลบซ่อนตัวอยู่ประมาณ 5,000 คน พร้อมเสริมกำลังทหารในเมืองท่าลาตาเกีย และเมืองจาเบลห์ รวมทั้งปิดถนนหลายสายเพื่อควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ โดยมีรายงานว่าเมื่อวันเสาร์ที่ 8 มี.ค. กลุ่มติดอาวุธที่หนุน อัล-อัสซาด ได้ก่อเหตุโจมตีโรงพยาบาลหลายแห่ง รวมทั้งโรงพยาบาลแห่งชาติในจังหวัดลาตาเกีย ขณะที่มีพลเรือนจำนวนมากต้องตกอยู่ในการสู้รบทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ แม้ว่าขณะนี้ ทางการจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ธุรกิจ ร้านค้าต่างๆ เริ่มเปิดบริการได้อีกครั้ง แต่ชาวบ้านยังวิตกว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงตามมาอีกเพื่อแก้แค้น

ส่วนประธานาธิบดีรักษาการอาเหม็ด ชารา บอกว่า จะนำตัวทั้งผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์ และกองกำลังฝ่ายต่อต้านที่สังหารเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของรัฐมาดำเนินคดี พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทั้งยังกล่าวหาว่ามีมหาอำนาจต่างชาติที่เขาไม่ได้เอ่ยชื่อพยายามปลุกปั่นสถานการณ์

ขณะที่ ฟอลเคอร์ เทิร์ค ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติแถลงเรียกร้องให้คณะผู้นำชุดใหม่ของซีเรีย ดำเนินการโดยเร่งด่วนเพื่อปกป้องชาวซีเรีย เพราะมีรายงานเกี่ยวกับการสังหารคนต่างนิกายจากฝีมือกลุ่มผู้ก่อเหตุที่ไม่สามารถระบุได้ สมาชิกกองกำลังฝ่ายความมั่นคงของซีเรีย และสมาชิกกองกำลังที่เชื่อมโยงกับอดีตรัฐบาล อัล-อัสซาด