14 มี.ค. 2568 สำนักข่าว Radio Free Asia (RFA) ซึ่งเป็นองค์กรนานาชาติตั้งขึ้นเพื่อต้องการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกรัฐบาลประเทศต่างๆ ในเอเชียปิดกั้นไม่ให้ประชาชนเข้าถึง รายงานข่าว European Parliament resolution condemns deporting 40 Uyghurs from Thailand to China ระบุว่า ที่ประชุมรัฐสภายุโรป เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2568 ลงมติประณามไทย กรณีส่งชาวอุยกูร์ 40 คน ที่อยู่ในการควบคุมตัวของศูนย์กักกันคนเข้าเมืองในกรุงเทพฯ กลับไปประเทศจีน เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2568 ที่ผ่านมา
ชาวอุยกูร์ดังกล่าวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชาวอุยกูร์ที่หลบหนีออกจากประเทศจีน เข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี 2557 และถูกควบคุมตัวตั้งแต่นั้น ซึ่งมติของรัฐสภายุโรป ชี้ว่า ชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับจีน มีความเสี่ยงที่จะถูกกักขังโดยพลการ ทรมาน และละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และระบุว่ามีประเทศอื่นๆ ได้เสนอรับตัวผู้ลี้ภัยเหล่านี้
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการจีนและไทยเผยแพร่คลิปวิดีโอของชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับจีน โดยอ้างว่าพวกเขาได้กลับไปอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุขและไม่ถูกลงโทษ แต่แทบไม่มีทางใดที่จะยืนยันสถานะของพวกเขาได้ เนื่องจากไม่สามารถเข้าถึงคนเหล่านี้จากต่างประเทศได้ จากคำบอกเล่าของชาวอุยกูร์ที่เคยพยายามหลบหนีออกจากจีนในอดีต มีแนวโน้มสูงมากที่คนเหล่านี้จะถูกลงโทษ
RFA ได้รับคำยืนยันจากตำรวจเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ชาวอุยกูร์ 2 ราย คือ เมเมต อาวุต (Memet Awut) และ ทูร์ดี อับลา (Turdi Abla) เดินทางจากอักซู ทางตะวันตกของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ไปยังมณฑลหยุนนาน ทางตอนใต้ของจีน ซึ่งอยู่ติดกับเมียนมา เวียดนามและลาว ในปี 2557 โดยมีแผนที่จะหลบหนีออกจากประเทศ แต่พวกเขาได้เดินทางกลับมาหลังจากตระหนักได้ว่าการทำเช่นนั้นจะทำให้ชีวิตของพวกเขาตกอยู่ในอันตราย จึงได้ละทิ้งแผนดังกล่าวและเดินทางกลับซินเจียง พบว่าถูกจับกุมและถูกตัดสินจำคุก 9 ปี
ตำรวจอักซูระบุว่า ทั้ง 2 คนอยู่ในบรรดาชาวอุยกูร์ 8 คนที่ถูกจับกุมในขณะนั้น เนื่องจากพยายามหลบหนี ซึ่งจริงๆ แล้ว ยังมีอีก 6 คนที่ถูกจับขณะพยายามข้ามพรมแดน แต่อาวุตและอับลาไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มนี้ ไม่เคยข้ามพรมแดนมาก่อน และเดินทางกลับซินเจียงด้วยตนเอง ตำรวจเล่าว่าพวกเขาถูกจับกุมหลังจากกลับมาประมาณ 8 เดือน แล้วถูกกักขังในศูนย์กักขังเป็นเวลา 22 วัน ก่อนถูกส่งตัวไปยังเมืองอุรุมชี ในคำพิพากษาระบุว่าเป็นเพราะพวกเขาไปยูนนาน พวกเขากลับมาจากยูนนานเอง และได้ระบุว่าพวกเขาไม่สามารถหาทางออกได้หลังจากย้ายไปยูนนานและกลับมา วึ่งพวกเขาพยายามหลบหนี
สมาชิกคณะกรรมการประจำชุมชนในบ้านเกิดของพวกเขาคนหนึ่งกล่าวว่า โทษของอาวุตและอับลาควรจะสิ้นสุดลงเมื่อปี 2567 แต่พวกเขายังคงถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำในเมืองอุรุมชี ชะตากรรมของพวกเขาบ่งชี้ว่าการปฏิบัติต่อผู้ถูกเนรเทศ 40 คนในปัจจุบันอาจไม่สดใสอย่างที่สื่อของจีนรายงาน โดยโฆษกสถานทูตจีนในกรุงเทพฯ กล่าวว่า หลังจากได้กลับไปอยู่กับครอบครัวแล้ว ชาวอุยกูร์ที่ถูกเนรเทศทั้ง 40 คนจะเข้ารับการฝึกอบรมทักษะอาชีพ
รัฐบาลจีนได้ควบคุมตัวชาวอุยกูร์เกือบ 2 ล้านคนไว้ในค่ายกักกันในซินเจียง ซึ่งพวกเขาถูกบังคับใช้แรงงาน โดยทางการจีนอ้างว่าค่ายกักกันเหล่านี้เป็นศูนย์กลางอาชีพที่ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ โดยสมัครใจ ซึ่งแม้ว่ามติของสหภาพยุโรปที่ประณามการส่งตัวกลับจะไม่ได้กล่าวถึงค่ายกักกันโดยตรง แต่ได้เรียกร้องให้จีนเคารพสิทธิของผู้ที่ถูกส่งตัวกลับ และให้ความโปร่งใสเกี่ยวกับที่อยู่ของพวกเขา
“มติยังยอมรับด้วยว่าประเทศไทยเป็นหุ้นส่วนสำคัญของสหภาพยุโรป และสนับสนุนให้ไทยเสริมสร้างสถาบันต่างๆ ให้สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตยและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ” รายงานข่าวกล่าวทิ้งท้าย
ขอบคุณเรื่องจาก
https://www.rfa.org/english/uyghur/2025/03/14/uyghur-thailand-repatriation-eu-resolution/
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี