วอชิงตัน/มอสโก/เคียฟ (รอยเตอร์ส/บีบีซีนิวส์) - การหารือกันทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ และรัสเซีย เกี่ยวกับการยุติสงครามในยูเครน ได้ข้อสรุป รัสเซียตกลงยุติโจมตีโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานในยูเครน 30 วัน ของสหรัฐฯ แต่รัสเซียรับยังไม่พร้อมหยุดยิงอย่างสิ้นเชิง จนกว่าจะมั่นใจว่ายูเครนจะไม่กลับมาเป็นภัยคุกคาม

ทำเนียบขาวเผยในแถลงการณ์ว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ตกลงร่วมกันระหว่างการหารือกันทางโทรศัพท์เมื่อวันอังคารที่ 18 มี.ค. ว่าสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนนั้น จำเป็นต้องยุติลงด้วยสันติภาพที่ยั่งยืนและการเจรจาเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าวจะเริ่มต้นขึ้นทันที ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องต้องกันว่า การเคลื่อนไหวสู่สันติภาพจะเริ่มต้นด้วยการหยุดยิงด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งการเจรจาทางเทคนิคเกี่ยวกับการปฏิบัติตามการหยุดยิงทางทะเลในทะเลดำ การหยุดยิงเต็มรูปแบบ และสันติภาพถาวร การเจรจาเหล่านี้จะเริ่มขึ้นทันทีในตะวันออกกลาง

ขณะที่ทรัมป์ แถลงว่า การคุยกันทางโทรศัพท์ของเขากับปูตินเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และดีมาก พวกเขาหารือประเด็นต่างๆ มากมายเกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพสำหรับยูเครนนานถึง 90 นาที ก่อนเห็นพ้องเรื่องหยุดยิงโครงสร้างพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานทันที และจะทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อให้เกิดการหยุดยิงโดยสมบูรณ์ เพื่อให้สงครามอันเลวร้ายระหว่างรัสเซีย
กับยูเครนยุติลง

ด้านโฆษกด้านทำเนียบเครมลินของรัสเซีย แถลงว่า ประธานาธิบดีปูตินตกลงยอมรับข้อเสนอของประธานาธิบดีทรัมป์ให้รัสเซียและยูเครนต่างหยุดโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของอีกฝ่ายเป็นเวลา 30 วัน และให้ออกคำสั่งที่เกี่ยวข้องไปยังกองทัพรัสเซียด้วย ซึ่งผู้นำรัสเซียเน้นย้ำว่า การแก้ไขความขัดแย้งจะต้องครอบคลุม ยั่งยืน และยาวนาน โดยต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของรัสเซียเองและสาเหตุหลักของสงคราม รวมถึงติดตามตรวจสอบการหยุดยิงดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้ยูเครนใช้ช่วงเวลาในการหยุดยิงดังกล่าวระดมทหารเพิ่มเติมและติดอาวุธให้ตนเอง อีกทั้งต้องให้แน่ใจว่า ต่างชาติจะต้องยุติการช่วยเหลือด้านการทหารและข้อมูลข่าวกรองกับยูเครนเสียก่อน

ในส่วนของประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน แถลงว่า ยูเครนจะสนับสนุนข้อเสนอของสหรัฐฯ ให้หยุดการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของรัสเซีย และเขาหวังที่จะหารือกับประธานาธิบดีทรัมป์ เกี่ยวกับการหารือทางโทรศัพท์ของทรัมป์กับปูตินต่อไป แต่โดยส่วนตัวแล้ว เขายังเชื่อว่ารัสเซียยังไม่พร้อมที่จะยุติสงครามอย่างจริงจัง เห็นได้จากปูตินได้ปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงแล้วยังได้ระดมโจมตียูเครนขณะที่เจรจากับสหรัฐไปด้วย ซึ่งมีโรงพยาบาลและโรงไฟฟ้าเป็นเป้าหมาย

ทั้งนี้ โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนตกเป็นเป้าโจมตีครั้งใหญ่ ตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากทำสงครามในปี 2565 ส่งผลให้ไฟฟ้าดับและผู้คนหลายล้านต้องเผชิญกับสภาพอากาศหนาวเย็น

บรรดานักวิเคราะห์เห็นว่า ทรัมป์ได้ผ่อนปรนจุดยืนลงไปในการเจรจากับปูตินจากที่กดดันให้หยุดยิงอย่างครอบคลุมทั้งทางบก อากาศและทะเล และการที่ให้ยุติการโจมตีเพียงแต่พลังงานนั้นรัสเซียน่าจะได้ประโยชน์มากกว่า เพราะในช่วง 3 ปีของสงครามรัสเซียได้โจมตีทำลายโครงข่ายระบบไฟฟ้าของยูเครนไปแล้วกว่าร้อยละ 80 จนปัจจุบัน ยูเครนเพิ่งตอบโต้กับพุ่งเป้าแหล่งน้ำมันและก๊าซของรัสเซียบ้าง นอกจากนี้ รัสเซียยังยืนยันว่า ข้อตกลงใดๆที่จะเกิดขึ้นต้องให้ต่างชาติยุติความช่วยเหลือยูเครน รัสเซียได้ครอบครองดินแดนที่ยึดมาจากยูเครนต่อไป และชาติตะวันตกต้องยุติมาตรการลงโทษรัสเซียด้วย