30 มี.ค. 2568 นสพ.South China Morning Post ของฮ่องกง รายงานข่าว Still reeling from drop in Chinese visitors, earthquake gives new blow to Thai tourism อ้างการเปิดเผยของ เทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ (Thienprasit Chaiyapatranun) นายกสมาคมโรงแรมไทย ที่ระบุว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณร้อยละ 10 เช็คเอาต์ก่อนกำหนดหลังเกิดแผ่นดินไหวในเมียนมา โดยอ้างจากการสำรวจเบื้องต้นในกลุ่มสมาชิก อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวบางส่วนได้กลับไปที่โรงแรมในเวลาต่อมา เนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่น
นอกจากนั้นยังให้ข้อมูลด้วยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยคาดว่าจะลดลงร้อยละ 10 - 15 หรือมากกว่านั้นในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากแผ่นดินไหวขนาด 7.7 เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้อาคารต่างๆ ในกรุงเทพฯ และแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ของไทยสั่นสะเทือน สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้ที่อาจเดินทางมาท่องเที่ยวในอนาคต โดยการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2568 นายกสมาคมโรงแรมไทย มองว่า ภาคการท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบในระยะสั้นเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย
ผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนแม้จะเป็นเพียงช่วงสั้นๆ ก็ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งเนื่องจากเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวของไทยมีสัดส่วนของแรงงานราว 1 ใน 5 ของแรงงานทั้งประเทศ และคิดเป็นประมาณร้อยละ 13 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ทางการไทยคาดหวังว่าประสิทธิภาพการท่องเที่ยวที่ปรับปรุงแล้วจะผลักดันการเติบโตเป็นร้อยละ 3 ในปี 2568 เนื่องจากการส่งออกสินค้า ซึ่งเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโต ต้องเผชิญกับอุปสรรคจากภาษีการค้าของรัฐบาลสหรัฐอเมริกายุคประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump)
สรวงศ์ เทียนทอง (Sorawong Thienthong) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย กล่าวกับสื่อเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2568 ยืนยันว่าประเทศไทยยังปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว และรัฐบาลได้สั่งให้ตรวจสอบความปลอดภัยของโรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ทั้งนี้ แม้แผ่นดินไหวจะเขย่าอาคารต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ จนต้องอพยพผู้คนและหยุดให้บริการขนส่งสาธารณะเป็นเวลา 1 วัน แต่ตัวเมืองกลับไม่ได้รับความเสียหายมากนักเมื่อเทียบกับมียนมาที่เผชิญความเสียหายอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม มีอาคารสูงที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในกรุงเทพฯ ถล่มลงมาจากแผ่นดินไหว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 ราย และมีผู้ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังอีกหลายสิบราย
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไปเยือนไทยก็ลดลงอยู่แล้วเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย สืบเนื่องจากคดีการค้ามนุษย์ที่พบเหยื่อหลายรายถูกล่อลวงผ่านไทยข้ามไปยังฐานปฏิบัติการองค์กรอาชญากรรมฉ้อโกงทางโทรคมนาคม หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมา ทำให้ชาวจีนซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่สุดของไทยหลีกเลี่ยงที่จะเดินทางไปที่นั่น
นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยว่า การจองห้องพักในโรงแรมช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผู้คนจะออกมาเล่นสาดน้ำในช่วงเดือนเมษายน สำหรับปี 2568 นั้นไม่ดีเท่าเมื่อสองปีก่อน และความกังวลด้านความปลอดภัยหลังจากเกิดแผ่นดินไหวอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเทศกาลตรุษจีนเมื่อต้นเดือน ก.พ. 2568 นักเศรษฐศาสตร์ของ Bank of America คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมาเยือนในปีนี้จะอยู่ที่ 38.1 ล้านคน ซึ่งถือเป็นช่วงโลว์ซีซั่น เนื่องจากนักท่องเที่ยวจากยุโรปจะลดน้อยลง และจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นตัว ขณะที่ข้อมูลของทางการไทย ระบุว่า ประเทศไทยซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวด้วยชายหาดที่สวยงาม ชีวิตกลางคืนที่คึกคัก และวัดพุทธ ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว 8.9 ล้านคนนับตั้งแต่ต้นปี เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 เมื่อเทียบกับปีก่อน
อดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ (Adith Chairattananon) เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) กล่าวว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเป็นกลุ่มไม่ได้กังวลเรื่องความปลอดภัยมากเท่ากับตารางเที่ยวบินปกติที่สนามบินหลักๆ ของไทย อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้จองตั๋วเดินทางมายังประเทศไทยอาจตัดสินใจหยุดแผนการเดินทาง โดยผลกระทบอาจเกิดขึ้นในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า
ขอบคุณภาพจากรอยเตอร์
ขอบคุณเรื่องจาก
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี