21 เมษายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า DHL Express (ดีเอชแอล เอ็กซ์เพรส) บริษัทขนส่งไปรษณีย์ในเครือเยอรมนี  หรือ Deutsche Post (ดอยช์ โพสต์) ประกาศระงับการส่งพัสดุประเภทจากธุรกิจถึงผู้บริโภค สำหรับพัสดุที่มีมูลค่ามากกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทย ประมาณ26,680 บาท  ให้แก่ลูกค้าในสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2565 เป็นต้นไป ไม่ว่าต้นทางจะมาจากที่ใดก็ตาม

สาเหตุที่พวกเขาต้องปรับการให้บริการเป็นเพราะ รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกข้อบังคับทางศุลกากรใหม่ โดยให้สินค้าที่มีมูลค่าเกิน 800 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบทางศุลกากรอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา จากเดิมที่ตรวจเฉพาะของที่มีมูลค่าเกิน 2,500 ดอลลาร์ขึ้นไป

โดยการส่งพัสดุประเภทธุรกิจถึงธุรกิจจะไม่ถูกยกเลิก แต่อาจต้องเผชิญกับความล่าช้า เนื่องจากมาตรการใหม่ของสหรัฐฯ ทำให้กระบวนการตรวจสอบและปล่อยสินค้านานขึ้น ขณะที่การส่งพัสดุประเภทจากธุรกิจถึงผู้บริโภค ที่ของมีมูลค่าไม่เกิน 800 ดอลลาร์ จะไม่ได้รับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงนี้ ทางบริษัทยืนยันด้วยว่า นี่เป็นเพียงมาตรการชั่วคราวเท่านั้น

'ดีเอชแอล เอ็กซ์เพรส' เคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร ยุติการยกเว้นภาษีศุลกากร สำหรับพัสดุขนาดเล็กซึ่งส่งออกมาจากจีน ภายใต้กฎซึ่งเรียกกันว่า de minimis (ดี มินิมิส) คือการที่สหรัฐอนุญาตให้พัสดุหรือสินค้า ซึ่งมีมูลค่าไม่เกิน 800 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถเข้าประเทศได้ โดยไม่ต้องเสียภาษีเพิ่ม

ภายใต้คำสั่งของ'โดนัลด์ ทรัมป์'พัสดุจากจีนที่ส่งเข้าสู่สหรัฐฯ จะถูกเก็บภาษีศุลกากรในอัตรา 90% ของมูลค่าของ หรือเก็บ 75 ดอลลาร์สหรัฐต่อชิ้น เริ่มตั้งแต่ 2 พฤษภาคม นี้เป็นต้นไป และการเก็บค่าธรรมเนียมเป็น 150 ดอลลาร์สหรัฐ ในวันที่ 1 มิถุนายน 2568 โดยพวกเขาจะยังคงส่งพัสดุทางเรือจากฮ่องกงไปยังสหรัฐฯต่อไป โดยจะปฏิบัติตามข้อบังคับด้านศุลกากรของสหรัฐฯ และจะปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ 2 พฤษภาคม