มอสโก (รอยเตอร์ส) - ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เสนอให้รัฐบาลยูเครนอยู่ใต้รูปแบบการปกครองแบบชั่วคราวเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เชื่อสหรัฐฯ จริงจังเรื่องครอบครองกรีนแลนด์ซึ่งอยู่ในขั้วโลกเหนือ ระบุ รัสเซียจะเพิ่มบุคลากรทางทหารในขั้วโลกเหนือ พร้อมกับเตือนความเป็นศัตรูทางภูมิรัฐศาสตร์ในขั้วโลกเหนือกำลังเข้มข้นร้อนแรงมากขึ้น

ประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. เสนอให้ยูเครนอยู่ภายใต้รูปแบบของการปกครองชั่วคราว เพื่อให้จัดการเลือกตั้งใหม่ และเพื่อลงนามในข้อตกลงใหม่ต่างๆ ที่มีจุดประสงค์เพื่อบรรลุการยุติความขัดแย้ง ประธานาธิบดีปูตินกล่าวระหว่างเยือนเมืองท่าทางเหนือของรัสเซียวานนี้

ปูตินเคยกล่าวว่า ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ไม่มีความชอบธรรม เพราะหมดวาระการเป็นประธานาธิบดีไปแล้ว แต่ไม่มีการเลือกตั้งใหม่ในยูเครน และเขาไม่ต้องการเจรจาสันติภาพกับเซเลนสกี ทั้งนี้ ยูเครนไม่จัดการเลือกตั้งเนื่องจากประเทศยังอยู่ในช่วงกฎอัยการศึก

ปูตินยังแสดงความเห็นขณะกล่าวสุนทรพจน์บนเวทีอภิปรายเกี่ยวกับอาร์ติกหรือขั้วโลกเหนือ ที่เมืองมูร์มันสค์ของรัสเซียว่า แผนการของสหรัฐฯ ที่ต้องการครอบครองเกาะกรีนแลนด์ ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์กเป็นเรื่องจริงจัง เป็นแผนการที่มีรากทางประวัติศาสตร์ยาวนานย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1860 เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับรัสเซีย แต่สหรัฐฯ ได้แสดงเห็นชัดเจนแล้วว่า จะเดินหน้าส่งเสริมเรื่องผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในขั้วโลกเหนือทั้งด้านยุทธศาสตร์ทางภูมิศาสตร์ การเมืองการทหาร และเศรษฐกิจ

ปูตินกล่าวถึงสถานการณ์ในยูเครนว่า รัสเซียกำลังเดินหน้าที่ละน้อยแต่ด้วยความเชื่อมั่น ไปสู่การบรรลุเป้าหมายทั้งหมดในปฏิบัติการนานกว่า 3 ปีในยูเครน และกล่าวถึงเกาหลีเหนือว่า รัสเซียพร้อมร่วมมือกับเกาหลีเหนือ เพื่อเดินหน้าไปสู่การยุติความขัดแย้งในยูเครน

ผู้นำรัสเซียเปิดเผยด้วยว่า เขาจะเพิ่มจำนวนบุคลากรทางทหารที่ประจำการในขั้วโลกเหนือ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของรัสเซียในขั้วโลกเหนือ เพราะรัสเซียกำลังกังวลที่หลายประเทศในกลุ่มองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต กำลังใช้ขั้วโลกเหนือมากขึ้นเรื่อยๆ ในการเป็นสปริงบอร์ดนำไปสู่ความขัดแย้ง รัสเซียกำลังจับตาดูสถานการณ์นี้และกำลังเตรียมตอบโต้อย่างเหมาะสม

ปูตินชี้ว่า ชัดเจนว่าขณะนี้บทบาทและความสำคัญของขั้วโลกเหนือกำลังเพิ่มขึ้นทั้งต่อรัสเซียและต่อโลกทั้งโลก แต่โชคไม่ดีที่การแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่นี่ คือการที่ประเทศต่างๆ กำลังแย่งชิงตำแหน่งปักหลักในขั้วโลกเหนือ ก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

ทั้งนี้ ขั้วโลกเหนือร่ำรวยทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนบกและใต้ทะเล ทั้งเชื้อเพลิงชนิดฟอสซิลและสินแร่ใต้ดินและใต้ก้นทะเล และเป็นพื้นที่แข่งขันทางทหารของหลายประเทศ ปัญหาโลกร้อนที่ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย กลับทำให้สามารถเข้าถึงทรัพยากรในขั้วโลกเหนือได้ง่ายขึ้นนักวิเคราะห์ชี้ว่า รัสเซียได้สร้างการมีอยู่ของตนในขั้วโลกเหนืออย่างรวดเร็วยิ่งกว่าประเทศตะวันตก ด้วยการเปิดฐานทัพต่างๆ ที่มีอยู่ตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียตขึ้นมาใหม่ และปรับปรุงกองทัพเรือให้ทันสมัย