22 เม.ย. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Trump approval rating dips; many wary of his wielding of power, Reuters/Ipsos poll finds ระบุว่า ผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอส (Reuters/Ipsos) ที่เปิดให้แสดงความคิดเห็นเป็นเวลา 6 วัน โดยปิดการสำรวจไปเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2568 พบว่า โดนัลด์ ทรัมป์ (Donal Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้รับคะแนนนิยมลดลง โดยผู้ตอบแบบสอบถามประมาณร้อยละ 42 เห็นด้วยกับผลงานของทรัมป์ในฐานะประธานาธิบดี ซึ่งลดลงจากร้อยละ 43 ในการสำรวจครั้งก่อนหน้าเมื่อ 3 สัปดาห์ที่แล้ว และจากร้อยละ 47 ของการสำรวจในช่วงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2568
การเริ่มต้นวาระการดำรงตำแหน่งของทรัมป์ทำให้คู่ต่อสู้ทางการเมืองตกตะลึง เนื่องจากเขาได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารหลายสิบฉบับเพื่อขยายอิทธิพลของเขาทั้งหน่วยงานของรัฐและสถาบันเอกชน เช่น มหาวิทยาลัยและสำนักงานกฎหมาย และแม้ว่าคะแนนนิยมของทรัมป์จะยังคงสูงกว่าคะแนนนิยมที่พบเห็นในช่วงที่อดีตประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีส่วนใหญ่ แต่ผลการสำรวจก็ชี้ให้เห็นว่าชาวอเมริกันจำนวนมากไม่สบายใจกับการกระทำของเขาในการลงโทษมหาวิทยาลัยที่ถูกมองว่ามีแนวคิดเสรีนิยมเกินไป และการตั้งตนเองเป็นประธานคณะกรรมการของ Kennedy Center ซึ่งเป็นโรงละครและสถาบันทางวัฒนธรรมที่สำคัญในกรุงวอชิงตัน
ร้อยละ 83 ของจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 4,306 คน ระบุว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลรัฐบาลกลาง แม้ว่าจะไม่ต้องการก็ตาม ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลของทรัมป์อาจต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาหมิ่นศาลจากการฝ่าฝืนคำสั่งของผู้พิพากษารัฐบาลกลางที่สั่งระงับการเนรเทศผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกแก๊งเวเนซุเอลาซึ่งไม่มีโอกาสโต้แย้งการเนรเทศพวกเขา
ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 57 ซึ่งรวมถึง 1 ใน 3 ของผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน ต้นสังกัดของทรัมป์ ไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวที่ว่า เป็นเรื่องปกติที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ จะระงับเงินทุนจากมหาวิทยาลัย หากประธานาธิบดีไม่เห็นด้วยกับวิธีการบริหารจัดการมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ ทรัมป์ ซึ่งโต้แย้งว่ามหาวิทยาลัยล้มเหลวในการต่อสู้กับลัทธิต่อต้านชาวยิวในมหาวิทยาลัย ได้อายัดเงินของรัฐบาลกลางจำนวนมหาศาลที่จัดสรรไว้สำหรับมหาวิทยาลัยของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงเงินกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐสำหรับมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเพียงแห่งเดียว
ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนใกล้เคียงกัน ที่ร้อยละ 66 กล่าวว่า พวกเขาไม่คิดว่าประธานาธิบดีควรควบคุมสถาบันวัฒนธรรมชั้นนำ เช่น พิพิธภัณฑ์และโรงละครแห่งชาติ โดยเมื่อเดือน มี.ค. 2568 ทรัมป์ได้สั่งให้สถาบันสมิธโซเนียน ซึ่งเป็นศูนย์รวมพิพิธภัณฑ์และการวิจัยขนาดใหญ่ที่เป็นพื้นที่จัดนิทรรศการชั้นนำด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสหรัฐฯ ลบล้างอุดมการณ์ที่ไม่เหมาะสม
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ชาวอเมริกันที่ไม่เห็นด้วยกับผลงานของทรัมป์มีจำนวนมากกว่าชาวอเมริกันที่เห็นด้วยในทุกประเด็น ตั้งแต่อัตราเงินเฟ้อและการย้ายถิ่นฐาน ไปจนถึงภาษีและหลักนิติธรรม ในส่วนของการย้ายถิ่นฐาน ซึ่งเป็นประเด็นที่ทรัมป์ให้การสนับสนุนมากที่สุด ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 45 เห็นด้วยกับผลงานของทรัมป์ แต่ร้อยละ 46 ไม่เห็นด้วย ทั้งนี้ การสำรวจดังกล่าวของรอยเตอร์/อิปซอส มีค่าความคลาดเคลื่อนประมาณร้อยละ 2
ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 59 รวมถึง 1 ใน 3 ของผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า สหรัฐฯ สูญเสียความน่าเชื่อถือบนเวทีโลก ขณะที่ 3 ใน 4 กล่าวว่าทรัมป์ไม่ควรลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 3 ซึ่งเป็นแนวทางที่ทรัมป์เคยเปรยว่าต้องการ แม้ว่ารัฐธรรมนูญสหรัฐฯ จะห้ามไม่ให้ทำเช่นนั้นก็ตาม เช่นเดียวกับผู้ตอบแบบสอบถามในกลุ่มที่สนับสนุนพรรครีพับลิกัน ร้อยละ53 กล่าวว่าทรัมป์ไม่ควรลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 3
ขอบคุณเรื่องจาก
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี