โรม (รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก เสด็จออกจากโรงพยาบาลในกรุงโรม ประเทศอิตาลีแล้วเมื่อวันที่ 23 มี.ค. หลังจากเข้ารักษาพระองค์จากอาการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจรุนแรงมานานเกินกว่า 1 เดือน เตรียมกลับไปพักฟื้นพระวรกายที่นครรัฐวาติกันต่ออีก 2 เดือน
สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ระบุว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสได้เสด็จออกจากโรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี แล้ว เมื่อวันที่ 23 มี.ค. เพื่อไปพักฟื้นต่อที่นครรัฐวาติกันอีกอย่างน้อย 2 เดือน เนื่องจากพระอาการประชวรดีขึ้นโดยก่อนจะเสด็จออกจากโรงพยาบาล โป๊ปฟรานซิส ได้ทรงปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์ จากทางหน้าต่างห้องที่ประทับของพระองค์ที่โรงพยาบาลเจเมลลี เพื่อทักทายและอวยพรบรรดาคริสต์ศาสนิกชนผู้ศรัทธา เนื่องจากโดยปกติแล้ว โป๊ปฟรานซิสจะทรงสวดมนต์ช่วงเที่ยงวันทุกสัปดาห์ที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ ในวันอาทิตย์ แต่นับตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พระองค์ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ก่อนที่พระองค์จะเข้าโรงพยาบาล
โป๊ปฟรานซิส พระชันษา 88 ปีเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เนื่องจากติดเชื้อระบบทางเดินหายใจรุนแรง ทำให้ต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ตลอด 5 สัปดาห์ที่รักษาพระองค์ที่โรงพยาบาล ทรงปรากฏพระองค์เพียงครั้งเดียวในภาพนิ่งที่วาติกันเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นภาพพระสันตะปาปาขณะทรงสวดมนต์ในโบสถ์ของโรงพยาบาล
ด้านคณะแพทย์ผู้ทำการรักษาแถลงว่าในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา โป๊ปฟรานซิสมีพระอาการวิกฤต 2 ครั้ง ที่ทำให้ชีวิตของพระองค์ตกอยู่ในอันตราย และว่าที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสไม่เคยใส่ท่อช่วยหายใจ และรู้สึกพระองค์ดีและมีพระสติสัมปชัญญะมาตลอด แม้ขณะนี้ พระองค์ไม่ได้หายจากอาการป่วยอย่างสมบูรณ์ แต่ทรงฟื้นตัวจากอาการปอดบวมแล้วและทรงตัวอยู่ในอาการคงที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี