24 เมษายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลังจากที่พระศพของ 'สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส' ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ได้ถูกอัญเชิญออกจากโบสถ์คาซาซานตา มาร์ตาในสถานที่ประทับของพระองค์ โดยมีคณะพระคาร์ดินัลและทหารองค์รักษ์สวิสซึ่งทำหน้าที่อารักขาพระสันตะปาปานำขบวน ก่อนเคลื่อนไปตามถนนเพื่อไปประดิษฐานยังมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ นครรัฐวาติกัน
โดยพระศพของ 'สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส' จะประดิษฐานอยู่ที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์จนถึงเย็นวันที่ 25 เมษายน เพื่อให้ประชาชนได้เข้าร่วมถวายสักการะพระศพเป็นครั้งสุดท้าย พบว่าประชาชนจำนวนมากหลั่งไหลมายังมหาวิหารแห่งนี้ และยืนต่อแถวยาว เพื่อรอเข้าถวายสักการะพระศพของ 'สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส' เป็นครั้งสุดท้าย โดยเมื่อผ่านไปประมาณ 9 ชั่วโมงแรก มีประชาชนเข้าถวายสักการะแล้วมากกว่า 19,400 คน ขณะที่สื่อท้องถิ่นอิตาลีรายงานว่าช่วงบ่ายวานนี้มีประชาชนต่อแถวรอเข้าไปยังมหาวิหารเซนต์ ปีเตอร์ส ประมาณ 100,000 คน เช่นเดียวกับ 'จอร์เจีย เมโลนี' นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางไปถวายสักการะพระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาแล้ว รวมถึงรัฐมนตรีต่างประเทศ และผู้นำพรรคเดโมแครตของอิตาลี
ขณะที่สำนักวาติกัน เปิดเผยว่า อาจขยายเวลาเปิดให้ประชาชนถวายสักการะ โดยกำหนดไว้ว่าในวันพุธและวันพฤหัสบดี ประชาชนสามารถเข้าถวายสักการะพระศพได้จนถึงเวลา 24.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ส่วนวันศุกร์จะเข้าถวายสักการะได้จนถึงเวลา 19.00 น.
ก่อนพิธีพระศพมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 26 เมษายนนี้ ที่มหาวิหารนักบุญเปโตร หรือ มหาวิหารเซนต์ ปีเตอร์ส บาซิลิกา ในนครรัฐวาติกัน ซึ่งผู้นำจากทั่วโลกรวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ พร้อมผู้นำจากอิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ ยูเครน สถาบันของสหภาพยุโรป และอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพระสันตะปาปาฟรานซิส ก็ได้ยืนยันการมาร่วมงานด้วยเช่นกัน
ด้านฟาบิโอ ซิซิเลียโน หัวหน้าหน่วยงานป้องกันพลเรือนของอิตาลี เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ Corriere della Sera ว่าคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานพิธีที่จัดขึ้นกลางแจ้งอย่างน้อย 200,000 คน
ส่วนการประชุมลับเพื่อเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่จะเริ่มขึ้นก่อนวันที่ 6 พฤษภาคม เนื่องจากขณะนี้พระคาร์ดินัลได้เริ่มทยอยเดินทางมายังกรุงโรมเพื่อกำหนดวันประชุมลับ หลังจากที่มีการหารือกันอย่างยาวนาน ไม่มีตัวเก็งผู้สืบทอดตำแหน่งจาก 'สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส' ที่ชัดเจน แม้ว่าบริษัทรับพนันของอังกฤษ จะระบุชื่อ 'หลุยส์ อันโตนิโอ ตาเกล' พระนักปฏิรูปจากฟิลิปปินส์ และ 'เปียโตร ปาโรลิน' จากอิตาลี ว่าเป็นผู้ที่ที่เป็นตัวเก็งในช่วงแรกๆ ก็ตาม ในระหว่างนี้ ในช่วงเวลาที่เรียกว่า 'sede vacante'(ที่นั่งว่าง) ของคริสตจักรนิกายโรมันคาธอลิกทั่วโลก 'พระคาร์ดินัล ฟาร์เรลล์' จะเป็นผู้รับผิดชอบภารกิจประจำวันแทนโป๊ปฟรานซิส
-013
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี