วอชิงตัน (รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์/ซีเอ็นเอ็น)-ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ของ สหรัฐฯ ลดกระแสความไม่พอใจกรณีแชทเรื่องโจมตีกลุ่มฮูตีในเยเมนรั่วไหลถึงสื่อซึ่งเป็นคนนอก ยืนยันไม่มีข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับและไม่มีใครต้องขอโทษ ขณะที่ฝ่ายเดโมแครตรุมตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ลาออก

ประธานาธิบดีทรัมป์หนุนหลังทีมงานด้านความมั่นคงของเขาด้วยการตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันอังคารที่ 25 มี.ค. ว่า ไม่มีข้อมูลชั้นความลับถูกเปิดเผยในกลุ่มแชทสนทนาแอปพลิเคชั่น ซิลนัล (Signal) ของคณะเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่ง ไมเคิล วอลท์ซ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ได้เชิญบรรณาธิการข่าวของนิตสารสื่อ The Atlantic เข้าไปรวมอยู่ด้วยโดยไม่ตั้งใจ ทรัมป์กล่าว
ด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการใช้แอปพลิเคชั่นสนทนานี้ และคิดว่าวอลท์ซไม่จำเป็นต้องขอโทษในเรื่องนี้

ขณะที่วอลท์ซให้สัมภาษณ์ขอเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย กลุ่มแชทที่เขาสร้างขึ้นมีรายละเอียดเรื่องแผนการโจมตีเยเมนจริงแต่ยืนกรานว่าไม่มีข้อมูลชั้นความลับหลังจาก เจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการข่าวของ The Atlantic ออกมาเปิดเผยว่าถูกรวมอยู่ในกลุ่มแชทเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และได้เห็นโพสต์ของรัฐมนตรีกลาโหมเรื่องแผนการทำสงครามก่อนสหรัฐเปิดฉากโจมตีเยเมนระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนว่า บรรณาธิการ The Atlantic ถูกเชิญเข้าร่วมได้อย่างไร การให้สัมภาษณ์ของวอลท์ซ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ เพื่อลดผลกระทบจากกรณีกลุ่มแชทที่มีข้อมูลเกี่ยวกับแผนโจมตีกลุ่มฮูตีในเยเมนหลุดออกไป ที่เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ 24 มี.ค.

ขณะเดียวกัน คณะกรรมาธิการข่าวกรอง วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้เรียก ทัลซีแกบบาร์ด ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติและ จอห์น แรทคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือซีไอเอเข้าให้ปากคำ เนื่องจากทั้งทัลซีและแรทคลิฟฟ์อยู่ในกลุ่มแชทที่หลุดด้วย ทั้งคู่ยืนยันขณะถูกซักฟอกว่า ไม่มีข้อมูลใดในกลุ่มแชทดังกล่าวที่เป็นข้อมูลลับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับ พีธ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เพียงคนเดียวที่สามารถตัดสินว่า ข้อมูลด้านกลาโหมใดที่เป็นข้อมูลลับ

ด้านวุฒิสมาชิก มาร์ค วอร์เนอร์รัฐเวอร์จิเนีย พรรคเดโมแครต ตำหนิทีมความมั่นคงของทรัมป์ว่า สะเพร่าและประมาทเลินเล่ออย่างน่าประหลาดใจไร้ความสามารถ และไม่ให้เกียรติคนทำงานข่าวกรอง หลังจากพยายามคาดคั้นถามแกบบาร์ดว่า ข้อมูลในกลุ่มแชทดังกล่าวไม่เป็นความลับจริงหรือ และถ้าหากไม่เป็นข้อมูลลับ ขอให้เธอเปิดเผยข้อมูลเหล่านั้นต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรอง เดโมแครตยังเรียกร้องให้ทีมเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงของทรัมป์ลาออกด้วย

ข่าวกลุ่มแชทหลุดครั้งนี้สร้างความตกตะลึงและไม่พอใจให้แก่พรรคเดโมแครตและในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงแห่งชาติ แม้กระทั่งสมาชิกพรรครีพับลิกันหลายคนด้วย และเรียกร้องให้สอบสวนกรณีนี้ซึ่งถือเป็นการละเมิดด้านความมั่นคงที่ร้ายแรง นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับยุโรปที่เปราะบางอยู่ก่อนแล้ว จากที่มีบทสนทนาของ เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และเฮกเซธที่บ่งบอกว่า ยุโรปได้ประโยชน์แบบไม่ต้องออกแรงจากกที่สหรัฐฯ โจมตีกลุ่มฮูตีและช่วยเปิดเส้นทางสัญจรทางเรือที่ปลอดภัยในทะเลแดงและคลองสุเอซ