8 เมษายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัท Colossal Biosciences ในสหรัฐฯ ได้ฟื้นคืนชีพ 'ไดร์วูลฟ์' (Direwolf) หมาป่าดึกดำบรรพ์ที่สูญพันธุ์ไปเมื่อ 10,000 ปีก่อน ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยหมาป่าที่ผ่านการโคลนนิ่ง และดัดแปลงพันธุกรรม 3 ตัว กำลังเติบโตในสถานที่ปลอดภัยที่ไม่เปิดเผยในสหรัฐฯ  นั่นเพื่อเป้าหมายที่สำคัญ คือ การนำสายพันธุ์ที่สูญหายกลับคืนมา

นักวิจัยจาก Colossal Biosciences รายงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ระบุ ลูกหมาป่าซึ่งมีอายุตั้งแต่ 3 ถึง 6 เดือน มีขนสีขาวยาว กรามเป็นมัด มีน้ำหนักประมาณ 80 ปอนด์ และมีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักถึง 140 ปอนด์เมื่อโตเต็มวัย  "ไดร์วูลฟ์" นั้นมีขนาดใหญ่กว่าหมาป่าสีเทาซึ่งเป็นญาติที่ใกล้ชิดที่สุดในปัจจุบันมาก

ทีมงานนักวิจัยได้ตัวอย่างดีเอ็นเอเก่าแก่จากฟันของ ไดร์วูลฟ์ ที่มีอายุ 13,000 ปี กับดีเอ็นเอจากกะโหลกของไดร์วูลฟ์อายุ 72,000 ปี พวกเขาศึกษาลำดับของจีโนมและยีนของไดร์วูลฟ์มาเทียบกับหมาป่าเทาในปัจจุบัน ก่อนจะทำการแปลงรหัสพันธุกรรมที่เข้ากันได้ แล้วทำการสร้างตัวอ่อนแล้วนำไปฝากในครรภ์ของแม่สุนัขอุ้มบุญ พวกเขาได้คุณลักษณะของไดร์วูลฟ์มา 20 ประการที่ไม่เหมือนกับหมาป่าเทาจาก 14 ยีนที่สกัดออกมา 

ทำให้หมาป่าไดร์วูลฟ์ที่ออกมามีขนสีขาวนวลงดงาม ตัวใหญ่ หัวกว้าง ฟันขนาดใหญ่ และมีช่วงขาหน้าที่ทรงพลัง ซึ่งมากกว่าหมาป่าเทาเสียอีก ทั้งเสียงหอนและเสียงร้องยังไม่เหมือนกับหมาป่าเทาด้วย ซึ่งหมาป่าไดร์วูลฟ์ทั้ง 3 ตัว  เกิดเมื่อ 1 ตุลาคมเมื่อปี 2024 และปัจจุบันก็อายุได้ 6 เดือนแล้ว

เบธ ชาปิโร หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ Colossal กล่าวว่า นักวิทยาศาสตร์ได้นำเซลล์เม็ดเลือดจากหมาป่าสีเทาที่ยังมีชีวิต มาผ่านกระบวนการ CRISPR เพื่อดัดแปลงพันธุกรรมใน 20 ครั้ง พวกเขาถ่ายโอนสารพันธุกรรมนั้นไปยังเซลล์ไข่ของสุนัขบ้าน เมื่อพร้อมแล้ว ตัวอ่อนจะถูกถ่ายโอนไปยังสุนัขตัวแทน รวมถึงสุนัขบ้านด้วย และ 62 วันต่อมา ลูกสุนัขที่ดัดแปลงพันธุกรรมก็ถือกำเนิด โดยเป็นตัวผู้ 2 ตัว เกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2024 ชื่อ 'โรมูลัส' (Romulus) และ 'เรมุส' (Remus) พี่น้องฝาแฝดที่เชื่อว่ากันว่าเป็นผู้ก่อตั้งกรุงโรมและถูกเลี้ยงโดยหมาป่า และตัวเมีย 1 ตัว ที่เกิดเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2025 ชื่อ 'คาลีซี' (Khaleesi)