16 มี.ค. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Voice of America staff put on leave, Trump ally says agency 'not salvageable' อ้างการเปิดเผยของ ไมเคิล อับราโมวิทซ์ ๖Michael Abramowitz) ผู้อำนวยการสำนักข่าว Voice of America (VOA) ซึ่งเผยแพร่เป็นภาษาต่างๆ ถึง 50 ภาษา ระบุว่า พนักงานของ VOA เกือบ 1,300 คน ทั้งผู้สื่อข่าว โปรดิวเซอร์และผู้ช่วย ถูกสั่งพักงานเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2568 ซึ่งตนรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่เป็นครั้งแรกในรอบ 83 ปี ที่สำนักข่าวซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังนี้ต้องถูกทำให้เงียบเสียงลง ทั้งที่สถานีดังกล่าวมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้เพื่อเสรีภาพและประชาธิปไตยทั่วโลก
การสั่งพักงานพนักงานของ VOA เกิดขึ้นหลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่งยุบบริษัทแม่ของสื่อที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลแห่งนี้ คือ สำนักงานสื่อโลกของสหรัฐฯ (USAGM) และหน่วยงานของรัฐบาลกลางอีก 6 แห่ง โดยนอกจาก VOA แล้ว การยุบ USAGM ยังกระทบต่อสำนักข่าวอื่นๆ เช่น Radio Free Europe/Radio Liberty ซึ่งออกอากาศไปยังประเทศต่างๆ ในยุโรปตะวันออก รวมทั้งรัสเซียและยูเครน รวมถึง Radio Free Asia ซึ่งออกอากาศไปยังจีนและเกาหลีเหนือด้วย เพราะจะถูกตัดงบประมาณไปโดยปริยายเช่นกัน
VOA นั้นก่อตั้งขึ้นในปี 2485 เพื่อทำหน้าที่ตอบโต้โฆษณาชวนเชื่อของพรรคนาซีที่ปกครองเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กระทั่งปัจจุบันสำนักข่าวนี้เข้าถึงผู้คนได้ 360 ล้านคนต่อสัปดาห์ ขณะที่ในฐานะกลุ่ม USAGM มีการจ้างพนักงานประมาณ 3,500 คน โดยตามรายงานล่าสุดที่ส่งถึงรัฐสภา พบว่า ในปี 2567 มีงบประมาณ 886 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 3 หมื่นล้านบาท
ในวันที่ 16 มี.ค. 2568 วิลเลียม กัลโล (William Gallo) หัวหน้าสำนักงาน VOA ประจำเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ตนถูกปิดกั้นไม่ให้เข้าถึงระบบและบัญชีของบริษัททั้งหมด ซึ่งสิ่งเดียวที่ตนอยากทำมาโดยตลอดคือพูดตรงๆ และบอกความจริง ไม่ว่าตนจะรายงานข่าวรัฐบาลใดก็ตาม หากสิ่งนั้นเป็นภัยคุกคามต่อใคร ก็ปล่อยให้เป็นไป
แต่อีกด้านหนึ่ง คารี เลค (Kari Lake) อดีตผู้ประกาศข่าวและผู้ภักดีต่อทรัมป์ซึ่งได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้อำนวยการของ VOA และอ้างถึงตนเองว่าเป็นที่ปรึกษาอาวุโสของ USAGM ได้ออกแถลงการณ์โดยกล่าวถึง USAGM ว่าเป็นองค์กรที่เน่าเฟะและแบกรับภาระอันใหญ่หลวงของผู้เสียภาษีชาวอเมริกัน และองค์กรนี้ไม่สามารถกอบกู้ได้ ดังนั้นตนจะลดขนาดองค์กรให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ภายใต้กฎหมายฉบับนี้
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ในเว็บไซต์ของ Radio Free Europe/Radio Liberty ระบุว่า รัฐบาลรัสเซียประกาศว่าองค์กรนี้เป็นองค์กรที่ไม่พึงประสงค์ และเตือนผู้อ่านในรัสเซียและยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครองว่าอาจถูกปรับหรือจำคุก หากกดไลค์หรือแชร์เนื้อหาขององค์กร ขณะที่ ยาน ลิปาฟสกี (Jan Lipavsky) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐเช็ก โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า