สหประชาชาติ/เทลอาวีฟ (รอยเตอร์/อัลจาซีรา) - หน่วยงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติ แถลง การกระทำของอิสราเอลต่อผู้คนในฉนวนกาซา ถือเป็นการก่ออาชญากรรมที่โหดร้ายป่าเถื่อน

สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือโอซีเอชเอ (OCHA) แถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น (28 มี.ค.) ระบุว่า การกระทำของอิสราเอลในฉนวนกาซา ซึ่งรวมถึงการโจมตีพื้นที่ชุมชน ที่มีพลเรือนเสียชีวิตจำนวนมาก “เข้าข่ายเป็นการกระทำที่โหดร้ายป่าเถื่อน”  โดย เยนส์ แลร์เก โฆษกของ OCHA แถลงในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า 10 วันที่ผ่านมา ทุกฝ่ายได้เห็นการละเลยต่อชีวิตและศักดิ์ศรีของมนุษย์อย่างโหดร้าย การกระทำในสงครามที่เราเห็นนั้นมีลักษณะเฉพาะของอาชญากรรมอันเลวร้าย

อย่างไรก็ตาม อิสราเอลปฏิเสธการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมในกาซา และกล่าวโทษนักรบฮามาสทำร้ายพลเรือนจากปฏิบัติการท่ามกลางพลเรือน ซึ่งฮามาสปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล และอดีตรัฐมนตรีกลาโหมของเขา ถูกฟ้องร่วมกับผู้นำกลุ่มฮามาสโดยศาลอาญาระหว่างประเทศในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม ซึ่งทางอิสราเอลปฏิเสธ

แลร์เก กล่าวว่า สำรองอาหารและเวชภัณฑ์กำลังจะหมดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากทางการอิสราเอลได้ปิดกั้นความช่วยเหลือไม่ให้ข้ามจุดผ่านแดนเข้าสู่กาซามาตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม ซึ่งสำนักงานของเนทันยาฮู ระบุว่า อิสราเอลจะไม่อนุญาตให้สินค้าและสิ่งของจำเป็นทั้งหมดเข้าไปในกาซา จนกว่าตัวประกันชาวอิสราเอลที่เหลือทั้งหมดจะได้รับการปล่อยตัว

ด้านโครงการอาหารโลก แถลงว่า มีอาหารสำรองเหลืออยู่ในกาซา 5,700 ตัน เพียงพอสำหรับการดำเนินงานเป็นเวลาไม่เกินสองสัปดาห์ ขณะที่ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุเมื่อวานนี้ว่า ยังมีการขาดแคลนโลหิตอย่างรุนแรงสำหรับใช้รักษาผู้บาดเจ็บในกาซาด้วย

ทั้งนี้ มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วมากกว่า 50,000 ราย จากการโจมตีของอิสราเอลในกาซา ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มนักรบที่นำโดยฮามาสบุกโจมตีชุมชนต่าง ๆ ในภาคใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 มีผู้เสียชีวิต 1,200 ราย และถูกจับเป็นตัวประกัน 251 คน ขณะที่หลังจากอิสราเอลกลับมาโจมตีฉนวนกาซารอบใหม่เมื่อ 10 กว่าวันก่อน มีผู้เสียชีวิตอีกมากกว่า 850 ราย