‘เมียนมา’เศร้า

คาดเหยื่อแผ่นดินไหวดับทะลุพัน

‘โดนัลด์ ทรัมป์’พร้อมยื่นมือช่วย

เมียนมาประกาศภาวะฉุกเฉิน 6 ภาค จากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ในเมืองมัณฑะเลย์เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเป็นอย่างน้อย 250 ศพ ผู้บาดเจ็บหลายร้อยคนล้นโรงพยาบาล สื่อนอกคาดอาจดับทะลุพัน

พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา เตือนว่า ยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากแผ่นดินไหวขนาด 7.7 เมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น (28 มี.ค.) ในเมียนมา จะเพิ่มขึ้นอีก จากยอดผู้เสียชีวิตในขณะนี้ที่อย่างน้อย 250 ราย บาดเจ็บ 732 คน ในการแถลงทางสถานีโทรทัศน์ MRTV ของรัฐบาลเมียนมาเมื่อวานนี้ พร้อมเปิดเผยว่า เขาได้ร้องขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศในการบรรเทาทุกข์ และได้ยอมที่จะรับการเสนอความช่วยเหลือจาก “ศูนย์องค์การตอบโต้ภัยพิบัติอาเซียน” (Asean disaster response organisation : AHA) รวมไปถึงยอมที่จะรับคำเสนอความช่วยเหลือจากอินเดียด้วย

ด้าน ซอ มิน ทุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวว่า ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากประชาคมโลกโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และว่าโรงพยาบาลรัฐทั้งในกรุงเนปิดอว์ มัณฑะเลย์ สะกาย มีผู้บาดเจ็บจากแผ่นดินไหวล้นโรงพยาบาลแล้ว ที่โรงพยาบาลรัฐขนาด 1,000 เตียงในกรุงเนปิดอว์วานนี้ มีผู้เสียชีวิต 20 คนจากแผ่นดินไหว

สถานการณ์ล่าสุด รัฐบาลเมียนมาประกาศภาวะฉุกเฉิน 6 ภาค หลัง 3 เมืองสำคัญสุดเสียหายหนัก ทั้งกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวง , เมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับ 2 และนครย่างกุ้ง เมืองใหญ่สุดของเมียนมา โครงสร้างพื้นฐานเสียหายหนักทั้งถนน สะพาน อาคารบ้านเรือนพังพินาศในอย่างน้อย 5 เมือง

เมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับ 2 เมียนมา ซึ่งมีประชากรราว 1.5 ล้านคน และเป็นเมืองใหญ่ที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวมากที่สุด ดูเหมือนจะเสียหายหนักสุด เนื่องจากถูกถล่มด้วยแผ่นดินไหวหลักขนาด 7.7 ที่เกิดห่างจากมัณฑะเลย์เพียง 17 กิโลเมตร และถูกถล่มซ้ำอีกทันทีในอีกไม่กี่นาทีถัดมาด้วยอ๊าฟเตอร์ช็อคครั้งแรก 6.4 จากการรายงานของสำนักสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐฯ หรือยูเอสจีเอส ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างจำนวนมากพังถล่มเสียหายหนัก รวมถึงอดีตพระราชวังมัณฑะเลย์พังถล่มบางส่วน สภาพทั่วทั้งเมืองมัณฑะเลย์มีแต่อาคารบ้านเรือนพังพินาศ เศษซากปรักหักพังเต็มถนนทั่วเมือง ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งค้นหาผู้เคราะห์ร้ายที่อาจติดอยู่ใต้ซากอาคารบ้านเรือนที่พังถล่ม โดยต้องใช้มือเปล่ารื้อเศษซากความเสียหายเพราะขาดแคลนอุปกรณ์หนัก ส่วนผู้บาดเจ็บจำนวนมากถูกนำส่งโรงพยาบาลด้วยรถพยาบาล รถยนต์หรือแม้แต่รถจักรยานยนต์ โรงพยาบาลมัณฑะเลย์ เจนเนอรัล เต็มไปด้วยผู้บาดเจ็บเข้ารัษาตัวจนล้นทะลักโรงพยาบาล

เช่นเดียวกับที่กรุงเนปิดอว์ เมืองหลวง เสียหายหนัก หนังสือพิมพ์ ย่างกุ้ง ไทมส์ (Yangon Times) รายงานว่า หอควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินเนปิดอว์พังถล่ม ทุกคนที่อยู่ภายในเสียชีวิตทั้งหมด อาคารกระทรวงหลายกระทรวงในเนปิดวอร์ รวมไปถึงบ้านพักของรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีแรงงานเมียนมาพังถล่ม คาดว่ามีผู้เสียชีวิตหลายราย ในจำนวนนี้รวมถึงปลัดกระทรวงแรงงานด้วย พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเมียนมาสั่นสะเทือน ทำให้เพดานเสียหาย มีเศษซากตกลงมาขณะที่มีทีมผู้สื่อข่าวอยู่ภายใน

อย่างไรก็ดี เว็บไซต์ข่าว BBC รายงานอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดระบุว่า ออง ซาน ซู จี อดีตแกนนำรัฐบาลพลเรือนเมียนมา ที่อยู่ระหว่างถูกรัฐบาลทหารคุมขังในสถานที่ไม่เปิดเผยในกรุงเนปิดอว์ ไม่ได้รับอันตรายจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้

ส่วนความเสียหายในเมืองอื่น ๆ ในเมืองพะโค มัสยิดพังถล่ม 1 แห่ง มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ส่วนในรัฐฉาน สื่อท้องถิ่นรายงาน โรงแรมถล่ม 1 แห่ง เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 20 คน

เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ สเตรท์ส ไทมส์ ของสิงคโปร์ ระบุว่า การที่รัฐบาลทหารเมียนมาร้องขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศนี้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่ง สะท้อนว่า ความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินในเมียนมาจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ น่าจะใหญ่หลวงมาก เพราะโครงสร้างพื้นฐานและระบบการแพทย์โรงพยาบาลในเมียนมา ได้รับผลกระทบหนักจากสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นมานาน 4 ปีแล้ว

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เผิดเผยว่า เขาได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ในเมียนมา เกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว และรัฐบาลของเขาจะให้ความช่วยเหลือในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง การวิเคราะห์ของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งพิจารณาจากความรุนแรงและความลึกของแผ่นดินไหว คาดว่า อาจมีผู้เสียชีวิตหลายพันคนและสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง โดยภูมิภาคสะกายและมิถิลา หรือเมะทิลา (Meiktila) ได้รับผลกระทบหนักที่สุด

ส่วน อันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ หรือยูเอ็น แถลงว่า หลังเกิดแผ่นดินไหวในเมียนมา และประเทศเพื่อนบ้าน ยูเอ็นกำลังระดมความช่วยเหลือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยรัฐบาลเมียนมาได้ร้องขอการสนับสนุนจากนานาชาติ และเจ้าหน้าที่ยูเอ็นในเมียนมา ก็พร้อมติดต่อเพื่อระดมทรัพยากรในภูมิภาคสนับสนุนประชาชนในเมียนมาอย่างเต็มที่

ด้านสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทีมสารสนเทศ สังกัดสภาบริหารแห่งรัฐของเมียนมา รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 1,002 ราย บาดเจ็บ 2,376 ราย และสูญหาย 30 ราย ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงในเมียนมา เมื่อนับถึงวันเสาร์ (29 มี.ค.)