Radio Free Europe เป็นประภาคารสำหรับประชาชนภายใต้การปกครองแบบเผด็จการ ตั้งแต่เบลารุสไปจนถึงอิหร่าน ตั้งแต่รัสเซียไปจนถึงอัฟกานิสถาน RFE และ VOA เป็นแหล่งข่าวฟรีเพียงไม่กี่แห่งสำหรับผู้ที่ใช้ชีวิตโดยปราศจากอิสรภาพ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวตามมาหลังจากที่ทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2568 โดยสั่งให้ USAGM และหน่วยงานที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักอีก 6 แห่ง ลดการปฏิบัติงานลงให้เหลือน้อยที่สุดตามที่กฎหมายกำหนด โดยระบุว่าจำเป็นต้องลดขนาดของภาครัฐ ขณะที่ ไมค์ บัลซาโม (Mike Balsamo) ประธานสโมสรนักข่าวแห่งชาติในกรุงวอชิงตันดีซี ออกแถลงการณ์ว่า การตัดงบประมาณของ VOA เป็นการบ่อนทำลายความมุ่งมั่นของอเมริกาในการสร้างสื่อที่เสรีและเป็นอิสระ ซึ่งหลายทศวรรษที่ผ่านมา Voice of America ได้นำเสนอข่าวสารที่เป็นอิสระและอิงตามข้อเท็จจริงแก่ผู้ชมทั่วโลก โดยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีเสรีภาพสื่อ
องค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน (RSF) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงปารีสของฝรั่งเศส ก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การเคลื่อนไหวดังกล่าวเช่นกัน โดยกล่าวว่า เป็นการคุกคามเสรีภาพสื่อทั่วโลก และขัดต่อประวัติศาสตร์ 80 ปีของอเมริกาในการสนับสนุนการไหลเวียนของข้อมูลอย่างเสรี เช่นเดียวกับ เบย์ ฟาง (Bay Fang) ประธานของ Radio Free Asia (RFA) กล่าวว่าการยกเลิกเงินทุนดังกล่าวเป็นรางวัลสำหรับเผด็จการและผู้กดขี่ รวมถึงพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการปล่อยให้อิทธิพลของพวกเขาไม่ถูกตรวจสอบ
รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันบางคนกล่าวหาว่า VOA และสื่อที่ได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐอื่นๆ มีอคติต่อกลุ่มอนุรักษ์นิยม และเรียกร้องให้ปิดสื่อเหล่านี้ลง อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของมหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยี อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ที่คุมหน่วยงานกำกับดูแลประสิทธิภาพภาครัฐ (DOGE) ซึ่งต้องการลดขนาดภาครัฐลง จนถึงขณะนี้ DOGE ทำให้บุคลากรภาครัฐฝ่ายพลเรือนถูกเลิกจ้างไปแล้วกว่า 1 แสนคน จากทั้งหมด 2.3 ล้านคน รวมถึงระงับความช่วยเหลือต่างประเทศ และยกเลิกโครงการและสัญญาหลายพันฉบับด้วย
นอกเหนือจาก USAGM แล้ว คำสั่งของทรัมป์ยังกำหนดเป้าหมายไปที่ Federal Mediation and Conciliation Service, Woodrow Wilson International Center for Scholars, Institute of Museum and Library Services, U.S. Interagency Council on Homelessness, Community Development Financial Institutions Fund และ Minority Business Development Agency สำหรับการตัดงบประมาณที่จะจำกัดให้เหลือเพียงการมีอยู่และการทำงานขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด
ในแถลงการณ์ ทำเนียบขาวกล่าวว่าคำสั่งฝ่ายบริหารของเขาจะทำให้ผู้เสียภาษีไม่ต้องรับผิดต่อการโฆษณาชวนเชื่อสุดโต่งอีกต่อไป ก่อนจะแสดงรายการคำวิจารณ์ต่างๆ ที่มีต่อ VOA รวมถึงข้อกล่าวหาเรื่องอคติไปทางฝ่ายซ้าย
ขอบคุณเรื่องจาก
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี