21 มี.ค. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Trump officials propose plan revamping US foreign aid, memo says โดยอ้างว่า ผู้สื่อข่าวได้เห็น “บันทึกภายใน (Memo)” ที่เสนอต่อรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ซึ่งนำโดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) เพื่อปฏิรูปนโยบายความช่วยเหลือที่สหรัฐฯ มีต่อประเทศต่างๆ ในช่วงที่ทรัมป์สั่งระงับความช่วยเหลือต่างประเทศไว้เป็นเวลา 90 วัน และมอบหมายให้ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) มหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยี รับผิดชอบหน่วยงานกำกับดูแลประสิทธิภาพภาครัฐ (DOGE) ในการปรับลดหน่วยงาน บุคลากรและภารกิจที่ไม่จำเป็น ตามแผนปฏิรูประบบงานภาครัฐในส่วนของรัฐบาลกลาง
ทรัมป์ลงนามคำสั่งระงับความช่วยเหลือต่างประเทศตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ตามด้วยการเลิกจ้างบุคลากรในสังกัดหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐ (USAID) ไปเป็นจำนวนมาก บุคลากรส่วนใหญ่ถูกพักงานหรือถูกปลดออก และเงินช่วยเหลือมากกว่าร้อยละ 80 ถูกยกเลิก ซึ่งทำให้การส่งมอบอาหารและความช่วยเหลือทางการแพทย์ที่ช่วยชีวิตไว้ได้ตกอยู่ในอันตราย ส่งผลให้ความพยายามบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรมทั่วโลกเกิดความโกลาหล
“บันทึกดังกล่าวระบุว่าโครงสร้างความช่วยเหลือต่างประเทศของสหรัฐฯ ในปัจจุบันนั้นกว้างเกินไป มีค่าใช้จ่ายสูงเกินไป และไม่สามารถลดการพึ่งพาความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ของประเทศต่างๆ ได้ จึงควรจัดสรรเงินทุนโดยเน้นเฉพาะด้านยุทธศาสตร์ที่แคบลง พิมพ์เขียวนี้เสนอโครงสร้างความช่วยเหลือระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ที่ถูกคิดขึ้นใหม่และชุดหลักปฏิบัติที่สัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนที่วัดผลได้แก่สหรัฐฯ ขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงซอฟต์พาวเวอร์ของสหรัฐฯ ซึ่งช่วยเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ และต่อต้านคู่แข่งระดับโลกซึ่งรวมถึงจีน” รายงานของรอยเตอร์ ระบุ
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า บันทึกฉบับนี้ถูกรายงานครั้งแรกโดยสำนักข่าว Politico ขณะที่แหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับเอกสารดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า บันทึกภายในจะถูกส่งไปยัง มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เพื่อตรวจสอบ ซึ่งแม้ว่าจะไม่ชัดเจนว่าข้อเสนอนี้จะได้รับการนำไปใช้มากเพียงใด แต่ถือเป็นการตรวจสอบอย่างละเอียดที่สุดครั้งหนึ่งเกี่ยวกับวิธีที่รัฐบาลทรัมป์ตั้งใจจะโอน USAID ซึ่งเป็นองค์กรที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2504 โดย จอห์น เอฟ. เคนเนดี (John F. Kennedy) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ (ในขณะนั้น) จากพรรคเดโมแครต
ข้อเสนอดังกล่าวเรียกร้องให้ยุบหน่วยงานภายใต้ USAID เกือบสองโหล และเปลี่ยนชื่อหน่วยงานเป็นหน่วยงานความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (U.S. Agency for International Humanitarian Assistance) ซึ่งหน่วยงานเฉพาะทางใหม่นี้จะอยู่ภายใต้กระทรวงการต่างประเทศ และมีจำกัดภารกิจเฉพาะด้านความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การตอบสนองต่อภัยพิบัติ สุขภาพระดับโลก และความมั่นคงทางอาหาร ส่วนโครงการที่มุ่งเน้นทางการเมือง เช่น การส่งเสริมประชาธิปไตย เสรีภาพทางศาสนา และการเสริมพลังสตรี จะถูกโอนไปให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการโดยตรง
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวเมื่อถูกถามเกี่ยวกับบันทึกดังกล่าวว่า เรามุ่งมั่นที่จะดำเนินการตามวัตถุประสงค์ด้านนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีทรัมป์และรัฐมนตรีรูบิโอ โดยสร้างสรรค์ คล่องตัว และมุ่งเน้นให้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2568 ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางได้สั่งห้ามไม่ให้มัสก์และ DOGE ดำเนินการปิด USAID โดยระบุว่าการกระทำดังกล่าวอาจขัดรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ
ยังไม่มีความชัดเจนในทันทีว่าคำตัดสินนี้จะส่งผลต่อการดำเนินงานของ USAID อย่างไร หรือจะส่งผลให้มีการจ้างพนักงานกลับเข้าทำงานหรือไม่ ผู้นำคนใหม่ของหน่วยงาน ซึ่งบางคนได้รับการแต่งตั้งในสัปดาห์นี้ ได้ระบุขั้นตอนต่อไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าในอีเมลภายในของ USAID ที่ถูกส่งกันเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2568 โดยตามที่ผู้สื่อข่าวได้เห็น เนื้อหาระบุหนึ่งในลำดับความสำคัญหลัก คือ การบริหารโครงการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่ช่วยชีวิตได้ประมาณ 1,000 โครงการ โดยมุ่งมั่นที่จะให้แน่ใจว่าโครงการที่ดำเนินการอยู่ยังคงทำงานต่อไปได้และสามารถให้บริการแก่ผู้รับประโยชน์ที่ต้องการได้
ลำดับความสำคัญอื่นๆ คือ การรับรองความปลอดภัย ศักดิ์ศรี และประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรของ USAID ในระหว่างการเปลี่ยนผ่าน และทำงานร่วมกับรัฐสภาและรูบิโอเพื่อกำหนดวิสัยทัศน์ว่า USAID จะถูกส่งต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศอย่างไร ทั้งนี้ บันทึกภายในข้างต้นลงนามโดย เคนเน็ธ แจ็คสัน (Kenneth Jackson) ที่ในสัปดาห์นี้เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ USAID และ เจเรมี เลวิน (Jeremy Lewin) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการและปฏิบัติหน้าที่รองผู้ดูแลด้านนโยบาย
อนึ่ง ในเดือนนี้ เลวิน ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่ของ DOGE โดยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคทางการเงิน ทั้งนี้ ทรัมป์และมัสก์ให้เหตุผลของการรื้อโครงสร้างความช่วยเหลือต่างประเทศของสหรัฐฯ ว่า เนื่องจากมีการใช้เงินภาษีของประชาชนในทางที่ผิดเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่ส่งเสริมผลประโยชน์ของสหรัฐฯ
ขอบคุณเรื่องจาก
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี