รัฐสภายุโรปลงมติประณามไทย
ส่ง‘อุยกูร์’กลับจีน
หวั่นถูกละเมิดสิทธิ์อย่างร้ายแรง
‘ทวี’เชื่อบัวแก้วมีแผนรับมือ
‘พิชัย’ชี้ไม่กระทบเจรจาFTA
“รัฐสภายุโรป” ประณามไทยส่ง “40 อุยกูร์” กลับจีน หวั่นได้รับอันตราย เสี่ยงถูกกักขัง ทรมาน ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง พร้อมอ้างมีประเทศอื่นๆ ได้เสนอรับตัวไปดูแล ด้าน “หน.พรรคปชน.” มองสภายุโรป ชี้ช่องใช้ FTA กดดันไทย หลังส่งอุยกูร์กลับประเทศ สะท้อนรัฐบาลไม่ปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน แนะถ้าจะดำเนินนโยบายต่างประเทศให้ยึดหลักสากล
“ทวี” เชื่อ“บัวแก้ว”มีแผนรับมือแล้ว ยืนยันทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย “พิชัย”ระบุ ไม่กระทบเจรจาการค้า มั่นใจปิดดีล FTA ไทย-อียู ได้ปลายปีนี้ ขณะที่ “อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ”เผย ไม่มีสัญญาณที่จะทำให้การเจรจาหยุดชะงัก
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 สำนักข่าว Radio Free Asia (RFA) ซึ่งเป็นองค์กรนานาชาติตั้งขึ้นเพื่อต้องการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกรัฐบาลประเทศต่างๆ ในเอเชียปิดกั้นไม่ให้ประชาชนเข้าถึง รายงานข่าว European Parliament resolution condemns deporting 40 Uyghurs from Thailand to China ระบุว่า ที่ประชุมรัฐสภายุโรป เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2568 ลงมติประณามไทย กรณีส่งชาวอุยกูร์ 40 คน ที่อยู่ในการควบคุมตัวของศูนย์กักกันคนเข้าเมืองในกรุงเทพฯ กลับไปประเทศจีน เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2568 ที่ผ่านมา
เชื่อชาวอุยกูร์เสี่ยงถูกกักขัง-ทรมาน
ชาวอุยกูร์ดังกล่าวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชาวอุยกูร์ที่หลบหนีออกจากประเทศจีน เข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี 2557 และถูกควบคุมตัวตั้งแต่นั้น ซึ่งมติของรัฐสภายุโรป ชี้ว่า ชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับจีน มีความเสี่ยงที่จะถูกกักขังโดยพลการ ทรมาน และละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และระบุว่ามีประเทศอื่นๆ ได้เสนอรับตัวผู้ลี้ภัยเหล่านี้
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการจีนและไทยเผยแพร่คลิปวิดีโอของชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับจีน โดยอ้างว่าพวกเขาได้กลับไปอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุขและไม่ถูกลงโทษ แต่แทบไม่มีทางใดที่จะยืนยันสถานะของพวกเขาได้ เนื่องจากไม่สามารถเข้าถึงคนเหล่านี้จากต่างประเทศได้ จากคำบอกเล่าของชาวอุยกูร์ที่เคยพยายามหลบหนีออกจากจีนในอดีต มีแนวโน้มสูงมากที่คนเหล่านี้จะถูกลงโทษ
จี้ยึดมาตรฐานสิทธิมนุษยชน
สำนักข่าว RFA รายงานว่า รัฐบาลจีนได้ควบคุมตัวชาวอุยกูร์เกือบ 2 ล้านคนไว้ในค่ายกักกันในซินเจียง ซึ่งพวกเขาถูกบังคับใช้แรงงาน โดยทางการจีนอ้างว่าค่ายกักกันเหล่านี้เป็นศูนย์กลางอาชีพที่ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ โดยสมัครใจ ซึ่งแม้ว่ามติของสหภาพยุโรปที่ประณามการส่งตัวกลับจะไม่ได้กล่าวถึงค่ายกักกันโดยตรง แต่ได้เรียกร้องให้จีนเคารพสิทธิของผู้ที่ถูกส่งตัวกลับ และให้ความโปร่งใสเกี่ยวกับที่อยู่ของพวกเขา
“มติของรัฐสภายุโรปยังยอมรับด้วยว่าประเทศไทยเป็นหุ้นส่วนสำคัญของสหภาพยุโรป และสนับสนุนให้ไทยเสริมสร้างสถาบันต่างๆ ให้สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตยและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ” รายงานข่าวกล่าวทิ้งท้าย
‘เท้ง’มองสภายุโรปใช้FTAกดดันไทย
ที่ จ.เชียงราย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีสภายุโรป เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรป กดดันให้ใช้การเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กดดันให้ไทยยุติส่งชาวอุยกูรณ์กลับประเทศ ว่า ไม่เฉพาะเวที FTA อย่างเดียว แต่อีกเวทีที่รัฐบาลพยายามผลักดันจะเข้าร่วม อย่างองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ซึ่งทั้ง FTA และ OECD ก็มีกรอบมาตรฐานว่า การจะทำการค้าขายกับประเทศใดได้ ไทยจะต้องมีหลักปฏิบัติตามหลักการสิทธิมนุษยชนสากล โดยการส่งชาวอุยกูร์กลับจีน ไทยก็ถูกประนามจากหลายประเทศ รวมถึงกฎหมายที่ยังมีปัญหาในประเทศอยู่ เชื่อว่าสิ่งที่มีการแสดงออก ได้สะท้อนให้เห็นว่า กฎหมายของไทยบางเรื่อง และการปฏิบัติของรัฐบาลไทยในหลายกรณี ก็ไม่ได้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน
ดึงเข้าประเด็นแก้ ม.112
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะฝ่ายค้านจะเสนอแนะอย่างไร โดยเฉพาะเมื่อมีการระบุถึงกฎหมาย ม.112 ยังมีปัญหาอยู่ นายณัฐพงษ์ ระบุว่า พรรคประชาชนยืนยันมาโดยตลอดตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ว่า กฎหมายใดที่มีปัญหา ก็จำเป็นที่จะต้องแก้ แต่กระบวนการที่จะแก้ไขอย่างไรก็เป็นกระบวนการที่จะต้องปรับปรุงในอนาคต เพื่อให้สอดคล้องกับผลวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หากถามตนเองในวันนี้ ส่วนตัว และพรรคประชาชนเห็นด้วยอยู่แล้วว่า กฎหมาย ม.112 ยังมีปัญหาอยู่ ซึ่งอียูก็ออกมาแสดงท่าทีความเป็นห่วงว่า กฎหมายฉบับนี้ยังมีปัญหา ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องหาทางออกในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
แนะรัฐบาลให้ยึดหลักสากล
เมื่อถามต่อว่า รัฐบาลอาจอ้างได้ว่า ต้องบาลานซ์ระหว่างทั้ง 2 ฝั่งนั้น นายณัฐพงษ์ มองว่า เรื่องภูมิรัฐศาสตร์โลก สงครามทางการค้า คิดว่าไทยจำเป็นต้องยึดหลักเอาไว้ เพราะตราบใดที่เลือกจะดำเนินนโยบายต่างประเทศ การเข้าข้างฝ่สยใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ว่าจะจีน หรือ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นคู่ค้าของไทยทั้งคู่ ก็จะหนีไม่พ้นการถูกวิพากษณ์วิจารณ์จากฝ่ายหนึ่ง แต่หากดำเนินนโยบายอย่างหนึ่งอย่างใด ของประเทศโดยมีหลัก เช่น การยึดหลักสิทธิมนุษยชนสากล เพราะฉะนั้นการดำเนินการใดแล้วอาจขัดกับผลประโยชน์ประเทศใดประเทศหนึ่ง ก็จะไม่สามารถว่าไทยได้ เนื่องจากไทยยึดหลักที่สากลให้การยอมรับ
“ทวี”เชื่อ“บัวแก้ว”มีแผนรับมือแล้ว
ที่รัฐสภา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่สภายุโรป EU โหวตท่วมท้น ประณามไทยส่งอุยกูร์กลับจีน และเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรปใช้การเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี หรือ FTA กดดันประเทศไทยว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ยืนยันว่าทุกอย่างดำเนินการไปตามกฎหมาย ซึ่งทางรัฐบาล ต้องมีการชี้แจง โดยเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ ตนเชื่อว่ากระทรวงการต่างประเทศได้เตรียมการรับมือเรื่องนี้แล้ว และน่าจะพยายามชี้แจงให้กับนานาชาติเข้าใจ
เมื่อถามว่า น่าจะกระทบกับการเจรจาด้านการค้าด้วย พ.ต.อ.ทวี ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยระบุเพียงสั้นๆว่า “ต้องไปทำงานต่อ”
“พิชัย”มั่นใจไม่กระทบเจรจาการค้า
ทางด้าน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กรณีที่รัฐสภายุโรป กดดันให้คณะกรรมาธิการยุโรปนำประเด็นไทยส่งกลับอุยกูร์ มาใช้ต่อรองการเจรจา FTA ไทย-อียู นั้น ยืนยันว่าไม่กระทบ ซึ่งตนได้พูดคุยกับ นายมารอส เซฟโควิช กรรมาธิการยุโรปด้านการค้า ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร และความโปร่งใส ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยดี การทำการค้า การเจรจาการค้ายังดำเนินต่อ ในส่วนการเจรจากำลังลงรายละเอียด มั่นใจว่าเจรจาจะเสร็จ ได้ภายในวันที่ 25 ธ.ค.นี้
กรมเจรจาการค้ายันเดินหน้าคุยต่อ
น.ส.โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในชั้นนี้ ยังเดินหน้าเจรจาต่อไปในรอบที่ 5 ฝ่าย EU เป็นเจ้าภาพวันที่ 31 มี.ค.-4 เม.ย. น่าจะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกับฝ่ายอียูเกี่ยวกับมตินี้ด้วย ซึ่งการที่รัฐสภายุโรปมีมติแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่เขาจะต้องทำตามขั้นตอนของสภายุโรป ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณว่าจะมีปัญหา หรือ ทำให้การเจรจาล่าช้าออกไป ทั้งนี้ ประเมินว่า การเจรจา FTA ไทย-อียู ไม่น่าจะชะลออกไป น่าจะมีการเจรจาไปเรื่อยๆ เนื่องประเด็นที่ทางรัฐสภายุโรปมีมติออกมาน่าจะเกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมือง ความมั่นคง มากกว่าด้านเศรษฐกิจ เรายังคงตั้งเป้าเจรจาให้เสร็จโดยเร็ว ซึ่งในประเด็นต่างๆ ทางกระทรวงพาณิชย์ จะประสานใกล้ชิดกับกระทรวงการต่างประเทศ ขณะนี้คงต้องติดตามความเคลื่อนไหวต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี