28 มี.ค. 2568 ช่วงนี้ที่เมืองไทยมี “ดราม่าร้อนๆ” เกี่ยวกับเรื่อง “คุกตะราง” อยู่หลายประเด็น ไล่ตั้งแต่ในข่าวการเมืองที่มีผู้ยิ่งใหญ่บางท่านแม้ศาลจะตัดสินจำคุก แต่ก็ไม่เคยต้องอยู่ในเรือนจำแม้แต่วันเดียวโดยอ้างเรื่องสุขภาพซึ่งก็ถูกตั้งคำถามว่าป่วยจริงหรือไม่ ในข่าวอาชญากรรมที่อดีตตำรวจซึ่งต้องติดคุกเพราะไปใช้ถุงดำคลุมหัวรีดข้อมูลผู้ต้องหาจนพลั้งมือทำให้ผู้ต้องหาเสียชีวิต ต่อมากลับเสียชีวิตในคุกเสียเอง ซึ่งแม้ผลชันสูตรศพจะชี้ไปทางว่าเจ้าตัวจบชีวิตด้วยตนเอง แต่ยังมีคำถามว่าก่อนหน้านั้นเคยถูกกดดันกลั่นแกล้งทั้งจากเจ้าหน้าที่เรือนจำและนักโทษขาใหญ่ในคุก จนนำมาสู่การลงมือจบชีวิตดังกล่าวจริงหรือเปล่า
ล่าสุดกับกรณีช่องยูทูบบางช่องที่มีคนติดตามจำนวนมาก นำเสนอเรื่องราวการทำอาวุธจากสิ่งของที่หาได้ในคุก ซึ่งแม้เหตุทะเลาะวิวาทระหว่างผู้ต้องขังในเรือนจำและบางครั้งก็มีการใช้อาวุธที่ดัดแปลงจากสิ่งของใกล้ตัวจะเป็นที่รับรู้กันมานาน (รวมถึงเรื่องแง่มุมต่างๆ ในการใช้ชีวิตภายในเรือนจำ ตั้งแต่วันเข้าไปจนถึงวันพ้นโทษ) แต่ก่อนหน้านี้จะเป็นเพียงเรื่องเล่าปากต่อปาก ไม่ได้มีการนำเสนอแบบละเอียดชัดเจนอย่างยุคสื่อสังคมออนไลน์ในปัจจุบันที่ใครๆ จะนำเสนออะไรก็ได้ และแม้ทางช่องดังกล่าวจะชี้แจงว่าเป็นเพียงการเล่าเรื่องวิชาการต่อสู้หลายแขนงทั่วโลก (ซึ่งรวมวิชาการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในเรือนจำด้วย) แต่ก็ถูกตั้งคำถามถึงความเหมาะสมเพราะเป็นสื่อที่เด็กและเยาวชนเข้าถึงได้
นั่นคือเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองไทย แต่เชื่อหรือไม่ว่า “ศิลปะการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในโลกหลังลูกกรงเหล็กและกำแพงสูงนั้นมีอยู่จริง” โดยมีชื่อเรียกว่า “52 Blocks” เป็นวิชาที่เกิดขึ้นในเรือนจำของ สหรัฐอเมริกา แดนลุงแซมที่อยู่ห่างไปไกลคนละซีกโลกจากบ้านเรา และมีการนำออกมาเผยแพร่ในโลกภายนอก มีการโพสต์คลิปวีดีโอสอนศาสตร์การต่อสู้แขนงนี้ในช่องยูทูบมาไม่ต่ำกว่าทศวรรษ
บทความวิชาการ “THE fifty-two HAND BLOCKS RE-FRAMED THE REHABILITATION OF A VERNACULAR MARTIAL ART” เขียนโดย โธมัส เอ.กรีน (Thomas A.Green) ศาสตราจารย์ด้านมานุษยวิทยาและนิทานพื้นบ้าน ศาสตราจารย์ประจำสาขาวิชาแอฟริกันศึกษา และศาสตราจารย์ประจำสาขาวิชาศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยเทกซัสเอแอนด์เอ็ม เมือง College Station รัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ ซึ่งเผยแพร่ผ่านวารสาร Martial Arts Studies ของมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์ ระบุว่า ประวัติของศิลปะการต่อสู้แขนงนี้ค่อนข้างคลุมครือ โดยอ้างย้อนไปถึงสมัยที่ยังมีระบบทาสในสังคมสหรัฐฯ ซึ่งคนผิวดำจากทวีปแอฟริกาถูกจับส่งข้ามน้ำข้ามทะเลมาใช้แรงงานในทวีปอเมริกา ในยุคที่ฝรั่งผิวขาวจากทวิปยุโรปพากันไปบุกเบิกสร้างบ้านแปงเมือง
ศ.กรีน อ้างถึงชีวประวัติของ เฮนรี บิบบ์ (Henry Bibb) ทาสที่มีชีวิตในช่วงศตวรรษที่ 19 (ปี 2343 – 2442) ซึ่งเล่าว่า ในรัฐเคนตักกี้ ณ ช่วงเวลาดังกล่าว เหล่านายทาสมักบังคับให้ทาสต่อสู้กันเพื่อความบันเทิงในวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ โดย บิบบ์ ได้บรรยายการต่อสู้ของพวกทาสไว้ว่า มีทั้งการเตะ การทุบ และการใช้ศีรษะโขกคู่ต่อสู้ จึงถูกเรียกว่า “การต่อสู้แบบทุบและเตะ (Knocking and Kicking)" ขณะที่ภูมิภาคอื่นๆ จะเรียกแตกต่างกันไป เช่น ประกาศจับทาสที่หลบหนี ที่เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในรัฐเซาท์แคโรไลนา ในปี 2276 มีการตั้งฉายาทาสที่ถูกตามล่านั้นว่าเป็นปรมาจารย์แห่ง “การต่อสู้แบบผลักและร่ายรำ (Pushing and Dancing)” เป็นต้น
ในปี 2445 หรือ 39 ปีหลังสหรัฐอเมริกาประกาศเลิกทาสในปี 2406 มีบทความที่เผยแพร่ใน นสพ.Brooklyn Eagle สื่อท้องถิ่นในเมืองนิวยอร์กของสหรัฐฯ ฉบับวันที่ 23 พ.ย. 2445 ซึ่งเป็นช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 (ปี 2443 – 2542) บรรยายการต่อสู้ของชาวอเมริกันผิวดำ (หรือชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน) คนหนึ่งที่ทำงานในภาคเกษตร ในพื้นที่ชนบทของรัฐหลุยเซียนา โดยระบุว่า ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันคนดังกล่าวมีชื่อเสียงในฐานะนักสู้ข้างถนนซึ่งชำนาญการใช้ศีรษะโจมตีคู่ต่อสู้
นอกจากนั้นยังมีหนังสือ Fighting for Honor ซึ่งเขียนโดย โธมัส เจ เดช-โอบิ (Thomas J Desch-Obi) รองศาสตราจารย์ที่ Weissman School of Arts and Sciences ในนิวยอร์ก ได้กล่าวถึงวิธีการต่อสู้ของชาวกุลลาห์ (Gullah - ลูกหลานของชาวแอฟริกันที่ถูกกดขี่ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำของรัฐจอร์เจียและรัฐเซาท์แคโรไลนา) อย่างละเอียด ซึ่งวิธีหนึ่งคือการทุบและเตะ ในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ ในปัจจุบัน
“แม้จะมีการถกเถียงกันเกี่ยวกับต้นกำเนิด ชื่อ และความแตกต่างระหว่างรูปแบบท้องถิ่น แต่ก็มี8วามเห็นร่วมกันว่ารูปแบบ ‘52’ พัฒนามาจากรูปแบบการต่อสู้ที่ถูกคิดค้นและสอนกันในเรือนจำ ภายใต้ชื่อรวมๆ ว่า Jailhouse หรือ JHR หลักฐานของรูปแบบดังกล่าวปรากฏในสิ่งพิมพ์เป็นระยะๆ อาทิ ในปี 2517 บทความที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร Black Belt อ้างคำบอกเล่าของอดีตนักโทษ ว่าเรือนจำต่างๆ ภายในรัฐนิวยอร์กต่างมีรูปแบบวิชาการต่อสู้เป็นของตนเอง ซึ่งรวมถึง มิเกล ปิเนโร (Miguel Pinero) นักเขียนบทละครชื่อดัง ก็เล่าว่า ได้ฝึกฝนวิชาการต่อสู้ขณะที่ใช้ชีวิตอยู่ภายในนั้น” ศ.กรีน ระบุ
ศ.กรีน ยังกล่าวในบทความนี้ด้วยว่า 52 Hand Blocks (หรือที่เรียกว่า 52s) เป็นศิลปะการต่อสู้ของชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน (VMA) ซึ่งโดยทั่วไปถือว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของ Jailhouse หรือ Jailhouse Rock (JHR) ซึ่งเป็นคำเรียกรวมๆ ของ VMA ที่เกี่ยวข้องกับเรือนจำในสหรัฐอเมริกา อนึ่ง ตามความเห็นของผู้ฝึกส่วนใหญ่ รูปแบบการต่อสู้นี้ไม่ได้ถูกเรียกอย่างเป็นทางการว่า 52 Blocks แม้จะมีผู้ประกอบการอย่าง 1 หนึ่งรายที่ทำธุรกิจออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จในการขายดีวีดีสาธิตการใช้วิชาการต่อสู้นี้ในชื่อดังกล่าวก็ตาม
ส่วนตัวเลข 52 นั้น ว่ากันว่ามาจากแนวคิดของกลุ่ม Nation of Gods and Earths หรือ Five-Percent Nation ซึ่งเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวของชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันในทศวรรษ 1960 (ปี 2503 - 2512) ในยุคที่ชาวอเมริกันผิวดำลุกขึ้นต่อสู้กับการเหยียดสีผิว ซึ่งในเวลานั้นแม้สหรัฐฯ จะเลิกทาสมานานแล้วแต่ก็ยังมีการเลือกปฏิบัติและกดขี่ข่มเหงโดยชาวอเมริกันผิวขาว โดยเลข 5 หมายถึงพละกำลัง และเลข 2 หมายถึงสติปัญญา
ศ.กรีน ยังเขียนบทความ “The 52 Hand Blocks, Sexual Dominance, and Mother Dear as ArchetypE” เผยแพร่ในวารสาร Martial Arts Studies ซึ่งในบทความนี้ บอกเล่าเรื่องราวที่ไม่มีข้อยืนยันชัดเจนแต่ถูกเล่าต่อๆ กันมาถึงต้นกำเนิดของศาสตร์การต่อสู้แบบ 52 Blocks โดยระบุว่า 52 Hand Blocks เป็นศิลปะการต่อสู้แบบแอฟริกัน-อเมริกัน ที่กล่าวกันว่ามีต้นกำเนิดในเรือนจำในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังมีศิลปะการต่อสู้แบบอื่นๆ อีกมากมายที่นอกเหนือไปจาก 52 เช่น Stato และ Comstock ซึ่งตั้งชื่อตามเรือนจำในรัฐนิวยอร์ก เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในบทความนี้ของ ศ.กรีน บอกเล่าต้นกำเนิดที่ไม่ค่อยดีนัก นั่นคือวิชา 52 Blocks (หรือชื่อ 52 ทั้งหลาย) ถูกคิดค้นโดยผู้ต้องขังที่ถูกเรียกว่า “คุณแม่ที่รัก (Mother Dear)” โดยเป็นผู้มีรสนิยมทางเพศแบบชายรักชาย (Gay) ที่ถูกจำคุกในเรือนจำภายในนิวยอร์กและมักใช้กำลังบังคับล่วงละเมิดทางเพศผู้ต้องขังด้วยกัน แต่ก็ไม่มีใครยืนยันได้ว่า Mother Dear มีตัวตนจริงหรือไม่ และเรื่องเล่าของบุคคลดังกล่าวยังแตกต่างกันไปอีกในรายละเอียดปลีกย่อย
นสพ.The New York Times สื่อดังในสหรัฐฯ เคยเสนอรายงานพิเศษ In Tight, a New (Old) Martial Art Gains Followers เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2552 ระบุว่า นอกจากชื่อที่แพร่หลายที่สุดอย่าง 52 Blocks แล้ว ศิลปะการต่อสู้แขนงนี้ยังถูกเรียกในอีกหลายชื่อ เช่น “In Tight” , “Stato” , “Jailhouse Rock” , “the 52 Hand Blocks” , “the 52” เป็นต้น โดยมีการสัมภาษณ์ ไลท์ เบอร์ลี (Lyte Burly) ซึ่งขณะนั้นอายุ 34 ปี และเป็นคนแรกๆ ที่โพสต์คลิปวีดีโอสาธิตการต่อสู้แบบ 52 Blocks ลงในเว็บไซต์ยูทูบ
เบอร์ลี สอนอยู่ที่สวนสาธารณะ Tompkins Square Park ในนิวยอร์ก อธิบายแก่นของวิชา 52 Blocks ว่า “การรุกทำให้ชนะการต่อสู้ แต่การป้องกันทำให้ชนะการแข่งขัน (offense wins fights but defense wins championships)” จุดแข็งของ 52 Blocks คือความสามารถในการควบคุมจังหวะของการต่อสู้ได้ในขณะที่หลีกเลี่ยงการถูกโจมตี ในการสาธิตของเบอร์ลี Burly ท่าร่างที่กระชับทำให้หลบหลีกได้อย่างง่ายดายหากคู่ต่อสู้พยายามจะเข้ามาชกหรือจับ อีกทั้งยังแสดงการใช้ปลายข้อศอกปัดหมัดและย่อตัวลงเพื่อโจมตีขาของคู่ต่อสู้
แดเนียล มาร์คส์ (Daniel Marks) ผู้สอนวิชา 52 Blocks อีกคนหนึ่ง ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ทางสายวิชาการต่อสู้กับไลท์ เบอร์ลี โดยมาร์คส์นั้นสอนอยู่ในโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ Ultimate Karate ในย่าน East Harlem ของนิวยอร์ก เขาอธิบายหลักการของ 52 Blocks ว่า แม้จะมีความคล้ายกับกีฬามวยสากล (Boxing) แต่ 52 Blocks จะเน้นไปที่การต่อสู้แบบ “คลุกวงใน (Inside Game)” เป็นพิเศษ เน้นการออกหมัดในระยะสั้นๆ ใกล้ๆ แต่หนักหน่วงรุนแรง ซึ่งเหมาะสมกับการต่อสู้ในพื้นที่แคบๆ เช่น โถงทางเดิน (Hallway) หรือในห้องขัง (Cell)
“การตั้งการ์ดจะแน่นขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับการชกต่อยด้วยมือเปล่า (Bare Hand – ไม่ได้ใส่นวม) การปัดป้องจะมีลักษณะเป็นการสลับสับเปลี่ยนของศอก การโยกและหมุนตัว ผู้ใช้วิชา 52 Blocks สามารถกำหนดเป้าหมายได้ทุกอย่างตั้งแต่ขาไปจนถึงไหล่ การฝึกฟุตเวิร์กจะสอนในรูปแบบที่กระชับและสั้น แทนที่จะเต้นบนฝ่าเท้าแบบนักมวยสากล ผู้ฝึก 52 Blocks จะมีฟุตเวิร์กที่ใกล้พื้นมากขึ้น ต่ำลง และกระชับขึ้น ทั้งในด้านความกว้างของท่าทางและระยะทางที่เคลื่อนที่ในแต่ละจังหวะ” คำบรรยายของ The New York Times
ถึงจะเป็นวิชาการต่อสู้ที่ว่ากันว่าก่อกำเนิดขึ้นในสถานที่ที่เป็นแหล่งรวมอาชญากรผู้กระทำผิดกฎหมาย แต่ในการสอนของมาร์คส์จะย้ำเสมอว่า “การฝึกของคุณควรนำคุณไปสู่ช่วงหยุดตามธรรมชาติ (Your training should take you to a natural pause in the action)” ซึ่งเมื่อถึงจังหวะนั้นผู้ฝึกจะสามารถเลือกได้ว่าจะจัดการกับคู่ต่อสู้ให้จบอย่างเด็ดขาดหรือหลบหนีออกมาจากจุดนั้นเพียงเพื่อป้องกันตนเองให้รอด ซึ่งอย่างหลังเป็นทางเลือกที่มาร์คส์สนับสนุนมากกว่า เพราะเป้าหมายสูงสุดของการฝึกคือการที่ผู้ฝึกสามารถไปไหน-มาไหนได้อย่างปลอดภัย
สื่อสหรัฐฯ ยังได้สัมภาษณ์ ราแชด อีแวนส์ (Rashad Evans) นักกีฬาศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) ซึ่งเคยเป็นแชมป์รายการดังอย่าง UFC ในรุ่นไลท์เฮฟวี่เวท ซึ่ง อีแวนส์ เล่าว่า ในตอนที่อายุยังน้อย ตนเคยได้ยินบรรดาผู้ชายที่มีอายุมากพูดคุยกันถึงการต่อสู้ในเรือนจำ และได้เห็นสิ่งที่ตนคิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวเหล่านี้ในการต่อสู้บนท้องถนน กระทั่งในปี 2548 จึงได้พบกับ แดเนียล มาร์คส์ ในงานสัมมนาที่เมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ของสหรัฐฯ และได้เริ่มฝึกวิชา 52 Blocks ซึ่ง อีแวนส์ มองว่า วิชานี้ช่วยให้เข้าใจเรื่องการใช้มุม (Angle) ในการต่อสู้มากขึ้น
ท้ายที่สุดต้องย้ำว่าเรื่องราวที่นำมาเล่านี้ไม่ได้ต้องการส่งเสริมหรือฉายภาพให้เห็นว่าการติดคุกตะรางเป็นเรื่องเท่โก้เก๋ (ซึ่งบรรดา “อินฟลูเอนเซอร์” ที่เคยผ่านชีวิตหลังลูกกรงเหล็ก – กำแพงสูง และนำมาบอกเล่าให้คนภายนอกรับรู้ก็ไม่เคยมีใครแนะนำในทางนั้น มีแต่ย้ำว่าอยู่ข้างนอกดีแล้ว มีสติให้มากๆ ทำมาหากินสุจริตจะได้ไม่ต้องเข้าไปลำบากอยู่ในนั้นให้เสียเวลาชีวิต) แต่เป็นเรื่องน่าสนใจในแง่ “ความน่าทึ่ง” ที่ไม่ว่าในมุมใดของโลก มนุษย์มีการคิดค้นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวหลากหลายแขนงแตกต่างกันไปตามภูมิประเทศและสภาพสังคม แม้กระทั่งภายใน “เรือนจำ” สถานที่ที่มีกฎระเบียบควบคุมเข้มงวดและโดยทั่วไปไม่อนุญาตให้มีการกระทำใดๆ ที่อาจนำไปสู่การใช้ความรุนแรงทำร้ายกันก็ตาม!!!
ขอบคุณภาพจาก iStock , The New York Times
อ้างอิง
https://orca.cardiff.ac.uk/id/eprint/92079/1/MAS%20Journal%202_Green.pdf THE fifty-two HAND BLOCKS RE-FRAMED THE REHABILITATION OF A VERNACULAR MARTIAL ART
https://orca.cardiff.ac.uk/id/eprint/133114/1/mas_0_9_2020_mas.98.pdf The 52 Hand Blocks,Sexual Dominance, and Mother Dear as ArchetypE
https://www.nytimes.com/2009/06/18/fashion/18fitness.html In Tight, a New (Old) Martial Art Gains Followers
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
https://www.naewna.com/likesara/873068 'สไปร์ท SPD'แจงปมคลิปสอนเอาตัวรอดแบบคนคุก โอดถูกตัดช่วงเดียวไปเผยแพร่
043...
ชมคลิปวิชา 52Blocks โดย The New York Times ที่นี่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี